เริ่มมีลูกค้าบางท่านที่มีโปรดักส์เป็น ครีม อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ติดต่อเข้ามาเพื่อให้ทำการตลาดออนไลน์ สิ่งที่ผู้เขียนตกใจคือ เจ้าของแบรนด์มักจะสั่งผลิตสินค้าก่อนที่จะวางแผนทำการตลาดเสียด้วยซ้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ
สินค้า OEM คืออะไร
การผลิตสินค้า OEM คือการจ้างผลิตสินค้า ไม่เพียงแค่ ครีม หรือ เครื่องสำอางค์ สบู่ ยังมีพวก กระเป๋า รองเท้า และอื่นๆ ที่ต้องสั่งทำกับโรงงาน ถือว่าเป็นลักษณะงานประเภทอุตสาหกรรมที่เจ้าของแบรนด์ต้องไปพึ่งพาเครื่องจักรและเทคโนโลยีของโรงงาน
ขั้นตอนการทำงานกับโรงงาน OEM เป็นอย่างไร
- เริ่มต้นเมื่อเราคิดอยากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเองแล้ว เราก็จะมองหาโรงงานผลิตที่ให้บริการผลิตสินค้านั้นกับเราได้ ผลิตภัณฑ์ยอดฮิตได้แก่
ประเภทครีม ครีมผิวขาว, ครีมบำรุงผิว, สบู่, โลชั่น
ประเภทเครื่องสำอาง แป้ง, คุชชั่น, บีบี, ซีซี
ประเภทของใช้ รองเท้าผ้าใบ, รองเท้าแฟชั่น
- ขั้นตอนต่อมาทางโรงงาน OEM จะส่งสินค้าตัวอย่างมาให้คุณลองใช้ทดสอบ แน่นอนว่าย่อมมีค่าสินค้าทนสอบนั้นด้วย เล็กๆ น้อยๆ ก็ 3,000 บาท (แค่ค่าของทดสอบอย่างเดียวนะ เพราะคุณเปิดใช้แล้วโรงงานจะเอากลับไปทำอย่างอื่นก็ไม่ได้แล้ว) ถ้าโอเค ก็สั่งผลิตตามขั้นต่ำ 100 ชิ้น, 200 ชิ้น (ตามโฆษณาที่ว่า มีเงิน 9,900 บาทก็เป็นเจ้าของแบรนด์ของตัวเองได้) หากคุณอยากปรับแต่งกลิ่น สี เพิ่มเติมด้วยสูตรของคุณเอง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30,000 บาท เป็นต้น
- ขั้นตอนสุดท้ายก่อนรับงาน คือ ออกแบบแพ็คเกจบรรจุภัณฑ์ ออกแบบโลโก้ ซึ่งบริษัทก็จะมีรูปแบบมาให้คุณเลือกอีกเช่นกัน
จากข้อ 1 ถึง ข้อ 3 หากคุณจะเป็นเจ้าของแบรนด์เห็นได้ชัดว่าจะเกิดการแย่งตลาดกันอย่างมาก เพราะหากคุณอยากจะผลิตสินค้า 100 ชิ้น ไม่ทำสูตรพิเศษเพิ่มเติม และมีคนคิดอย่างเดียวกับคุณ 100 คน ก็จะมีสินค้าออกสู่ตลาด 10,000 ชิ้น ที่หน้าตาเหมือนกันไปหมด คุณคิดว่าคุณจะมีพลังจูงในผู้ซื้อมาซื้อสินค้าของคุณคนเดียวได้อย่างไร?
บริษัทรับทำการตลาด
ในเมื่อคุณไม่สันทัดเรื่องการหาลูกค้า ก็จะมีทีมที่เข้ามาช่วยเหลือคุณทำการตลาด บริษัทบางแห่งจะต้องยอมแยกระหว่างศีลธรรมกับธุรกิจออกจากกัน ซึ่งอย่างแรกอาจจะทำให้ได้เงินน้อยกว่า แต่บางคนก็เลือกเน้นความเป็นธุรกิจ ดังนี้
เล่า Story ลอย แต่งเรื่องราวที่ใกล้เคียงกับสินค้าหรือบริการที่ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาจริงๆ เช่น โรคบางอย่างที่รักษาให้หายได้ด้วยการกินผลิตภัณฑ์ตัวนี้ หรือแม่ค้าที่ขายสินค้าชิ้นเดียวแล้วรวยได้ทันที เลี้ยงลูกและสามีได้เป็นกอบเป็นกำ เชื่อหรือไม่ว่ามีผู้รับทำ Content ประเภทนี้ด้วย อย่างครบวงจร เท่านั้นยังไม่พอ..
มีรีวิว Before & After จำหน่าย น่าตกใจมากว่าสินค้ายังผลิตไม่เสร็จ ทางโรงงานก็สามารถหาภาพ Before & After มานำเสนอให้กับแบรนด์ จำหน่ายในราคา 100 รูป 10,000 บาทก็มี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก เปลี่ยนรูปผิวดำเป็นรูปขาวด้วยการรีทัชแต่งเติมภาพ แล้วพอมีแบรนด์ใหม่มาซื้อก็ให้เปลี่ยนรูปโลโก้เอา ถือเป็นความสบายใจของผู้บริโภคเองว่าจะเชื่อหรือไม่?
สวม อย. สินค้าประเภทอาหารเสริมและครีมนี้บางทีทางโรงงานให้ใช้เลขอย. ที่ อย. มอบให้กับสินค้าของโรงงาน ไม่ได้มอบให้กับสินค้าตัวนั้นๆ ที่ปรุงสูตรขึ้นมาใหม่ และเมื่อสินค้ามีการเปลี่ยนแพ็คเกจ ทางโรงงานก็เพียงแค่นำเลขตรงนั้นมาพิมพ์ .. ในแง่ของผู้ผลิตนั้นคงไม่มีปัญหาอย่างไร แต่เสี่ยงกับผู้บริโภคมาก ไม่มีใครรับรองได้ว่ากินเข้าไปแล้วตับไตจะพังไหม? รู้อีกทีอาจจะเป็นข่าวหน้าหนึ่ง
ใครได้ประโยชน์ที่สุดจากสินค้า OEM
ยกตัวอย่างแป้งที่มีต้นทุนการผลิตตลับละ 50 บาท นำมาจำหน่ายได้ราคาตั้งแต่ 250 – 500 บาทก็มี ส่วนต่างที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นเรื่องของใจล้วนๆ ที่ผู้บริโภคยอมจะเสียเงินซื้อหรือไม่? และยิ่งสินค้าที่สั่งทำได้ในจำนวนมากก็สามารถลดต้นทุนไปได้อีก
ในสินค้าเดียวกัน คนที่สั่งผลิตสินค้า 100 ชิ้น กับคนที่สั่งผลิต 1,000 ชิ้น แน่นอนว่าเจ้าของแบรนด์ที่สองนี้ได้ต้นทุนต่อชิ้นต่ำกว่าแน่นอน
หากคุณกำลังคิดอยากจะเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตขั้นต่ำ 100 ชิ้น งบประมาณ 10,000 บาท หากมีคนคิดอย่างคุณ 100 คน โรงงานก็ได้เงินนอนรอในกระเป๋าแล้ว 1,000,000 บาท การเติบโตของธุรกิจนี้จึงให้ประโยชน์กับโรงงานผลิตสินค้า OEM มากกว่า
และโดยเฉพาะบริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ เขาไม่มีต้นทุนในการทำงานเลย (อาจจะมีต้นทุนการทำ Graphic และ เสียค่าโฆษณาให้กับเซเล็ปหรือ Facebook) ยิ่งเป็นอีกกลุ่มที่ได้รายได้จากตลาด OEM มาก
แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจาก OEM มีไหม?
หากพูดถึงแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจาก OEM นั้นมีไหม? คำตอบคือ “มี” แต่แทบจะเป็น 1 ใน 100,000 คน ที่ลุกขึ้นมาทำธุรกิจส่วนตัวเลยก็ได้ แบรนด์กระเป๋าที่ผลิตที่ฮ่องกง แบรนด์รองเท้าที่ผลิตที่จีน หรือเครื่องสำอางค์ที่สั่งผลิตจากโรงงานที่เกาหลี มีให้เห็นอยู่บ้าง อาจจะเป็นแบรนด์ที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ตีตลาดล่างถึงตลาดบน แต่ที่เคยรู้มานั้น เงินลงทุนเริ่มต้นอยู่ที่ 3,000,000 บาท ..แค่ค่าผลิตอย่างเดียว ไม่รวมค่าโฆษณา
ทีนี้หากจะเริ่มลงทุนเพียงหลักหมื่น หลักแสน ลองถามใจตัวเองว่าพร้อมที่จะลงแรงด้านการตลาดและลงความคิดเพิ่มไหม? สินค้าของเรามีจุดเด่นกว่าแบรนด์ OEM อื่นอย่างไร คนอื่นถึงต้องมาซื้อกับเรา? แต่ดูเงินในกระเป๋าของตัวเองให้ดีเก็บเล็กผสมน้อยก่อน ระวังเงิน 10,000 หลุดไปเข้ากระเป๋าคนอื่นง่ายๆ นะจ้ะ
เรื่องโดย : Admin #MycontentThai
ภาพ : internet
5 Comments