ไทยกับกัมพูชารบกันเพราะอะไร

ไทยกับกัมพูชารบกันเพราะอะไร ความขัดแย้งครั้งนี้มีโอกาสจบลงไหม?

หากพูดถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา หนึ่งในประเด็นที่ฝังรากลึกที่สุด คือ กรณีข้อพิพาทเรื่อง “เขาพระวิหาร” ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง ความขัดแย้งนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องพรมแดนธรรมดา แต่พัวพันถึงศักดิ์ศรีของชาติและอำนาจอธิปไตย

เขาพระวิหาร (Preah Vihear) คือปราสาทหินโบราณที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ติดกับจังหวัดพระวิหารของกัมพูชา จุดยุทธศาสตร์ของปราสาทแห่งนี้อยู่บนสันเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นพื้นที่สูง ทำให้สามารถมองเห็นพื้นที่รอบข้างได้ไกล เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์และมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับทั้งสองประเทศ

ในอดีต ไทยและกัมพูชาเคยมีความขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นเกิดการปะทะกันด้วยอาวุธ บริเวณชายแดน โดยเฉพาะช่วงปี 2551–2554 มีการเสียชีวิตของทหารทั้งสองฝ่าย และประชาชนต้องอพยพจากพื้นที่แนวชายแดนเป็นจำนวนมาก

อะไรคือสาเหตุของความขัดแย้งในกรณีเขาพระวิหาร?

ไทยกับกัมพูชารบกันเพราะอะไร

คำตอบหนึ่งเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะสาเหตุของความขัดแย้งนี้มีหลายชั้น ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การตีความกฎหมายระหว่างประเทศ ไปจนถึงการเมืองภายในของทั้งสองประเทศ

1. ประวัติศาสตร์อาณานิคมและแผนที่ของฝรั่งเศส

ต้นเหตุของความขัดแย้งย้อนกลับไปถึงยุคล่าอาณานิคม เมื่อฝรั่งเศสเข้ามามีอิทธิพลในกัมพูชาและทำแผนที่บริเวณพรมแดน แผนที่ฉบับหนึ่งในปี 1907 ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้น แสดงให้เห็นว่าเขาพระวิหารอยู่ในเขตของกัมพูชา แต่ประเทศไทย (สมัยนั้นคือสยาม) อ้างว่าแนวพรมแดนควรเป็นไปตาม “สันปันน้ำ” ซึ่งจะทำให้เขาพระวิหารอยู่ฝั่งไทย

ไทยกับกัมพูชารบกันเพราะอะไร เขาพระวิหาร

2. คำตัดสินของศาลโลกปี 1962

ในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ตัดสินให้ เขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา โดยให้เหตุผลว่าไทยเคยยอมรับแผนที่ของฝรั่งเศสมาก่อน และไม่มีการคัดค้านอย่างเป็นทางการ การตัดสินนี้ทำให้ไทยต้องถอนกำลังและส่งคืนโบราณวัตถุบางส่วนให้กัมพูชา

ไทยกับกัมพูชารบกันเพราะอะไร เขาพระวิหาร

3. ไทยเสียเขาพระวิหารเพราะอะไร?

หลายฝ่ายมองว่า ไทยเสียเขาพระวิหารเพราะความผิดพลาดในการทูตและการไม่คัดค้านแผนที่ฝรั่งเศสตั้งแต่แรก ในขณะที่กัมพูชาใช้หลักฐานที่ไทยเคยยอมรับมาแล้วในการชี้ขาดโดยศาลโลก ประเด็นนี้จึงกลายเป็นความรู้สึก “เสียศักดิ์ศรี” สำหรับคนไทยบางกลุ่ม และเป็นชนวนความไม่พอใจเรื้อรังต่อมา

4. ใครชนะในศึกปราสาทพระวิหาร?

หากนับในแง่ของคำตัดสินทางกฎหมายระหว่างประเทศ กัมพูชาถือว่าชนะในปี 2505 และยังได้รับการสนับสนุนจาก UNESCO ให้ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกในปี 2551 แต่ในแง่ของจิตวิทยาสังคมไทย ยังมีความรู้สึกว่า พื้นที่โดยรอบยังควรอยู่ในการควบคุมของไทย ทำให้เกิดข้อพิพาทซ้ำซ้อนเรื่อง “พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร” รอบปราสาทที่ไม่ได้ถูกตัดสินแน่ชัด

ไทยกับกัมพูชามีอะไรเหมือนกัน?

ในขณะที่สองประเทศนี้มีความขัดแย้งในด้านหนึ่ง แต่อีกด้านหนึ่งก็มีความใกล้ชิดหลายประการ ได้แก่

  • ภาษา: แม้จะต่างกัน แต่ภาษาขแมร์มีคำยืมจากภาษาไทยมาก และคนไทยอีสานบางส่วนยังสามารถสื่อสารด้วยภาษาขแมร์
  • วัฒนธรรม: พุทธศาสนาแบบเถรวาท, การละเล่นพื้นบ้าน, เครื่องแต่งกาย และประเพณีต่าง ๆ มีความคล้ายคลึง
  • เศรษฐกิจ: ไทยเป็นหนึ่งในนักลงทุนหลักในกัมพูชา และมีการค้าชายแดนจำนวนมาก
  • ประชาชน: มีแรงงานกัมพูชาหลายแสนคนเข้ามาทำงานในไทย และมีการแต่งงานข้ามชาติในพื้นที่ชายแดน

ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา มีโอกาสจบลงไหม?

คำตอบคือ “มีโอกาส” หากทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ร่วมและสร้างความเข้าใจในระดับประชาชน แม้จะมีประวัติศาสตร์บาดลึก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาดีขึ้นอย่างชัดเจน ผ่านการทูต เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการศึกษา รวมถึงความพยายามเจรจาแบบทวิภาคีภายใต้กรอบอาเซียน

ปัจจัยที่เอื้อต่อการคลี่คลายความขัดแย้ง ได้แก่:

  • ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เติบโต
  • ความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับชายแดน
  • การใช้กลไกอาเซียนเพื่อเจรจา
  • ความเข้าใจที่มากขึ้นในหมู่ประชาชนรุ่นใหม่ ที่เริ่มแยกแยะระหว่าง “ประวัติศาสตร์” กับ “โอกาสทางอนาคต”

ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยเฉพาะกรณีเขาพระวิหาร เป็นบทเรียนสำคัญของการเมืองระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ อธิปไตย และอารมณ์ชาตินิยม ถึงแม้คำถามอย่าง “ไทยเสียเขาพระวิหารเพราะอะไร” หรือ “ใครชนะในศึกปราสาทพระวิหาร” จะยังเป็นข้อถกเถียง แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการมองไปข้างหน้าและพัฒนา “มิตรภาพอย่างยั่งยืน” บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน

คำค้นหา : ไทยเสียเขาพระวิหารเพราะอะไร, อะไรคือสาเหตุของความขัดแย้งในกรณีเขาพระวิหาร, ไทยกับกัมพูชามีอะไรเหมือนกัน, ใครชนะในศึกปราสาทพระวิหาร, ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา

Read More :

ใส่ความเห็น