จากบทความ วิธีเลือกประกันสุขภาพเด็กตามอายุ และความจำเป็น (ตอนที่ 1) ที่เราได้เกริ่นวิธีการเลือกประกันสุขภาพเด็กแบบคร่าวๆ บทความนี้จะลงดีเทลของประกันแต่ละแบบ เพื่อได้ความคุ้มค่าในการจ่ายเบี้ยประกัน
รู้ก่อนจ่าย ! ประกันสุขภาพเด็ก มีกี่แบบ

คำศัพท์ที่ควรรู้ในบทความนี้
1. เบี้ยประกัน หมายถึง เงินที่เราต้องจ่ายเพื่อแลกรับความคุ้มครองในทุนประกัน เช่น ทำประกันชีวิตทุนประกัน 1 ล้านบาท จ่ายเบี้ย 15,000 บาท แปลว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันเสียชีวิต เราจ่าย 15,000 บาท แต่ได้ความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
2. ทุนประกัน คือ ความคุ้มครองตามสัญญา เช่น ทุนประกันชีวิต 500,000 บาท เราไม่ต้องจ่าย 500,000 บาทในทีเดียว ทางประกันจะให้เราจ่ายเบี้ยประกันจำนวนหนึ่งเพื่อให้ได้ความคุ้มครองจำนวน 500,000 บาท
3. OPD หมายถึง การรักษาแบบผู้ป่วยนอก คือค่ารักษาที่เกิดจากเราไปหาหมอแต่ละครั้ง ไม่ค้าง และกลับบ้าน หรือเป็นการรักษาที่อยู่ในโรงพยาบาลไม่ถึง 8 ชั่วโมง
4. IPD หมายถึง การรักษาแบบผู้ป่วยใน คือการรักษาที่ต้องค้าง หรือนอนโรงพยาบาล อยู่ในโรงพยาบาลเกิน 8 ชั่วโมง
5. ประกันกลุ่ม หมายถึง ประกันที่ทำร่วมกับคนอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็น ประกันกลุ่มบริษัท และประกันของนักเรียนนักศึกษาในสถาบันเดียวกัน
6. ระยะเวลารอคอย หมายถึง ระยะเวลาประมาณ 120 วัน หลังจากบริษัทประกันส่งมอบกรมธรรม์ หากป่วยในระยะเวลารอคอย ประกันยังไม่จ่าย
7. แฟกซ์เคลม (Fax Claim) หมายถึง การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลคู่สัญญา ที่ประกันจะจ่ายให้โรงพยาบาล เมื่อมีส่วนเกินก็สามารถเก็บจากประกันตัวที่สอง หรือเก็บจากผู้ป่วยโดยตรง
รู้ทันแผนประกันสุขภาพเด็กแบบต่างๆ ก่อนจ่ายเบี้ย
หากคุณกำลังตามหา ประกันสุขภาพเด็กเจ้าไหนดี? แผนประกันสุขภาพเด็ก ไม่ว่าจะเป็นของบริษัทไหนก็ล้วนแล้วแต่ออกแบบมาได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าทั้งนั้น แต่หากเราได้เคลมความคุ้มครองอย่างพอดี ไม่ได้จ่ายเบี้ยทิ้ง และมีตัวแทนที่ดูแลเราเป็นอย่างดี ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพนี้เหมาะสม มาดูแผนประกันสุขภาพเด็กคร่าวๆ ในประเทศไทย มีแบบไหนบ้าง
1. ประกันสุขภาพเด็ก แบบสัญญาพ่วงประกันชีวิต
ตัวแทนที่มาเสนอแผนประกันลักษณะนี้ จะเป็นการแจ้งทำทุนชีวิตหลัก เช่น 400,000 บาท, 1,000,000 บาท แล้วค่อยมาเติมสัญญาความคุ้มครองด้านสุขภาพ เรียกว่าเป็นสัญญาพ่วง มีค่าห้อง, ค่าแพทย์ สำหรับการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) รวมไปถึงชดเชยรายได้รายวันของผู้ปกครอง และประกันอุบัติเหตุต่างๆ ได้ด้วย
ข้อดี : หากทำตั้งแต่แรกเกิด คุ้มครองโรคที่เป็นมาแต่กำเนิด
ข้อควรพิจารณา :
1. รวมแล้วค่าเบี้ยต่อปีสูง
2. ถ้าป่วยด้วยโรคคล้ายๆ กันในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน รอบหน้าประกันอาจไม่จ่ายทั้งหมด
2. ประกันสุขภาพเด็กแบบออมทรัพย์
ประกันสุขภาพเด็กแบบออมทรัพย์ คือ ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ที่พ่วงสัญญาสุขภาพแบบข้อ 1 แต่มีข้อสัญญาที่พูดถึงการออมมากกว่า ประกันลักษณะนี้เบี้ยค่อนข้างสูงกว่าแบบที่ 1 และเมื่อเทียบกับความคุ้มครอบครองด้านการรักษาพยาบาลแล้ว หากจะให้ Cover ค่าแพทย์ ค่ารักษาทั้งหมด เบี้ยจะสูงมาก
ข้อดี : ได้ความคุ้มครองผลประโยชน์ทุกด้าน
ข้อควรพิจารณา :
1. รวมแล้วค่าเบี้ยต่อปีสูงกว่าแบบอื่นๆ
2. ถ้าป่วยด้วยโรคคล้ายๆ กันในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน รอบหน้าประกันอาจไม่จ่ายทั้งหมด
3. ถ้าเคลมบ่อย ปีต่อไปค่าเบี้ยจะเพิ่ม

3. ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่ายค่ารักษาตามจริง
ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่ายตามจริงนี้ จะไม่แยกค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล บางบริษัทให้ความคุ้มครองไปถึงการรักษาอุบัติเหตุด้วย ผู้ปกครองไม่ต้องกังวลเรื่องค่าห้องส่วนเกิน หรือส่วนต่างค่าแพทย์ ยกตัวอย่างเช่น ประกันสุขภาพเหมาจ่าย 50,000 บาท หมายถึงการเจ็บป่วยค่ารักษาในครั้งนั้น หากไม่เกิน 50,000 บาท ก็จะเคลมได้ทั้งหมด
ข้อดี : หมดกังวลเรื่องค่าส่วนเกินจากค่าห้อง ค่าแพทย์ ค่าอาหาร และอื่นๆ
ข้อควรพิจารณา :
1. ประกันเหมาจ่ายส่วนใหญ่คุ้มครองเฉพาะ การรักษาผู้ป่วยใน (IPD) แบบต้องนอนโรงพยาบาล
2. ถ้าเคลมบ่อย ปีหน้าค่าเบี้ยจะขึ้น

4. ประกันสุขภาพเด็ก OPD + IPD
แผนประกันสุขภาพเด็กแบบ OPD + IPD จะเคลมได้ 2 อย่าง คือ นอน กับ ไม่นอนโรงพยาบาล แต่สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เมื่อป่วยด้วยโรคใดโรคหนึ่ง OPD 500 – 3,000 บาท ก็แทบจะไม่พอ ดังนั้นผู้ปกครองส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะจ่ายตรงนี้เอง แล้วเลือกทำแบบความคุ้มครองที่ต้องนอนโรงพยาบาล IPD
ประกันประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับพ่อแม่ที่มีสิทธิ์เบิกข้าราชการ, รัฐวิสาหกิจ หรือสิทธิ์เบิกบริษัท เพื่อเลือกให้ลูกได้รับการรักษาที่เร็วและทันท่วงทีจากโรงพยาบาลเอกชน ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องรอห้องนาน
ข้อดี : ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลให้กับพ่อแม่ที่มีสิทธิ์เบิกอยู่อย่างน้อย 1 สิทธิ์ เช่น เบิกข้าราชการ หรือเบิกบริษัท
ข้อควรพิจารณา :
1. ทุนประกัน 500 บาท อาจจะไม่พอสำหรับเด็กที่ไม่มีสิทธิ์เบิกอื่นๆ เลย
2. หากเลือกทำประกันประเภทนี้ก็ต้องสอดคล้องกับโรงพยาบาลใกล้บ้านที่จะเข้ารักษาด้วย บางสถานที่ไม่มีโรงพยาบาลเอกชน ต้องเข้าโรงพยาบาลรัฐอย่างเดียว ก็ไม่ได้ใช้ประกัน ทางบ้านใช้สิทธิ์ สปสช. เดิมอาจจะสะดวกกว่า
5. ประกันสุขภาพเด็ก IPD อย่างเดียว
ประกันสุขภาพเด็กแบบนอนโรงพยาบาลอย่างเดียว เป็นแผนที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่นิยมทำไว้ เพราะช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาได้ถึงหลักแสน ด้วยเบี้ยที่พอรับได้ ไม่แพงมาก บางบ้านมีลูกหลายคน ก็ต้องเลือกแผนนี้ และยอมจ่ายค่ารักษาส่วนแรก ซึ่งมักไม่เกิน 20,000 บาทไปก่อน
ข้อดี : จ่ายเบี้ยน้อย เมื่อเทียบกับประกันสุขภาพแบบอื่น และได้ความคุ้มครองเมื่อต้องนอนโรงพยาบาลอย่างคุ้มค่า
ข้อควรพิจารณา :
1. ผู้ปกครองต้องจ่ายค่ารักษาส่วนแรก ทั้งค่าตรวจ OPD และบางแผนประกัน จะคุ้มครองหลังจากค่ารักษา 20,001 บาทขึ้นไป
2. มีให้เลือกแบบประกันเฉพาะโรค กับประกันที่ครอบคลุมได้ทุกโรค ผู้ปกครองต้องอ่านรายละเอียดและสอบถามตัวแทนอย่างดี

6. ประกันสุขภาพเด็กเฉพาะโรคฮิต
ประกันสุขภาพเด็ก คุ้มครองโรคยอดฮิต เหมาะสำหรับเด็กวัย 3 ขวบที่เข้าโรงเรียนแล้ว และเด็กเล็กคนน้องที่มีพี่เข้าโรงเรียนแล้ว โดยจะต้องเจอะกับโรคไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก, RSV, ปอดอักเสบ แต่ถ้าไม่ได้เป็นโรคเหล่านี้ก็เคลมไม่ได้
ข้อดี : จ่ายเบี้ยน้อย คุ้มครองการนอนโรงพยาบาลในโรคที่มักเกิดกับเด็กตามสัญญา
ข้อควรพิจารณา :
1. ประกันจ่ายค่ารักษาให้กับโรคที่ระบุไว้ในสัญญาเท่านั้น ไม่คุ้มครองโรคที่นอกเหนือจากนั้น
2. เด็กบางคนก็ไม่เคยต้องใช้เคลม
7. ประกันสุขภาพเด็ก + ประกันอุบัติเหตุ
ประกันสุขภาพเด็กที่รวมแผนประกันอุบัติเหตุด้วย เป็นแผนที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็ก โดยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็กต่อครั้งมีโอกาสเสียค่าใช้จ่าย 20,000 – 50,000 บาท ตามความรุนแรง ซึ่งการ X-Ray หนึ่งครั้งก็หลักหมื่นแล้ว ยิ่งเป็นเด็กเล็ก มีโอกาสศีรษะกระแทก ต้องเลือกแผนที่คุ้มค่ากับการจ่ายเบี้ย
ข้อดี : ได้ความคุ้มครองทั้งสุขภาพ และอุบัติเหตุ
ข้อควรพิจารณา :
1. สามารถเลือกทำไว้เป็นประกัน TOP UP เสริมสิทธิ์เดิมที่มีอยู่ได้
2. วงเงินค่ารักษาอุบัติเหตุค่อนข้างคำนวณยากที่จะเลือกตามความเหมาะสม
8. ประกันสุขภาพเด็ก + ชดเชยรายได้รายวันให้ผู้ปกครอง
แผนประกันสุขภาพเด็กที่ได้ค่าชดเชยรายวันแก่ผู้ปกครองที่สูญเสียรายได้เฝ้าไข้ มีให้เลือกค่าชดเชยตั้งแต่ 500 – 1,000 บาทต่อวัน แม้ว่าแผนนี้ใครก็ทำได้แต่เหมาะสำหรับบ้านที่มีรายได้รายวันมากกว่า เพราะถ้าเสริมการชดเชยรายได้รายวันเข้าไปในแผนประกันจะจ่ายค่าเบี้ยที่สูงขึ้น ถ้าไม่ค่อยได้แอดมิทก็อาจจะไม่คุ้ม
ข้อดี : เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีรายได้รายวัน และมีบุตรหลานหลายคน
ข้อควรพิจารณา :
1. ถ้าปีนั้นไม่ค่อยได้นอนแอดมิท ก็ได้รับค่าชดเชยน้อยตามวันที่นอน
9. ประกันสุขภาพเด็ก + ทุนคุ้มครองชีวิตบิดามารดา
มีแผนประกันสุขภาพอีกแบบหนึ่งที่รวมการคุ้มครองการเสียชีวิตของบิดามารดาไว้ด้วย ทุนประกันของบิดามารดาอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท ถึงหลักล้านบาท ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ที่จะเลือกทำประกันสุขภาพอย่างเดียว แต่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมีประกันสักกรมธรรม์แล้วต้องการลดความเสี่ยงหากผู้หารายได้หลักของครอบครัวเสียชีวิต
ข้อดี : ได้ความคุ้มครองบิดามารดาด้วย บางแบบนำไปลดหย่อนภาษีได้
ข้อควรพิจารณา :
1. ต้องอ่านรายละเอียดดีๆ ว่าคุ้มครองการรักษาโรคอะไรบ้าง
2. เบี้ยประกันแผนประเภทนี้ มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า OPD หรือ IPD เพราะฉะนั้นต้องอ่านรายละเอียดให้ดีก่อนทำประกัน
10. ประกันอุบัติเหตุอย่างเดียว ที่ไม่มีประกันสุขภาพ
ประกันเด็กแบบประกันอุบัติเหตุอย่างเดียว จ่ายเบี้ยแยกจากประกันแบบอื่นๆ ได้ หากเพิ่งมีลูกจะทำตั้งแต่ขวบปีแรก หรือช่วงวัยก่อนเข้าโรงเรียนก็ได้ เพราะหากเข้าโรงเรียนแล้วทางโรงเรียนจะบังคับทำประกันกลุ่มแบบหนึ่ง ที่สามารถเบิกเคลมได้
ข้อดี : จ่ายเบี้ยน้อย คุ้มครองค่ารักษาอุบัติเหตุในวงเงินที่สูง
ข้อควรพิจารณา :
1. จ่ายเบี้ยรายปีจะถูกกว่าจ่ายเบี้ยรายเดือน
2. ซื้อแยกจากประกันแบบอื่นๆ ได้
3. มีไม่กี่เจ้าที่รับทำตั้งแต่อายุเด็กแรกเกิด หรือ 15 วัน
สุดท้ายนี้เรื่องทำประกันเด็ก เหมือนจะเข้าใจยาก แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่จะเรียนรู้ บทความหน้าจะยกตัวอย่างที่เข้าใจง่ายๆ พร้อมแผนประกันภัยที่พ่อแม่สามารถเลือกทำให้บุตรหลานได้เลยครับ.
Read More :
- วิธีเลือกประกันสุขภาพเด็กตามอายุ และความจำเป็น (ตอนที่ 1) วิธีเลือกประกันสุขภาพเด็ก 2567 ให้คุ้มค่าเบี้ยที่จ่าย
- วิธีเลือกประกันสุขภาพเด็กตามอายุ และความจำเป็น (ตอนที่ 2) รู้ก่อนจ่าย ! ประกันสุขภาพเด็ก มีกี่แบบ
- วิธีเลือกประกันสุขภาพเด็กตามอายุ และความจำเป็น (ตอนที่ 3) รู้จักสิทธิ์รักษาขั้นพื้นฐานของแต่ละคน
- รีวิวโรงพยาบาลกรุงไทยเวสเทิร์น นนทบุรี รพ.เปิดใหม่บริการ 24 ชั่วโมง
- ประกันสุขภาพเด็ก 4 โรคฮิต care for kids เมืองไทยประกันภัย สำหรับเด็ก 5 ขวบขึ้นไป
แท็ก : ประกันเด็ก 2567,ประกันเด็กที่ไหนดี,ประกันสุขภาพลูกน้อย,ประกันเด็กเหมาจ่าย,ประกันเด็กที่ไหนดี,ประกันสุขภาพเด็กรายเดือน,ประกันสุขภาพเด็ก 3 ขวบ,ประกันเด็ก AIA ดีไหม,ประกันสุขภาพเด็กโต,วิธีเลือกประกันสุขภาพเด็ก,ประกันสุดคุ้มเพื่อลูกน้อย,ประกันเด็ก alianz,ประกันสุขภาพเด็ก,ประกันสุขภาพเด็ก generali,เด็กต้องทำประกันไหม,ประกันวัยซน กสิกร,ประกัน PA for kid กสิกร,ประกันให้ลูก,ทำประกันให้ลูก aia,วิธีเลือกประกันสุขภาเด็ก,ประกันอุบัติเหตุเด็ก

