ยางรถยนต์คือชิ้นส่วนเดียวของรถที่สัมผัสกับพื้นถนน ดังนั้นการปล่อยให้ยางเสื่อมสภาพจึงเท่ากับเอาชีวิตไปเสี่ยงกับอุบัติเหตุ ยางที่หมดสภาพไม่เพียงแต่ทำให้การขับขี่แย่ลง แต่ยังเสี่ยงต่อการ “ยางระเบิด” หรือ “ลื่นไถล” ได้ง่าย บทความ Mycontent-thai.com นี้จะช่วยคุณเช็ก 10 สัญญาณเตือนว่ายางรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพ ที่คุณสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองครับ
10 สัญญาณที่บ่งบอกว่ายางรถเริ่มเสื่อมสภาพ: เช็กก่อนสาย เพื่อความปลอดภัยทุกเส้นทาง
1. ดอกยางเหลือน้อย (Tread Depth)
นี่คือสัญญาณพื้นฐานที่สุด วิธีเช็กง่ายๆ คือดูที่ “สะพานยาง” (ปุ่มนูนในร่องยาง) หากหน้ายางสึกจนเสมอกับปุ่มนี้ แสดงว่าดอกยางบางเกินไป หรือใช้เหรียญ 10 บาทเสียบลงในร่องยาง หากเห็นขอบสีเงินของเหรียญมากเกินไป แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนแล้วครับ
2. ยางมีรอยแตกลายงา (Sidewall Cracking)
หากบริเวณ “แก้มยาง” เริ่มมีรอยแตกเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป เกิดจากการเสื่อมสภาพของยางตามอายุการใช้งานหรือการจอดรถตากแดดนานๆ รอยแตกเหล่านี้อาจทำให้ลมยางรั่วซึมหรือยางระเบิดได้เมื่อได้รับแรงกระแทก
3. ยางบวมหรือนูนออกมา (Bulges and Blisters)
หากเห็นยางปูดออกมาเป็นก้อนเหมือนหัวโน มักเกิดจากโครงสร้างผ้าใบด้านในฉีกขาดจากการตกหลุมแรงๆ หรือเบียดขอบทาง “ห้ามขับต่อเด็ดขาด” เพราะยางพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
4. รถสั่นสะเทือนผิดปกติ (Excessive Vibration)
แม้ถนนจะเรียบแต่รถกลับสั่นสะเทือนขณะขับขี่ อาจเกิดจากยางเสียสมดุล ยางเบี้ยว หรือโครงสร้างยางภายในพัง สัญญาณนี้ไม่ควรปล่อยไว้เพราะจะส่งผลเสียต่อระบบช่วงล่างตามมา
5. มีเสียงดังผิดปกติขณะขับขี่ (Tire Noise)
หากเริ่มมีเสียงหอน เสียงเอี๊ยดอ๊าด หรือเสียงดัง “ตึบๆ” ดังเข้ามาในห้องโดยสารขณะวิ่งด้วยความเร็วคงที่ อาจเป็นสัญญาณว่ายางเริ่มแข็งกระด้างหรือหน้ายางสึกไม่เท่ากัน (ยางเป็นบั้ง)
6. ระยะเบรกยาวขึ้น (Increased Braking Distance)
ถ้าคุณรู้สึกว่าต้องเหยียบเบรกลึกขึ้นหรือรถไหลไกลกว่าปกติ ทั้งที่ระบบเบรกยังดีอยู่ สาเหตุอาจมาจากดอกยางที่หมดสภาพทำให้สูญเสียแรงเสียดทานกับพื้นถนน
7. ยางนิ่มเกินไปแม้เพิ่งเติมลม (Low Tire Pressure)
หากคุณต้องเติมลมยางบ่อยผิดปกติ (เช่น สัปดาห์ละครั้ง) แสดงว่าอาจมีรูรั่วขนาดเล็ก หรือขอบล้อแม็กกับยางเริ่มไม่สนิทกันเนื่องจากยางเริ่มแข็งและกรอบ
8. ยางมีอายุเกิน 5 ปี (Tire Age)
ถึงแม้ดอกยางจะยังหนาอยู่ แต่ถ้าดูตัวเลขสัปดาห์/ปีที่ผลิตบนแก้มยางแล้วพบว่ามีอายุเกิน 5 ปี (หรืออย่างมากไม่เกิน 10 ปี) เนื้อยางจะเริ่มแข็งกระด้าง (ยางตาย) ทำให้การยึดเกาะถนนลดลงอย่างมาก
9. ขับแล้วรถเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง (Pulling to One Side)
หากตั้งศูนย์ล้อแล้วแต่รถยังวิ่งเอียง อาจเกิดจากยางคู่หน้าสึกหรอไม่เท่ากัน หรือขนาดของยางเริ่มขยายตัวไม่เท่ากันเนื่องจากโครงสร้างเสื่อมสภาพ
10. ยางเริ่มสูญเสียการยึดเกาะเมื่อเจอทางเปียก (Hydroplaning)
หากฝนตกเพียงเล็กน้อยแต่คุณรู้สึกว่ารถมีอาการ “เหินน้ำ” (ควบคุมรถไม่อยู่) แสดงว่าร่องยางไม่สามารถรีดน้ำได้ทันแล้ว เป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องเปลี่ยนยางทันที
การดูแลยางคือการดูแลชีวิต
การตรวจสอบยางสม่ำเสมอเดือนละครั้ง จะช่วยให้คุณตรวจพบสัญญาณเหล่านี้ได้เร็วขึ้น อย่ารอให้ยางระเบิดกลางทาง เพราะค่าเปลี่ยนยาง 4 เส้นยังถูกกว่าค่าซ่อมรถจากอุบัติเหตุมากครับ
Read More :
- 10 เครื่องฟอกอากาศในรถ สูดอากาศบริสุทธิ์ ขจัด PM2.5 และกลิ่นอับ!
- 10 กล้องติดรถยนต์มี Parking Mode รุ่นไหนดีที่สุด เฝ้ารถปลอดภัย 24 ชม.
- 12 สุดยอดกล้องถอยหลัง พร้อมเส้นกะระยะอัตโนมัติ (Dynamic Guideline) รุ่นไหนดีที่สุด 2025
- กล้องติดรถยนต์ 4K พร้อม GPS ในตัว 2025
- กล้องติดรถยนต์ Transcend DrivePro ดีไหม?

