เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อไหนดี

ไอเดียของขวัญปีใหม่ 2568 : 10 เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ พร้อมเครื่องบดในตัว

การมอบ เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่แบบมีเครื่องบดในตัว (All-in-One Espresso Machine) เป็นของขวัญปีใหม่คือการมอบความสะดวกสบายและประสิทธิภาพระดับบาริสต้าไว้ในเครื่องเดียว งบประมาณสำหรับเครื่องประเภทนี้มักเริ่มต้นที่ 15,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่เครื่องเริ่มมีคุณภาพการบดและการสกัดที่เชื่อถือได้ นี่คือ 10 รุ่นที่โดดเด่นและเป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับ Home Barista ในปี 2568

เครื่องชงกาแฟพร้อมเครื่องบด ยี่ห้อไหนดี? ใช้เป็นของขวัญปีใหม่ได้

1. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville Barista Express (BES870/878)

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville Barista Express (BES870/878)
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville Barista Express (BES870/878)
  • จุดเด่น: ถือเป็น รุ่นคลาสสิกและได้รับความนิยมสูงสุด ในกลุ่ม Home Barista มาพร้อมเครื่องบดแบบโคน (Conical Burr Grinder) ที่สามารถปรับความละเอียดได้หลายระดับ ระบบ PID ควบคุมอุณหภูมิ และก้านตีฟองนมทรงพลัง
  • ราคาโดยประมาณ: 25,000 – 30,000 บาท (อาจเกินงบ แต่เป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด)
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องชงเอสเปรสโซ่พร้อมเครื่องบดในตัวที่ดีที่สุด เพื่อเริ่มต้นการเรียนรู้การสกัดและการตีฟองนม

2. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville Barista Pro (BES875)

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville Barista Pro (BES875)
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville Barista Pro (BES875)
  • จุดเด่น: อัปเกรดจาก Barista Express ด้วยเทคโนโลยี ThermoJet ที่ทำให้เครื่องพร้อมใช้งานใน 3 วินาที และหน้าจอ LCD ที่แสดงสถานะการชงและการบดอย่างชัดเจน
  • ราคาโดยประมาณ: 30,000 – 35,000 บาท
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความรวดเร็วและหน้าจอแสดงผลที่เข้าใจง่าย

3. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville The Oracle Touch (Semi-Automatic Luxury)

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville The Oracle Touch (Semi-Automatic Luxury)
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville The Oracle Touch (Semi-Automatic Luxury)
  • จุดเด่น: แม้จะราคาสูงกว่างบมาก (ประมาณ 90,000 บาทขึ้นไป) แต่เป็นรุ่นที่มอบประสบการณ์กึ่งอัตโนมัติแท้จริง ทั้งการบด, การแทมป์, และการตีฟองนม อัตโนมัติ ผ่านหน้าจอสัมผัส (ควรซื้อหากงบประมาณของผู้ให้ยืดหยุ่นมาก)

4. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ DeLonghi La Specialista EC9335

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ DeLonghi La Specialista EC9335
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ DeLonghi La Specialista EC9335
  • จุดเด่น: เครื่องชงที่เน้นการควบคุมการบดและการแทมป์กาแฟ มีก้านแทมป์ (Tamper) ในตัวเครื่อง และมาตรวัดแรงดัน (Pressure Gauge) เพื่อช่วยในการสกัดที่สมบูรณ์แบบ
  • ราคาโดยประมาณ: 20,000 – 25,000 บาท
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการควบคุมการชงเหมือนมืออาชีพ แต่ต้องการความสะดวกในการแทมป์ในตัวเครื่อง

5. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ DeLonghi Dinamica Plus (Automatic Option)

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ DeLonghi Dinamica Plus (Automatic Option)
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ DeLonghi Dinamica Plus (Automatic Option)
  • จุดเด่น: เครื่องชงแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Super-Automatic) ที่มีเครื่องบดในตัว สามารถชงกาแฟหลากหลายเมนูได้ด้วยการกดปุ่มเดียว (รวมถึงกาแฟนม) เป็นตัวเลือกที่ดีหากผู้รับไม่ต้องการชงแบบ Manual เลย
  • ราคาโดยประมาณ: 30,000 – 40,000 บาท

6. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Gemilai CRM3609 (หรือรุ่นเทียบเท่าที่มี Grinder)

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Gemilai CRM3609 (หรือรุ่นเทียบเท่าที่มี Grinder)
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Gemilai CRM3609 (หรือรุ่นเทียบเท่าที่มี Grinder)
  • จุดเด่น: เครื่องชง OEM ที่ได้รับความนิยมในตลาดเอเชีย มักมีการรวมเครื่องบดในตัว (พร้อมมาตรวัดแรงดัน) ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งจากยุโรปมาก ทำให้ได้ฟีเจอร์ครบถ้วนในงบที่ประหยัด
  • ราคาโดยประมาณ: 12,000 – 18,000 บาท
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องชงพร้อมบดในงบประมาณที่จำกัดที่สุด แต่ยังได้ฟังก์ชันควบคุมแรงดัน

7. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Smeg Espresso Machine with Grinder (EGF03)

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Smeg Espresso Machine with Grinder (EGF03)
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Smeg Espresso Machine with Grinder (EGF03)
  • จุดเด่น: มอบดีไซน์ย้อนยุค (Retro 50s) ที่โดดเด่นของ Smeg และการรวมเครื่องบดในตัวเพื่อความสวยงามและการประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นการจัดแต่งห้องครัว
  • ราคาโดยประมาณ: 25,000 – 30,000 บาท

8. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ DeLonghi Dedica EC685 (7,500 บาท) + Timemore C40 MK4 Grinder (9,500 บาท)

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ DeLonghi Dedica EC685 (7,500 บาท) + Timemore C40 MK4 Grinder (9,500 บาท)
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ DeLonghi Dedica EC685 (7,500 บาท) + Timemore C40 MK4 Grinder (9,500 บาท)
  • จุดเด่น: แม้จะแยกชิ้น แต่ชุดนี้มอบ คุณภาพการบดที่ดีที่สุด (Comandante) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการทำเอสเปรสโซ่ ในราคาชุดรวมประมาณ 17,000 บาท
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่บดออกมาสูงสุด และพร้อมที่จะหมุนมือ

9. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville Bambino (10,000 บาท) + Fellow Ode Brew Grinder (8,000 บาท)

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville Bambino (10,000 บาท) + Fellow Ode Brew Grinder (8,000 บาท)
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Breville Bambino (10,000 บาท) + Fellow Ode Brew Grinder (8,000 บาท)
  • จุดเด่น: ชุดที่เน้นความเร็ว (Bambino 3 วินาที) และคุณภาพการบดของ Fellow Ode (ต้องใช้ฟิลเตอร์พิเศษสำหรับการบดละเอียด) แต่ชุดนี้เหมาะกับการชงกาแฟดริปมากกว่าเอสเปรสโซ่
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ชงกาแฟดริป (Slow Bar) เป็นหลัก แต่อยากมีเครื่องเอสเปรสโซ่สำรอง

10. เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Lelit PL41EM (Single Boiler Semi-Auto)

เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Lelit PL41EM (Single Boiler Semi-Auto)
เครื่องชงกาแฟพร้อมที่บด ยี่ห้อ Lelit PL41EM (Single Boiler Semi-Auto)
  • จุดเด่น: เป็นเครื่องชงเอสเปรสโซ่ระดับ Prosumer ที่มีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพการสกัดที่ยอดเยี่ยม (หัวชง 57 มม.) แม้จะไม่มีเครื่องบดในตัว แต่การเลือกเครื่องชงที่ดีที่สุดในงบนี้และจับคู่กับเครื่องบดคุณภาพดี จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเครื่อง All-in-One ในราคาใกล้เคียงกัน
  • ราคาโดยประมาณ: 18,000 – 22,000 บาท

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น