สวัสดีเพื่อนๆ ทุกท่านค่ะ ท่านใดที่เคยผ่านเข้ามาอ่านบทความเกี่ยวกับผ้าไหม และผ้าไทยในเว็บไซต์มายคอนเทนต์นี้คงจะเคยได้ยินเราพูดถึง “ผ้าไหมสุรินทร์” และผ้าลายอัตลักษณ์ที่่เป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยแถบภาคอีสาน แต่ถ้าหากได้ลองศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จากลวดลายและการถักทอของผ้า จะรู้ว่ามีที่มาที่หลากหลาย แตกต่างกันไป บทความนี้เราอยู่กับ “ผ้าลุนตยา” ผ้าซิ่นที่ย่าม่านสวมใส่ จากรูปภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์
“กระซิบรักบันลือโลก” เป็นภาพวาดฝาผนัง วัดภูมินทร์ คาดว่าวาดในช่วงปี พ.ศ. 2436 – 2461 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชปกครองเมืองน่าน หรือประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมานี้เอง เมื่อเทียบกับราชธานีที่กรุงเทพจะตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
ถ้าเราไม่ได้มาเพียงยืนถ่ายรูปกับภาพปู่ม่านย่าม่าน แต่สังเกตไปยังเครื่องแต่งกายของผู้หญิงสุภาพสตรีในภาพนี้จะพบว่า ผ้าซิ่นที่ย่าม่านใส่ ไม่ใช่ผ้าซิ่นคำเคิบ ตามแบบฉบับที่พบการทอในจังหวัดน่านเอง แต่เป้น “ผ้าลุนตยา” ซึ่งตรงกับวัฒนธรรมสาวพม่า ผ้านี้ไม่ได้ใช้ในราชสำนักเพียงอย่างเดียว แต่หญิงสาวชาวไทลื้อส่วนใหญ่ก็นิยมนุ่งผ้าลุนตยานี้
ลายผ้าลุนตยาของย่าม่านนี้เป็นลายคลื่น เรียกว่า “คลิ่นอะชิก (acheik)” ใช้ “ร้อยกระสวย” จำนวนมาก ทำให้เกิดมิติสีซ้อนและเงาเฉพาะตัว หาไม่ได้ในเทคนิคทอทั่วไป ช้คลื่นโค้งมนซ้อนระดับหลายชั้น สลับเส้นริ้วนอนและลวดลายอาหรับสก์อย่างเถาวัลย์–ดอกไม้ ในผ้าสตรีเมื่อสะบัดชายผ้าจะเห็น “คลื่นวิ่ง” เปลี่ยนเฉดตามแสง—คือเสน่ห์ที่ทำให้ลุนตยากลายเป็น statement piece มาหลายร้อยปี การทอแบบ “ร้อยกระสวย” ทำให้เกิดชั้นสีจำนวนมากในแนวนอนโดยไม่ต้องยกตะกอซับซ้อนเหมือนลายจก แต่ต้องอาศัยความพร้อมเพรียงและความแม่นของช่างเป็นพิเศษ
ผ่าม่านสวมผ้าลุนตยา บ่งบอกถึงอะไร?
ในยุคสมัยนั้นเป็นปลายศตวรรษที่ 19 ล้านนาติดต่อค้าขายกับไทย ผู้คนฝั่ง ไทย พม่า ล้านนา ได้ผ่านเส้นทางที่เรียกว่าเส้นทางคาราวาน รัฐไทลื้อ – สิบสองปันนา และเชียงรุ่ง มีการแลกเปลี่ยนซื้อขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ จากภาพจะเห็นว่าทรงผมและเสื้อของย่าม่านเป็นไปแบบสาวไทลื้อ แต่ส่วนผ้านุ่งเป็นลุนตยาตามแบบฉบับพม่า และเกลียวคลื่นไม่ซับซ้อน เป็นผ้าสำหรับหญิงสาวทั่วไปสวมใส่ได้
ผ้าลุนตยา มีขายที่ไหน ราคาเท่าไหร่
แอดมินเองก็อยากมีโอกาสสัมผัสผ้าลุนตยาของแท้ ซึ่งถ้าหากเป็นผ้ายุคใหม่ ที่เพิ่งทอใหม่ด้วยผ้าไหม จะมีราคาตั้งแต่ 3,500 – 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับกลุ่มช่างทอที่ยังสามารถสืบสานเทคนิคการทอมาได้สวยงามแค่ไหน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มตามเพจเฟซบุ๊คที่นำผ้าไหมโบราณมาจำหน่าย ในราคาเข้าถึงง่าย
“ผ้าลุนตยา” จึงเหมาะที่จะหาเก็บไว้ใส่เวลาไปเที่ยวเมืองน่าน สวมใส่เดินในวัด ถ่ายรูปกับภาพกระซิบรัก บันลือโลกในวัดภูมินทร์ เป็นอีกผ้าพื้นเมืองของประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามามีอิทธิพลในกลุ่มชาวไทยตอนเหนือ หากต้องการผ้าลุนตยาใส่เล่นๆ ก็สามารถสั่งซื้อผ้าซิ่นลุตนยาสำเร็จรูปได้ที่ SHOPEE | LAZADA |
ที่มา : https://www.silpa-mag.com/art/article_64782
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง




