หูฟังหลุดเป็นเรื่องกวนใจคนออกกำลังกาย จึงได้มีแบรนด์ที่ออกแบบหูฟังไร้สายแบบกระชับ สำหรับกิจกรรมแอคทีฟ จึงเกิดเป็น “หูฟังไร้สายสำหรับออกกำลังกาย” (Sport True Wireless) ใส่วิ่งไม่หลุด บทความนี้ได้รวบรวม 10 สุดยอดหูฟังไร้สายที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งโดยเฉพาะ พร้อมคุณสมบัติเด่นที่ตอบโจทย์นักกีฬาในปี 2025
10 หูฟังไร้สายใส่วิ่งไม่หลุด รุ่นเด่น ปี 2025
1. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ Shokz OpenRun Pro (หรือ OpenRun Pro 2)
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: Open-Ear (Bone Conduction – การสั่นสะเทือนผ่านกระดูก)
- จุดเด่น: เป็นราชาแห่งหูฟังออกกำลังกาย ด้วยเทคโนโลยี Bone Conduction ที่ทำให้หูเปิดโล่ง ได้ยินเสียงรอบข้าง 100% เพื่อความปลอดภัย ดีไซน์แบบสายคล้องคอ (Neckband) และขาเกี่ยวใบหูทำให้ ไม่มีวันหลุด มาตรฐานกันน้ำสูง IP67 (ทนเหงื่อ/ฝนหนัก) และให้คุณภาพเสียงเบสที่แน่นกว่ารุ่นก่อนหน้า
- เหมาะสำหรับ: นักวิ่งมาราธอน, นักปั่นจักรยาน, และผู้ที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัย
- ราคา 6,690 บาท SHOPEE | LAZADA
2. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ Jabra Elite 8 Active
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: True Wireless (In-Ear)
- จุดเด่น: ได้รับการขนานนามว่าเป็น “หูฟังที่ทนทานที่สุดในโลก” (Military Standard Durability) มีเทคโนโลยี ShakeGrip™ ที่ทำจากซิลิโคนพิเศษ ช่วยให้ยึดเกาะกับหูได้ดีเยี่ยมโดยไม่ต้องมี Earhook มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68ที่สูงมาก ทนทานต่อเหงื่อ, ฝน, และฝุ่นทุกชนิด พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ที่ยอดเยี่ยม
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ออกกำลังกายหนักหน่วง, นักไตรกีฬา (ยกเว้นว่ายน้ำ), หรือผู้ที่ชอบหูฟังที่ทนทานต่อสภาพอากาศสุดขั้ว
- ราคา 3,990 บาท SHOPEE | LAZADA
3. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ Beats Fit Pro
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: True Wireless (In-Ear)
- จุดเด่น: หูฟังยอดนิยมในหมู่นักกีฬา ที่มี Wingtip แบบยืดหยุ่น (Flexible Wingtip) ช่วยล็อกหูฟังให้เข้ากับร่องหูได้อย่างมั่นคงโดยไม่รู้สึกเจ็บ มาพร้อมชิป H1 (สำหรับ Apple) ทำให้เชื่อมต่อกับ iPhone/Apple Watch ได้ง่ายมาก มีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) และโหมด Transparency ที่ใช้ได้ดีเยี่ยม
- เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้งาน Apple Ecosystem ที่ต้องการความกระชับระดับสูงสุด
- ราคา 6,650 บาท SHOPEE
4. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ Shokz OpenFit
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: Open-Ear (Air Conduction – ลำโพงขนาดเล็กแนบหู)
- จุดเด่น: หูฟัง Open-Ear แบบ True Wireless ที่ไม่เข้าหู (ไม่มีสายเชื่อมต่อ) แต่ใช้การแนบลำโพงไว้ใกล้ๆ รูหู ทำให้ได้ยินเสียงรอบข้างอย่างปลอดภัย ดีไซน์เป็นขาเกี่ยวหูและมีน้ำหนักเบามาก สวมใส่สบาย ไม่กดทับรูหู และให้เสียงที่คุณภาพดีกว่าหูฟัง Bone Conduction ทั่วไป
- เหมาะสำหรับ: การวิ่งในเมือง, การวิ่งระยะสั้น-กลาง, และผู้ที่ต้องการความเบาสบายและสุขอนามัยที่ดี
- ราคา 399 บาท SHOPEE | LAZADA
5. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ Beats Powerbeats Pro 2
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: True Wireless (Earhook)
- จุดเด่น: แชมป์เก่าที่ยังคงความกระชับอันดับหนึ่ง ด้วย Earhook (ขาเกี่ยวใบหู) ที่สามารถปรับระดับได้ ซึ่งเป็นรูปแบบที่มั่นคงที่สุดสำหรับการออกกำลังกายที่รุนแรง ตัวหูฟังมีขนาดใหญ่ แบตเตอรี่อึดทน และทนเหงื่อได้ดีเยี่ยม
- เหมาะสำหรับ: การออกกำลังกายแบบ Cross-Training, เวทเทรนนิ่ง, และกิจกรรมที่ต้องมีการกระโดดหรือเคลื่อนไหวศีรษะอย่างรวดเร็ว
- ราคา 8,500 บาท SHOPEE
6. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ JBL Endurance Race
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: True Wireless (In-Ear with Twistlock)
- จุดเด่น: เน้นดีไซน์ Twistlock และ Enhancer ที่ช่วยให้หูฟังบิดล็อกเข้ากับร่องหูได้ดี มั่นใจว่าไม่หลุดแน่นอนขณะวิ่ง มีมาตรฐานกันน้ำ IP67 ที่พร้อมลุยทุกสภาพอากาศ ให้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ JBL คือเสียงเบสที่หนักแน่น (Bass Boost) ช่วยกระตุ้นให้ออกกำลังกายได้เต็มที่
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ชอบเสียงเบสแน่นๆ และต้องการหูฟังที่ทนทานในราคาที่เข้าถึงง่าย
- ราคา 990 บาท SHOPEE | LAZADA
7. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ HUAWEI FreeClip
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: Open-Ear (Clip-on – แบบหนีบ)
- จุดเด่น: ดีไซน์ C-bridge ที่เป็นเอกลักษณ์ของ HUAWEI คือการ หนีบ หูฟังไว้กับกระดูกอ่อนใบหู ทำให้ไม่เข้าสู่รูหูเลย สวมใส่สบายเป็นพิเศษและไม่หลุดแน่นอนขณะวิ่ง มาตรฐานกันน้ำ IP54 น้ำหนักเบามาก และให้แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่รู้สึกอึดอัดกับหูฟังแบบ In-Ear และต้องการหูฟังที่ไม่หลุดพร้อมดีไซน์ที่แตกต่าง
- ราคา 6,190 บาท SHOPEE | LAZADA
8. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ Sony WF-1000XM5
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: True Wireless (In-Ear)
- จุดเด่น: แม้จะไม่ใช่หูฟังกีฬาโดยตรง แต่ด้วยขนาดที่เล็กลงมาก และรูปทรงที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้สวมใส่ได้กระชับกว่ารุ่นก่อนหน้า มีมาตรฐานกันน้ำ IPX4 (ทนเหงื่อและละอองน้ำ) จุดเด่นคือคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม และระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ที่ดีที่สุดในตลาด ทำให้วิ่งในโรงยิมได้อย่างไร้สิ่งรบกวน
- เหมาะสำหรับ: การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า หรือการวิ่งเบาในสภาพอากาศปกติ ที่ต้องการคุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด
- ราคา 8,590 บาท SHOPEE | LAZADA
9. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ JBL Endurance Peak 3
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: True Wireless (Earhook)
- จุดเด่น: หูฟังที่มี Earhook สำหรับล็อกเข้ากับใบหูโดยเฉพาะ มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ IP68 (กันน้ำกันฝุ่นเต็มรูปแบบ) แบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นพิเศษ (รวมเคสสูงสุด 48 ชั่วโมง) และมีเทคโนโลยี Powerhook™ ที่เปิด/ปิดอัตโนมัติเมื่อถอดหรือใส่หูฟัง
- เหมาะสำหรับ: นักวิ่งระยะไกล, การวิ่ง Trail, และผู้ที่ต้องการแบตเตอรี่ที่อึดทนแบบข้ามวัน
- ราคา 4,090 บาท SHOPEE | LAZADA
10. หูฟังไร้สายใส่วิ่ง ยี่ห้อ Samsung Galaxy Buds 2 Pro
รายละเอียดสินค้า:
- ประเภท: True Wireless (In-Ear)
- จุดเด่น: หูฟังที่เน้นความกระชับด้วยขนาดที่เล็กและเบาพิเศษ (5.5 กรัมต่อข้าง) ซึ่งทำให้การยึดเกาะกับหูดีขึ้น หากใช้จุกหูฟังและปีกเสริม (Wing Tip) ที่เหมาะสมจะทำให้กระชับสำหรับการวิ่งปานกลาง มีมาตรฐานกันน้ำ IPX7 ทนทานต่อการแช่น้ำชั่วคราว จึงมั่นใจได้ว่าทนเหงื่อได้อย่างแน่นอน
- เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้งาน Samsung Galaxy, การวิ่งและออกกำลังกายในยิมที่ต้องการหูฟังคุณภาพเสียงระดับสูงและฟีเจอร์ครบถ้วน
- ราคา 1,490 บาท SHOPEE | LAZADA
Read More :
- 10 หูฟัง Studio สำหรับตัดต่อเสียง (Mixing & Mastering) ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี
- Soundcore by Anker มีทั้งหมดกี่รุ่น?
- iSuper เป็นของประเทศอะไร? เจาะลึกหูฟังแบรนด์ไทย คุณภาพเกินราคา
- 10 หูฟัง OPPO Enco Buds รุ่นที่ใช้คู่กับมือถือออปโป้ มีอะไรบ้าง?
- หูฟังราคาไม่แพงที่ดีที่สุดในปี 2025 หูฟังบลูทูธไร้สายสุดคุ้มค่า (งบไม่เกิน 1,000 บาท!)











