หูฟัง Studio สำหรับตัดต่อเสียง ยี่ห้อไหนดี

10 หูฟัง Studio สำหรับตัดต่อเสียง (Mixing & Mastering) ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี

หูฟัง Studio Monitor เปรียบเสมือน “แว่นขยาย” ของวงการมิกซ์เสียง (Mixing) หรือมาสเตอร์ริ่ง (Mastering) เพราะช่วยให้คุณได้ยินทุกรายละเอียดของคลื่นเสียงได้อย่างครบถ้วน ปราศจากการปรุงแต่งที่เกินจริง บทความนี้เราได้รวบรวม 10 สุดยอดหูฟังสตูดิโอที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากมืออาชีพ รวมถึงรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองในปี 2025

10 หูฟัง Studio สำหรับตัดต่อเสียง ที่ดีที่สุด

1. Beyerdynamic DT 770 PRO

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Closed-back (แบบปิด)
  • จุดเด่น: ถือเป็นหูฟัง “ม้างาน” (Workhorse) ที่เป็นมาตรฐานในสตูดิโอทั่วโลก ด้วยดีไซน์แบบ Closed-back ทำให้ป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีเยี่ยม จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบันทึกเสียง (Tracking) และการมอนิเตอร์เสียงในขั้นตอนแรก มีเสียงที่เที่ยงตรงแต่ก็ให้เสียงเบสที่แน่น ทำให้เสียงไม่แห้งจนเกินไป ตัวฟองน้ำหูฟังนุ่มสบาย ทำให้สวมใส่ได้นานโดยไม่ปวดหู มีรุ่นความต้านทาน (Impedance) ให้เลือกหลายแบบ (32 Ω, 80 Ω, 250 Ω) เพื่อให้เข้ากับอุปกรณ์ของคุณ
  • เหมาะสำหรับ: การบันทึกเสียง (Vocal/Instrument Tracking) และมอนิเตอร์ในสตูดิโอที่มีเสียงดัง
  • ราคา 7,490 บาท SHOPEE | LAZADA

2. Beyerdynamic DT 990 PRO

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Open-back (แบบเปิด)
  • จุดเด่น: เป็นหูฟังคู่แฝดของ DT 770 PRO แต่มาในดีไซน์แบบ Open-back ซึ่งช่วยสร้างมิติเสียง (Soundstage) ที่กว้างและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำให้เสียง “โปร่ง” คล้ายกับการฟังผ่านลำโพงมอนิเตอร์ เหมาะสำหรับงานมิกซ์และมาสเตอร์ริ่งที่ต้องการการแยกแยะตำแหน่งเสียงที่แม่นยำ เสียงมีความกว้างเป็นธรรมชาติและชัดเจนทุกย่านความถี่ ข้อเสียคือมีเสียงเล็ดลอดออกไปภายนอก จึงไม่เหมาะกับการบันทึกเสียง
  • เหมาะสำหรับ: การมิกซ์ (Mixing) และมาสเตอร์ริ่ง (Mastering) อย่างจริงจัง
  • ราคา 9,990 บาท SHOPEE | LAZADA

3. Audio-Technica ATH-M50x

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Closed-back (แบบปิด)
  • จุดเด่น: เป็นหนึ่งในหูฟังสตูดิโอที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สร้างคอนเทนต์และดีเจ ด้วยการตอบสนองความถี่ที่ค่อนข้างเป็นกลาง มีเสียงเบสที่หนักแน่นแต่ไม่บวม และเสียงสูงที่คมชัด จึงเป็นหูฟังที่ใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่การมอนิเตอร์, การมิกซ์, ไปจนถึงการใช้งานทั่วไป มีโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน และสามารถพับเก็บได้
  • เหมาะสำหรับ: การใช้งานทั่วไปในสตูดิโอ, การทำเพลงแนวที่ต้องการเบสที่ชัดเจน, และงานที่ต้องการความทนทาน
  • ราคา 5,990 บาท SHOPEE | LAZADA

4. Sony MDR-7506

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Closed-back (แบบปิด)
  • จุดเด่น: เป็นหูฟังระดับตำนานที่ถูกยกย่องให้เป็น “Industry Standard” ในห้องบันทึกเสียงและสถานีโทรทัศน์มานานหลายทศวรรษ ด้วยเสียงที่ให้ความคมชัดและรายละเอียดที่สูงมาก (โดยเฉพาะย่านเสียงกลาง/สูง) ทำให้สามารถจับข้อผิดพลาดในงานเสียงได้อย่างง่ายดาย เป็นหูฟังที่เชื่อถือได้และมีราคาเข้าถึงง่าย
  • เหมาะสำหรับ: การมอนิเตอร์ที่ต้องการความละเอียดสูง (Critical Listening), งานวิดีโอโพสต์โปรดักชั่น (Post-Production), และสตูดิโอทุกระดับ
  • ราคา 4,890 บาท SHOPEE | LAZADA

5. Sennheiser HD 600

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Open-back (แบบเปิด)
  • จุดเด่น: หูฟังระดับ Audiophile ที่ถูกนำมาใช้ในงานมิกซ์และมาสเตอร์ริ่งอย่างแพร่หลาย จุดเด่นคือการตอบสนองความถี่ที่ “เป็นกลาง” และ “เป็นธรรมชาติ” อย่างแท้จริง (Neutral) โดยเฉพาะย่านเสียงกลาง (Mids) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเสียงร้องและเครื่องดนตรีหลัก มิติเสียงกว้างและมีความโปร่ง (Airy) ทำให้มิกซ์เสียงได้อย่างแม่นยำในระยะยาว
  • เหมาะสำหรับ: การมิกซ์และการมาสเตอร์ริ่งที่ต้องการความเที่ยงตรงสูงสุด โดยเฉพาะงานเพลงแนว Acoustic, Jazz, หรือ Classical
  • ราคา 19,990 บาท SHOPEE | LAZADA

6. Shure SRH1840

หูฟัง Studio สำหรับตัดต่อเสียง Shure SRH1840

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Open-back (แบบเปิด)
  • จุดเด่น: หูฟังระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบมาเพื่อการมิกซ์และมาสเตอร์ริ่งโดยเฉพาะ ให้ความแม่นยำและสมดุลของเสียงในระดับสูงมาก มีไดรเวอร์ขนาด 40 มม. ที่ให้การตอบสนองความถี่กว้าง โครงสร้างเบาและทนทาน วัสดุพรีเมียม และสวมใส่สบายอย่างยิ่งสำหรับการทำงานต่อเนื่องยาวนาน
  • เหมาะสำหรับ: วิศวกรเสียงมืออาชีพ, การมิกซ์/มาสเตอร์ริ่งระดับสูง
  • SHOPEE | LAZADA

7. AKG K371

หูฟัง Studio สำหรับตัดต่อเสียง AKG K371

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Closed-back (แบบปิด)
  • จุดเด่น: หูฟังที่มุ่งเน้นการตอบสนองเสียงให้ใกล้เคียงกับ Harman Target Curve ซึ่งเป็นมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ให้เสียงที่เที่ยงตรงที่สุด โดยเฉพาะในย่านเบสและเสียงกลาง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการมิกซ์และมอนิเตอร์ มีดีไซน์ที่พับเก็บได้ สะดวกต่อการพกพา
  • เหมาะสำหรับ: การมิกซ์และการมอนิเตอร์ที่ต้องการความเที่ยงตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรม, ผู้ที่ทำงานในสตูดิโอแบบเคลื่อนที่
  • ราคา 1,490 บาท LAZADA

8. Focal Listen Professional

หูฟัง Studio สำหรับตัดต่อเสียง Shure SRH1840

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Closed-back (แบบปิด)
  • จุดเด่น: หูฟังระดับมืออาชีพที่ให้เสียงที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและความคมชัด (Clarity) เป็นอย่างมาก ด้วยไดรเวอร์ Mylar/Titanium ขนาดใหญ่ ช่วยให้การตอบสนองความถี่กว้างและแม่นยำ โดยเฉพาะย่านเสียงต่ำมีความชัดเจนและแน่นหนา เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการฟังแบบ Critical Listening ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการป้องกันเสียงรบกวน
  • เหมาะสำหรับ: สตูดิโอระดับโปรที่ต้องการหูฟัง Closed-back คุณภาพสูงสำหรับการมอนิเตอร์และแก้ไขเสียง
  • ราคา 12,225 บาท SHOPEE

9. Rode NTH-100

หูฟัง Studio สำหรับตัดต่อเสียง Rode NTH-100

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Closed-back (แบบปิด)
  • จุดเด่น: น้องใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ด้วยการออกแบบที่เน้นความเที่ยงตรงและความสบายในการสวมใส่เป็นพิเศษ มีแผ่นรองหูฟัง CoolTech Gel ที่ช่วยระบายความร้อน ทำให้สวมใส่ได้นานโดยไม่ร้อนหู คุณภาพเสียงมีความเป็นกลางและชัดเจน ทำให้มอนิเตอร์เสียงได้อย่างมั่นใจ
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องทำงานในสตูดิโอเป็นเวลานาน, งานมอนิเตอร์ในทุกขั้นตอน
  • ราคา 5,490 บาท SHOPEE | LAZADA

10. Beyerdynamic DT 1990 PRO

หูฟัง Studio สำหรับตัดต่อเสียง Beyerdynamic DT 1990 PRO

รายละเอียดสินค้า:

  • ประเภท: Open-back (แบบเปิด)
  • จุดเด่น: เป็นหูฟังระดับพรีเมียมจาก Beyerdynamic ที่ใช้เทคโนโลยี Tesla Driver อันเป็นเอกลักษณ์ ให้รายละเอียดเสียงที่ “ใส” และ “แม่นยำ” ในระดับที่เหนือกว่า DT 990 PRO มิติเสียงกว้างมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงาน Mastering ที่ต้องการความละเอียดสูงสุด มีความทนทานสูงและมักมาพร้อมกับ Ear Pad สองแบบที่ให้โทนเสียงต่างกัน
  • เหมาะสำหรับ: งานมาสเตอร์ริ่ง, วิศวกรเสียงที่ต้องการหูฟังอ้างอิง (Reference Headphone) ระดับสูงสุด
  • ราคา 26,900 บาท SHOPEE | LAZADA

การลงทุนในหูฟังมอนิเตอร์คุณภาพดีเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในห้องสตูดิโอของคุณ เพราะมันคือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพงานตัดต่อเสียงของคุณไปอีกขั้น ทำให้งานของคุณฟังดูดีในทุกระบบเสียงที่ผู้คนนำไปฟังต่อไป

Read More :

ใส่ความเห็น