เทศกาลกินเจ หรือแม้แต่คนที่ทานเจเป็นประจำ มักเจอปัญหาคือ “กินอะไรดี?” เพราะบางครั้งเราจะคิดว่าอาหารเจมีตัวเลือกจำกัด แต่จริง ๆ แล้ว เมนูอาหารเจมีหลากหลายทั้งคาวหวาน น้ำซุป ผัด แกง ยำ ของทอด ของหวาน และเครื่องดื่ม ที่ทำให้อิ่มท้องและได้สารอาหารครบถ้วน วันนี้เราได้รวม 100 เมนูอาหารเจ ไว้ให้เลือกทำหรือเลือกกินได้ทุกวัน
🥦 เมนูเจหมวดผัดผัก-เต้าหู้
เมนูผัดผักและเต้าหู้ถือเป็นเมนูพื้นฐานของอาหารเจที่หลายคนคุ้นเคยที่สุด เพราะเป็นการนำผักหลากหลายชนิดและเต้าหู้ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนจากถั่วเหลือง มาปรุงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผัดผักรวมเจที่ให้สีสันสวยงามและรสชาติกลมกล่อม หรือผัดคะน้าน้ำมันหอยเจที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงอาหารทั่วไป แต่ไม่ใช้วัตถุดิบจากสัตว์ เต้าหู้ถือเป็นวัตถุดิบสารพัดประโยชน์ สามารถนำมาผัดพริกเกลือ เต้าหู้ทรงเครื่อง หรือผัดกับเห็ดและผักใบเขียว เพิ่มทั้งโปรตีนและรสสัมผัสที่อร่อย
นอกจากนี้ยังมีเห็ดหลายชนิด เช่น เห็ดออรินจิ เห็ดฟาง หรือเห็ดหอม ที่ให้รสชาติอูมามิ ช่วยทดแทนรสชาติของเนื้อสัตว์ได้อย่างลงตัว เมื่อผัดกับน้ำมันงาหรือซอสเห็ดหอม ก็ยิ่งทำให้หอมและน่าทานมากขึ้น เมนูในหมวดนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มกินเจ เพราะทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน และให้สารอาหารครบถ้วน
เคล็ดลับการทำเมนูผัดผักให้อร่อยคือการใช้ไฟแรงเพื่อคงความกรอบของผัก และเลือกใช้น้ำมันพืชปริมาณพอเหมาะ เพื่อสุขภาพที่ดี เมนูผัดผักและเต้าหู้เจจึงตอบโจทย์ทั้งเรื่องความง่าย ความเร็ว และความอร่อย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
- ผัดผักรวมเจ
- ผัดบล็อกโคลี่เห็ดหอม
- ผัดคะน้าน้ำมันหอยเจ
- ผัดถั่วลันเตาเห็ดฟาง
- ผัดกะหล่ำปลีซีอิ๊วขาว
- เต้าหู้ผัดพริกเกลือเจ
- เต้าหู้ทรงเครื่องเจ
- เห็ดออรินจิผัดน้ำมันหอยเจ
- เห็ดฟางผัดน้ำมันงา
- ผัดผักบุ้งไฟแดงเจ
🍜 เมนูเจก๋วยเตี๋ยว-เส้น
เมนูเส้นเป็นอีกหมวดที่ทำให้อาหารเจหลากหลายและสนุกขึ้น เพราะเส้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นหมี่ วุ้นเส้น เส้นใหญ่ หรือเส้นพาสต้า ล้วนสามารถปรับให้เข้ากับเมนูเจได้อย่างลงตัว ตัวอย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วเจ ที่ใช้เห็ดและผักแทนเนื้อสัตว์ หรือผัดไทยวุ้นเส้นเจที่เพิ่มรสชาติด้วยซอสพริกและเต้าหู้เหลือง ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเจยังเหมาะกับคนรักสุขภาพ เพราะใช้ผักสดห่อเส้นบาง ๆ กินคู่กับน้ำจิ้มถั่วรสเข้มข้น
เมนูเส้นแบบน้ำ เช่น เย็นตาโฟเจ ต้มยำเส้นเจ หรือก๋วยจั๊บญวนเจ ก็ทำให้การกินเจไม่น่าเบื่อ และยังให้ความอิ่มแบบเบา ๆ ไม่หนักท้อง นอกจากนี้ยังมีเมนูเส้นสไตล์ตะวันตกอย่างสปาเกตตีซอสมะเขือเทศเจ หรือสปาเกตตีเพสโต้เจ ที่ใช้ถั่วและสมุนไพรแทนเนื้อสัตว์ เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากเมนูไทยบ้าง
ความพิเศษของหมวดนี้คือสามารถทำได้หลายรสชาติ ทั้งเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หรือหวาน ขึ้นอยู่กับการปรุงซอส หากอยากอิ่มท้องและได้ความหลากหลายในการกินเจ เมนูเส้นจึงเป็นอีกหมวดที่ไม่ควรพลาด
- ก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ
- ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเจ
- ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วเจ
- ผัดไทยวุ้นเส้นเจ
- วุ้นเส้นผัดขี้เมาเจ
- เย็นตาโฟเจ
- ก๋วยจั๊บญวนเจ
- สปาเกตตีซอสมะเขือเทศเจ
- สปาเกตตีเพสโต้เจ
- ขนมจีนซาวน้ำเจ
🍛 เมนูเจหมวดแกง-ต้มยำ-ต้มจืด
แกงและซุปเป็นหมวดที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและกลิ่นหอมให้กับมื้ออาหารเจ ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มผักรวมเจที่เปรี้ยวเผ็ดกำลังดี แกงเขียวหวานเจที่ใช้เต้าหู้และฟักทองแทนเนื้อ หรือแกงเลียงเจที่เต็มไปด้วยผักสมุนไพร ช่วยบำรุงสุขภาพ ต้มยำเห็ดเจก็เป็นเมนูยอดนิยมที่ให้รสจัดจ้านแบบไทยแท้ แต่ปรุงด้วยเห็ดและสมุนไพรแทนเนื้อสัตว์
สำหรับคนที่ชอบรสอ่อน ๆ ยังมีต้มจืดเต้าหู้สาหร่าย ต้มฟัก หรือแกงจืดผักกาดขาว ที่เหมาะกับทุกวัย และให้ความรู้สึกเบาสบายท้อง ในขณะเดียวกันยังมีเมนูแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเจ หรือแกงมัสมั่นเจที่ให้รสเข้มข้น หอมเครื่องเทศ ทำให้มื้อเจไม่จำเจ
เมนูแกงและซุปเจเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การกินเจหลากหลายขึ้น แต่ยังให้สารอาหารจากผัก เห็ด และเต้าหู้ครบถ้วน อีกทั้งยังสามารถทำเป็นเมนูใหญ่ ๆ สำหรับครอบครัว หรือทำเก็บไว้ทานหลายมื้อก็ได้
- แกงส้มผักรวมเจ
- แกงเขียวหวานเจ
- แกงป่าเจ
- ต้มยำเห็ดเจ
- แกงเลียงเจ
- ต้มจืดเต้าหู้สาหร่าย
- แกงกะหรี่ผักรวมเจ
- แกงเผ็ดฟักทองเจ
- แกงเห็ดสามอย่าง
- แกงมัสมั่นเจ
🍲 เมนูเจหมวดอาหารจานเดียว
อาหารจานเดียวเจเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว เช่น ข้าวผัดเจ ข้าวผัดสับปะรดเจ หรือข้าวกะเพราเห็ดเจ ที่ทำง่ายและอร่อยไม่แพ้อาหารทั่วไป เมนูข้าวต้มเห็ดรวม หรือโจ๊กเห็ดเจก็เป็นตัวเลือกเบา ๆ ย่อยง่าย เหมาะกับมื้อเช้าหรือมื้อเย็นที่ไม่อยากหนักท้อง
เมนูเส้นอย่างราดหน้าเจ บะหมี่แห้งเจ หรือก๋วยเตี๋ยวเจ ก็เข้ามาอยู่ในกลุ่มอาหารจานเดียวที่อิ่มครบในจานเดียว สำหรับคนที่ชอบความจัดจ้าน อาจเลือกข้าวราดพริกแกงเจหรือข้าวราดแกงกะหรี่เจที่ทำให้การกินเจไม่จืดชืด
ข้อดีของอาหารจานเดียวคือประหยัดเวลาและสามารถปรับรสชาติได้ตามความชอบ จะเพิ่มผัก เห็ด หรือเต้าหู้ก็ได้ตามใจ อีกทั้งยังเหมาะกับคนทำงานที่ไม่มีเวลามาก การเลือกเมนูจานเดียวเจจึงตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและโภชนาการครบถ้วน
- ข้าวผัดเจ
- ข้าวผัดสับปะรดเจ
- ข้าวผัดกะเพราเห็ดเจ
- ข้าวผัดพริกเผาเจ
- ข้าวต้มเห็ดรวม
- ข้าวต้มผักกาดดองเจ
- โจ๊กเห็ดเจ
- ราดหน้าเจ
- ข้าวราดแกงเจ
- บะหมี่แห้งเจ
🥟 เมนูเจหมวดอาหารทอด-ของทานเล่น
หมวดอาหารทอดและของทานเล่นเจเป็นสิ่งที่ช่วยเติมความอร่อยและความเพลิดเพลินให้กับมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นปอเปี๊ยะทอดเจที่กรอบนอกนุ่มใน ข้าวโพดทอดเจที่หวานมัน หรือเห็ดชุบแป้งทอดที่หอมกรอบ เต้าหู้ทอดกรอบก็เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่กินเล่นหรือกินกับข้าวก็อร่อย
นอกจากนี้ยังมีเมนูมันฝรั่งทอด เฟรนช์ฟรายส์ ฟักทองทอด หรือเกี๊ยวทอดเจ ที่เป็นของกินเล่นยอดนิยม สามารถทำง่าย ๆ ที่บ้านได้ ส่วนเมนูอย่างซาโมซ่าเจหรือข้าวเกรียบเจก็เป็นตัวเลือกที่ทำให้การกินเจไม่น่าเบื่อ
แม้ว่าอาหารทอดอาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมแคลอรี แต่ถ้ากินในปริมาณที่พอเหมาะ ก็สามารถสร้างสีสันให้กับการกินเจได้อย่างดี และหากใช้วิธีทอดด้วยหม้ออบลมหรือใช้น้ำมันให้น้อยลง ก็จะช่วยให้ได้รสชาติอร่อยโดยไม่เสียสุขภาพมากนัก
- ปอเปี๊ยะทอดเจ
- เฟรนช์ฟรายส์เจ
- ข้าวโพดทอดเจ
- เห็ดชุบแป้งทอด
- เต้าหู้ทอดกรอบ
- ฟักทองทอด
- มันฝรั่งทอด
- ข้าวเกรียบเจ
- ซาโมซ่าเจ
- เกี๊ยวทอดเจ
🥗 เมนูเจหมวดยำ-สลัด
เมนูยำและสลัดเจถือเป็นหมวดที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและรสชาติเปรี้ยวเผ็ดจัดจ้านให้กับมื้ออาหารเจ เช่น ยำวุ้นเส้นเจ ยำเห็ดรวม หรือยำเต้าหู้ทอดที่ทั้งอร่อยและได้โปรตีน ส้มตำเจก็เป็นเมนูยอดนิยมที่สามารถทดแทนส้มตำปกติได้โดยไม่ใส่ปลาร้าและกุ้งแห้ง แต่ยังคงความแซ่บ
ในส่วนของสลัด ก็มีทั้งสลัดผักสดราดน้ำสลัดงา หรือสลัดผลไม้เจที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ ให้ทั้งใยอาหาร วิตามิน และความสดชื่น ยำมะเขือยาวหรือยำสาหร่ายเจก็เป็นอีกตัวเลือกที่ทั้งเบาและอร่อย
หมวดยำ-สลัดเจเหมาะสำหรับคนที่อยากได้เมนูเบา ๆ แต่รสชาติไม่เบาเลย เพราะสามารถปรับความเผ็ด เปรี้ยว หรือหวานได้ตามใจ และยังเหมาะกับคนที่อยากควบคุมน้ำหนักหรือดูแลสุขภาพ
- ยำวุ้นเส้นเจ
- ยำเห็ดรวม
- ยำเต้าหู้ทอด
- ยำผักกาดดอง
- ส้มตำเจ
- ยำมะเขือยาว
- สลัดผักน้ำสลัดงา
- สลัดผลไม้เจ
- ยำสาหร่ายเจ
- ยำแหนมเห็ดเจ
🍢 เมนูเจปิ้งย่าง-นึ่ง
เมนูปิ้งย่างและนึ่งเจ เป็นหมวดที่ช่วยให้ร่างกายได้รับรสชาติและสัมผัสใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากเมนูผัดและแกง เช่น เต้าหู้ย่างซีอิ๊วที่หอมกลิ่นถ่าน ลูกชิ้นเจปิ้ง หรือเห็ดออรินจิย่างซีอิ๊วที่ให้รสชาติคล้ายเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ยังมีฟักทองนึ่ง เผือกนึ่ง และมันม่วงนึ่งที่เป็นเมนูง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยไฟเบอร์และวิตามิน
เมนูข้าวต้มมัดเจหรือขนมหวานนึ่งบางชนิด เช่น ข้าวเหนียวถั่วดำ ข้าวเหนียวสังขยาเจ ก็เข้ามาเสริมในหมวดนี้ เพิ่มความหลากหลายให้กับการกินเจ
ข้อดีของเมนูนึ่งคือดีต่อสุขภาพ เพราะไม่ใช้น้ำมัน ทำให้ได้รสชาติแท้ ๆ ของวัตถุดิบ ส่วนเมนูปิ้งย่างก็ช่วยให้ได้ความหอมและสัมผัสพิเศษ ทำให้การกินเจสนุกและไม่น่าเบื่อ
- ข้าวเหนียวสังขยาเจ
- ข้าวเหนียวถั่วดำ
- เต้าหู้ย่างซีอิ๊ว
- ลูกชิ้นเจปิ้ง
- หมูย่างเจ (ทำจากโปรตีนเกษตร)
- เห็ดออรินจิย่างซีอิ๊ว
- ฟักทองนึ่ง
- เผือกนึ่ง
- มันม่วงนึ่ง
- ข้าวต้มมัดเจ
🍮 เมนูของหวานเจ
แม้การกินเจจะงดเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่ก็ยังมีของหวานเจให้เลือกมากมาย เช่น บัวลอยน้ำขิงเจที่ช่วยบำรุงร่างกาย ขนมถ้วยฟูเจที่หอมหวาน กล้วยบวชชีเจที่ใช้นมถั่วเหลืองแทนกะทิจากสัตว์ หรือสาคูเปียกมะพร้าวอ่อนที่ให้ความหวานมันกำลังดี
เมนูฟักทองเชื่อม เฉาก๊วยนมถั่วเหลือง หรือเต้าฮวยน้ำขิงก็เป็นที่นิยม และยังเหมาะกับคนที่อยากได้ของหวานแบบสุขภาพ ข้าวเหนียวมะม่วงเจและลอดช่องน้ำกะทิยังคงเป็นเมนูที่ทำให้เทศกาลกินเจอร่อยไม่แพ้ช่วงอื่น
ของหวานเจจึงไม่เพียงแต่ช่วยเติมความสุขในช่วงกินเจ แต่ยังทำให้การกินเจเป็นเรื่องสนุกและมีสีสัน
- บัวลอยน้ำขิงเจ
- ขนมถ้วยฟูเจ
- กล้วยบวชชีเจ
- สาคูเปียกมะพร้าวอ่อน
- ขนมกล้วยนึ่ง
- ฟักทองเชื่อม
- เฉาก๊วยนมถั่วเหลือง
- ข้าวเหนียวมะม่วงเจ
- เต้าฮวยน้ำขิง
- ลอดช่องน้ำกะทิ
🧃 เมนูเจเครื่องดื่มเจ
เครื่องดื่มเจเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเติมเต็มมื้ออาหาร เช่น น้ำเต้าหู้ที่ให้โปรตีนสูง น้ำขิงที่ช่วยแก้ท้องอืด น้ำจับเลี้ยงและน้ำกระเจี๊ยบที่ช่วยดับกระหายและมีสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีน้ำมะตูม น้ำใบเตย น้ำลำไย หรือน้ำเก๊กฮวย ที่หอมหวาน ดื่มง่าย
น้ำมะพร้าวสดและชาดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ชาดอกเก๊กฮวย ก็เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ไม่เพียงช่วยให้สดชื่น แต่ยังช่วยดูแลระบบย่อยอาหารอีกด้วย เครื่องดื่มเจเหล่านี้เหมาะกับการดื่มคู่กับมื้ออาหารหรือดื่มระหว่างวัน ทำให้ร่างกายสดชื่นและมีพลัง
- น้ำเต้าหู้
- น้ำขิง
- น้ำจับเลี้ยง
- น้ำมะตูม
- น้ำกระเจี๊ยบ
- น้ำใบเตยหอม
- น้ำเก๊กฮวย
- น้ำลำไย
- น้ำมะพร้าวสด
- ชาดอกเก๊กฮวย
🍴 เมนูเจฟิวชัน-สร้างสรรค์
เมนูเจฟิวชันเป็นหมวดที่ทำให้การกินเจไม่จำกัดอยู่แค่เมนูดั้งเดิม แต่สามารถสร้างสรรค์อาหารใหม่ ๆ ได้ เช่น เบอร์เกอร์เห็ดเจ สเต็กเต้าหู้ หรือพิซซ่าเจหน้าเห็ด ลาซานญ่าเจ และแซนด์วิชผักโขมเจ ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกกับหลักการเจได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ยังมีซูชิผักเจ กิมจิผักเจ หรือแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเจที่ทำให้อาหารเจน่าทานยิ่งขึ้น เมนูเหล่านี้เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากกินเจแต่ก็ยังอยากได้ความแปลกใหม่และความสนุกในการทานอาหาร
- เบอร์เกอร์เห็ดเจ
- สเต็กเต้าหู้
- ลาซานญ่าเจ
- แซนด์วิชผักโขมเจ
- ซูชิผักเจ
- กิมจิผักเจ
- พิซซ่าเจหน้าเห็ด
- เบอร์เกอร์โปรตีนเกษตร
- ข้าวห่อสาหร่ายเจ (Kimbap)
- แกงกะหรี่ญี่ปุ่นเจ
คู่มือวางเมนูเจ 9 วัน 🌱✨
เทศกาลกินเจเป็นช่วงเวลาที่หลายคนเลือก ละเว้นเนื้อสัตว์ เพื่อทำบุญ รักษาศีล และชำระล้างร่างกาย แต่สิ่งที่หลายคนกังวลคือ “จะกินอะไรดีใน 9 วัน?” เพราะบางครั้งอาหารเจอาจซ้ำซาก หรือได้สารอาหารไม่ครบถ้วน
วันนี้เราจึงทำ คู่มือวางเมนูเจ 9 วัน มาให้คุณ สามารถปรับใช้จริง ทั้งคาว–หวาน เพื่อให้ได้ทั้งอิ่มอร่อย และสุขภาพดี
📅 วันที่ 1
- เช้า : ข้าวต้มเจใส่เห็ดหอม เต้าหู้ขาว
- กลางวัน : ข้าวกล้อง + ผัดผักรวมเจ + โปรตีนเกษตรผัดพริกไทยดำ
- เย็น : ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเจ + น้ำผลไม้
📅 วันที่ 2
- เช้า : แซนด์วิชโฮลวีตทาเต้าหู้บด + ผักสลัด
- กลางวัน : ข้าวกะเพราเต้าหู้ + ซุปสาหร่ายวากาเมะ
- เย็น : สลัดควินัวเจ + น้ำเต้าหู้
📅 วันที่ 3
- เช้า : ข้าวโอ๊ตต้มใส่นมถั่วเหลืองและผลไม้สด
- กลางวัน : ข้าวกล้อง + แกงจืดเต้าหู้สาหร่าย + เห็ดออรินจิผัดซีอิ๊ว
- เย็น : ขนมจีนแกงเขียวหวานเจ + น้ำเก๊กฮวย
📅 วันที่ 4
- เช้า : ข้าวเหนียวถั่วดำ + น้ำเต้าหู้
- กลางวัน : ข้าวผัดเจใส่แครอท ถั่วลันเตา ข้าวโพด
- เย็น : ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟเจ + ผักสด
📅 วันที่ 5
- เช้า : ข้าวต้มธัญพืช + น้ำสมุนไพร
- กลางวัน : บะหมี่เกี๊ยวเจ (ไส้เห็ด–เต้าหู้)
- เย็น : ซุปฟักทองเจ + สลัดผลไม้
📅 วันที่ 6
- เช้า : ขนมปังโฮลวีตทาเนยถั่ว + กล้วยหอม
- กลางวัน : ข้าวสวย + เต้าหู้ทอดซอสเปรี้ยวหวาน + ยำเห็ดเจ
- เย็น : ข้าวกล้อง + ผัดบล็อกโคลี่เห็ดหอม + น้ำส้มคั้น
📅 วันที่ 7
- เช้า : น้ำเต้าหู้ร้อน + ขนมปังนึ่งไส้ถั่วแดง
- กลางวัน : กะเพราโปรตีนเกษตร + ต้มจืดผักกาดขาว
- เย็น : สปาเกตตีซอสมะเขือเทศเจ + สลัดผักสด
📅 วันที่ 8
- เช้า : ข้าวโอ๊ตผสมเมล็ดเจีย + ผลไม้สด
- กลางวัน : ข้าวกล้อง + แกงเลียงเจ + โปรตีนเกษตรผัดขิง
- เย็น : ก๋วยเตี๋ยวเจน้ำใส + น้ำกระเจี๊ยบ
📅 วันที่ 9
- เช้า : ข้าวต้มเจใส่ถั่วเหลืองและเห็ดหอม
- กลางวัน : ข้าวผัดขมิ้นเจ + แกงส้มผักรวมเจ
- เย็น : ซุปเต้าหู้ญี่ปุ่นเจ + โรลผักสด
การกินเจ 9 วันไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อ หากเรารู้จักจัดเมนูให้หลากหลายและครบถ้วน ทั้งโปรตีน ผัก ธัญพืช และเครื่องดื่มสุขภาพ คู่มือนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อให้ทุกวันของการกินเจเต็มไปด้วย รสชาติ อิ่มอร่อย และสุขภาพที่ดี 🌱



