โครงการคนละครึ่ง คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง!

โครงการคนละครึ่ง ใครคิดไว้ จะได้กลับมาใช้อีกหรือเปล่า?

คิดถึงกันไหม?​ โครงการคนละครึ่ง ที่ช่วยกอบกู้วิกฤติการณ์ช่วงโคโรนาไวรัส 2019 ด้วยการกระตุ้นให้คนระดับกลางออกมาจับจ่ายใช้สอย สร้างปรากฎการณ์ตายายเปลี่ยนจากมือถือปุ่มกดเป็น Smart Phone เพื่อสแกนคนละครึ่ง สร้างความผูกพันให้ลูกค้าและพ่อค้าแม่ขายได้พูดคุยกันมากขึ้น บทความนี้จะสรุปเงื่อนไขสำคัญของโครงการคนละครึ่งที่ผ่านมา และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่มาตรการนี้จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ในปี 2025 อีกหรือไม่? ใครคิดถึงการสแกนคนละครึ่ง มาอ่านเงื่อนไขไปพร้อมๆ กันค่ะ

เงื่อนไขสำคัญของโครงการคนละครึ่งที่ผ่านมา

เงื่อนไขโครงการคนละครึ่ง 2025

ข้อมูลจากเว็บไซต์วุฒิสภา จากบทความวิชาการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ระบุความเป็นมาของโครงการคนละครึ่งว่าเป็นดำริของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ที่คิดว่าแรงงานบางส่วนถูกลดค่าแรงเหลือหรือชั่วโมงทำงาน จึงคิดนโยบายที่รัฐบาลพอจะช่วยค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ครึ่งหนึ่ง แต่ไม่กิน 150 บาทต่อวันไหม? (คิดจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท) โครงการนี้จึงถูกนำไปพัฒนาต่อ และได้ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ ช่วยเหลือผู้ประกอบการอิสระ

โครงการคนละครึ่ง (ภาษาอังกฤษคือ Economic stimulus package : The half-half co-payment scheme) เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากประชาชนไทย ด้วยจุดเด่นที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และส่งเสริมการจับจ่ายใช้สอยในร้านค้าขนาดเล็กและร้านค้าท้องถิ่นทั่วประเทศ แต่หลังจากสิ้นสุดโครงการในเฟสล่าสุด หลายคนยังคงตั้งคำถามว่า “โครงการคนละครึ่งมีเงื่อนไขอย่างไร” และที่สำคัญกว่านั้น “มีโอกาสกลับมาใช้ในปี 2025 อีกหรือไม่”

โครงการคนละครึ่ง เงื่อนไขและโอกาสกลับมาใช้ในปี 2025

โครงการคนละครึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยมีเงื่อนไขหลักดังนี้

1. ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ

  • ประชาชนทั่วไป: ผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และไม่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอื่นที่รัฐบาลสนับสนุนในเวลาเดียวกัน (เช่น โครงการเราชนะ, โครงการเที่ยวด้วยกัน)
  • ผู้ประกอบการ: ร้านค้าขนาดเล็ก, ร้านค้าท้องถิ่น, ผู้ประกอบการรายย่อยที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอย่างถูกต้อง และติดตั้งแอปพลิเคชันถุงเงิน

2. การใช้จ่าย

  • การร่วมจ่าย: รัฐบาลจะร่วมจ่ายให้ 50% ของค่าสินค้าและบริการที่ผู้เข้าร่วมใช้จ่ายจริง
  • วงเงินใช้จ่าย: มีการกำหนดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดต่อวัน และวงเงินสะสมตลอดโครงการ (ตัวอย่างเช่น วงเงินไม่เกิน 150 บาทต่อวัน และวงเงินรวม 3,000 บาทต่อคนตลอดโครงการ)
  • ประเภทสินค้าและบริการ: ครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภค, อาหาร, เครื่องดื่ม รวมถึงค่าบริการบางประเภท (ยกเว้นสินค้าอบายมุข เช่น สุรา, ยาสูบ)

3. ช่องทางการใช้จ่าย

  • แอปพลิเคชันเป๋าตัง: ผู้เข้าร่วมต้องมีแอปพลิเคชันเป๋าตังเพื่อรับสิทธิ์และใช้จ่ายเงิน
  • แอปพลิเคชันถุงเงิน: ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต้องมีแอปพลิเคชันถุงเงินเพื่อรับชำระเงินจากผู้ใช้สิทธิ์

เงื่อนไขเหล่านี้คือหัวใจสำคัญที่ทำให้โครงการคนละครึ่งประสบความสำเร็จในการกระจายรายได้ และสร้างสภาพคล่องทางเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการคนละครึ่งในปี 2025 มีโอกาสกลับมาใช้อีกหรือไม่?

โครงการคนละครึ่ง เงื่อนไขและโอกาสกลับมาใช้ในปี 2025
โครงการคนละครึ่ง เงื่อนไขและโอกาสกลับมาใช้ในปี 2025

คำถามนี้เป็นที่สนใจของคนจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจโลกยังคงมีความผันผวน ขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศยังต้องการแรงขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง การพิจารณาว่าจะนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสำคัญ:

1. สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน: หากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และประชาชนยังประสบปัญหาค่าครองชีพสูง โครงการคนละครึ่งอาจเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่รัฐบาลจะนำมาใช้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและกระตุ้นการบริโภคในประเทศ

2. นโยบายของรัฐบาล: นโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันและแผนการบริหารเศรษฐกิจจะเป็นตัวชี้ขาด หากรัฐบาลมีนโยบายที่เน้นการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง (เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต) โอกาสที่โครงการคนละครึ่งจะกลับมาอาจลดลง

3. งบประมาณของประเทศ: การจัดสรรงบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากโครงการคนละครึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก หากรัฐบาลมีงบประมาณจำกัด อาจพิจารณามาตรการอื่นที่มีต้นทุนต่ำกว่า

4. ผลตอบรับจากประชาชนและผู้ประกอบการ: หากประชาชนและผู้ประกอบการยังคงสนับสนุนและเรียกร้องให้มีโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง ย่อมเป็นปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลจะนำไปพิจารณา

สรุปโอกาสการกลับมาของโครงการคนละครึ่ง

โครงการคนละครึ่ง เงื่อนไขและโอกาสกลับมาใช้ในปี 2025

แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าโครงการคนละครึ่งจะกลับมาในปี 2025 หรือไม่ แต่จากแนวโน้มเศรษฐกิจและการพิจารณาปัจจัยข้างต้น โอกาสที่จะกลับมามีอยู่ แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายและสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต

สำหรับผู้ที่สนใจและรอคอยโครงการนี้ ควรติดตามข่าวสารจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจากกระทรวงการคลังและสำนักเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด หากมีการประกาศโครงการอีกครั้ง ผู้ที่เคยเข้าร่วมมาก่อนอาจได้รับสิทธิ์อัตโนมัติหรือต้องลงทะเบียนใหม่ตามเงื่อนไขที่กำหนด

โครงการคนละครึ่งยังคงเป็นมาตรการที่อยู่ในใจของคนไทยจำนวนมาก และเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่รัฐบาลอาจหยิบมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในยามที่จำเป็น Mycontent-thai.com ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่อยากให้โครงการนี้กลับมาใช้อีกครั้ง หรือถ้าอยู่ตลอดไปได้ก็จะดีมากๆ เลยค่ะ^^

อ้างอิง

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น