เมื่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นตำแหน่ง และนายภูมิธรรม ได้ทูลเกล้าฯ ยื่นยุบสภาไปแล้วนั้น ชาวทวิตเตอเรียน ก็ได้พูดเป็นเสียีงเดียวกันว่า “รักษาการนายกรัฐมนตรีมีสิทธิยื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานยุบสภาหรือไม่?” เพราะการยุบสภาเป็นกลไกสำคัญในการคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ แต่ในทางกฎหมายไทย เรื่องนี้มีข้อจำกัดที่ชัดเจน บทความนี้ Mycontent-thai.com พาคุณมาตรวจสอบรัฐธรรมนูญว่ารักษาการนายกสามารถขอยื่นยุบสภาได้หรือไม่?
อำนาจยุบสภาอยู่ที่ใคร?

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 103 และมาตรา 169 ระบุว่า
- อำนาจ ยุบสภาผู้แทนราษฎรเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
- การใช้อำนาจนี้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อมีคำแนะนำจากนายกรัฐมนตรี
นั่นหมายความว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอทูลเกล้าฯ แต่พระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้มีพระราชอำนาจโดยแท้จริง
หน้าที่ของ “รักษาการนายกฯ” ตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อคณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ไม่ว่าจะเพราะครบวาระ ถูกวินิจฉัย หรือการลาออก รัฐธรรมนูญกำหนดให้ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเดิมปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ โดยสถานะนี้เราเรียกว่า “รักษาการ”
แต่การเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น มีข้อจำกัด
- สามารถทำได้เฉพาะงานที่จำเป็นต่อการบริหารราชการแผ่นดินประจำวัน
- ไม่สามารถใช้อำนาจเชิงนโยบายที่มีผลกระทบยาวนานต่ออนาคตการเมืองไทย
ยุบสภา เกินขอบเขต “รักษาการนายกฯ หรือไม่?”

การยุบสภาไม่ใช่เรื่องงานประจำ แต่เป็น การตัดสินใจทางการเมืองที่มีผลผูกพันต่ออนาคตของประเทศ และประชาชนทุกคน ดังนั้น นักกฎหมายมหาชนส่วนใหญ่ รวมทั้งแนวทางปฏิบัติทางการเมืองที่ผ่านมา เห็นพ้องตรงกันว่า
👉 รักษาการนายกฯ ไม่มีอำนาจยื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานยุบสภา
เพราะถือว่าเกินขอบเขตอำนาจที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ “ทำเฉพาะการบริหารงานประจำ” เท่านั้น
คำตอบของคำถามที่ว่า “รักษาการนายกฯ ยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาได้หรือไม่?” คือ
❌ ไม่ได้
เพราะการยุบสภาเป็นอำนาจทางการเมืองที่สงวนไว้สำหรับ “นายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งโดยสมบูรณ์” เท่านั้น
หากเกิดกรณีที่นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดตำแหน่งและมีเพียง “รักษาการ” ประเทศจะต้องรอให้มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่ก่อน แล้วจึงสามารถใช้อำนาจนี้ได้ตามรัฐธรรมนูญ
✅ สำหรับผู้อ่านทั่วไป การทำความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้เห็นโครงสร้างทางการเมืองไทยชัดเจนขึ้น และรู้เท่าทันเมื่อเกิดสถานการณ์การเมืองที่ซับซ้อน ว่าใครมีสิทธิใช้อำนาจยุบสภา และใครทำได้เพียง “ประคองสถานการณ์” เท่านั้น เพราะฉะนั้นมาดูกันต่อไปว่า เรื่องนี้ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยหรือไม่?
Read More :


