แชร์เคล็ดลับเพิ่มสัญญาณเน็ตให้แรงทั่วบ้านแบบไม่ต้องลากสายเพิ่ม
บ้านใครที่มีหลายชั้น แล้วเจอปัญหา WiFi Router จากชั้นล่างส่งไปไม่ถึงชั้นบน หรือชั้นบนสุดกลายเป็น “มุมอับสัญญาณ” แบบเดินไปเปิด YouTube ยังโหลดไม่ทันใจ… เชื่อเถอะว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะนี่คือปัญหายอดฮิตของบ้านแนวตั้งและทาวน์โฮม
หลายคนแก้ด้วยการเปลี่ยน Router ตัวใหม่ แต่จริง ๆ แล้ว “WiFi Extender” หรือ “ตัวขยายสัญญาณ WiFi” นี่แหละ ที่ช่วยได้ตรงจุดและคุ้มค่ากว่าเยอะ วันนี้เราจะพาไปดูว่า ถ้าอยากเลือก WiFi Extender สำหรับบ้านหลายชั้น ควรดูอะไรเป็นหลัก และมีรุ่นไหนบ้างที่รีวิวดี ใช้จริงแล้วได้ผล
WiFi Extender คืออะไร?
WiFi Extender คืออุปกรณ์ที่ช่วยกระจายสัญญาณจาก Router หลักให้ไปถึงจุดต่าง ๆ ของบ้านที่เดิมทีสัญญาณไปไม่ถึง เช่น ชั้นสอง ชั้นสาม หรือห้องริมสุดที่อยู่ห่างจาก Router หลักมาก ๆ
การทำงานของ WiFi Extender จะรับสัญญาณจาก Router แล้วส่งต่อออกไปใหม่ คล้ายกับการตั้งตัวปล่อย WiFi เพิ่มอีกจุด โดยไม่ต้องเดินสาย LAN ให้ยุ่งยาก
เลือก WiFi Extender สำหรับบ้านหลายชั้น ต้องดูอะไรบ้าง?
1. รองรับ Dual Band หรือไม่ (2.4 GHz / 5 GHz)
ถ้าคุณใช้ Router ที่ปล่อยได้ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz แนะนำให้เลือก WiFi Extender ที่รองรับ Dual Band ด้วย เพราะสัญญาณ 5 GHz เร็วกว่า แม้จะส่งได้ไม่ไกล แต่ถ้ามี Extender กระจายช่วย จะช่วยรักษาความแรงได้ดี
2. ความเร็วสูงสุดที่รองรับ (AC750 / AC1200 / AX1800)
ตัวเลขอย่าง AC750 หรือ AC1200 หมายถึงความเร็วรวมที่ Extender รองรับ เช่น AC1200 = 867 Mbps บน 5 GHz + 300 Mbps บน 2.4 GHz
ถ้าใช้งานดู Netflix, เล่นเกม หรือมีสมาชิกหลายคนในบ้าน ใช้ AC1200 ขึ้นไปจะดีกว่า
3. มีพอร์ต LAN ไหม?
บางรุ่นมีพอร์ต LAN ให้ต่อกับ Smart TV, คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ต้องการสัญญาณเสถียร แนะนำให้เลือกไว้เลย โดยเฉพาะถ้าห้องนอนชั้นบนมี TV หรือ PC ใช้งานจริงจัง
4. มีฟีเจอร์ Mesh หรือไม่
ถ้าอยากให้การกระจาย WiFi ไร้รอยต่อ เหมือนใช้เครือข่ายเดียวกันทั่วบ้าน ควรเลือก WiFi Extender ที่รองรับระบบ Mesh หรือสามารถทำงานร่วมกับ Router แบบ Mesh ได้ เช่น TP-Link OneMesh, ASUS AiMesh
5. ติดตั้งง่ายไหม? ใช้แอปได้หรือเปล่า?
เดี๋ยวนี้มี WiFi Extender หลายรุ่นที่แค่เสียบปลั๊ก แล้วเซตผ่านแอปในมือถือได้เลยภายในไม่กี่นาที เหมาะกับคนที่ไม่ชำนาญด้านเทคนิค
แนะนำรุ่นยอดนิยม สำหรับบ้าน 2–3 ชั้น
1. WiFi Extender ยี่ห้อ TP-Link RE305 (AC1200 Dual Band)
ตัวนี้รีวิวแน่น ใช้งานง่าย เสียบปลั๊กแล้วตั้งค่าได้ผ่านแอป Tether รองรับ OneMesh ด้วย
🟡 ราคาประมาณ 850–1,200 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK
2. WiFi Extender ยี่ห้อ Mercusys ME30 (AC1200) – ตัวคุ้มสุดในตลาดตอนนี้
ปล่อย WiFi ได้เสถียร รองรับทั้ง 2.4/5 GHz ราคาดีมาก มีพอร์ต LAN ในตัว
🟡 ราคาประมาณ 590–850 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK

3. WiFi Extender ยี่ห้อ ASUS RP-AX56 (WiFi 6 / AiMesh)
ใครที่ใช้ Router WiFi 6 หรือ ASUS อยู่แล้ว ต้องจัดรุ่นนี้เลย รองรับ AiMesh ได้จริง ปล่อยสัญญาณแรงทั่วบ้าน
🟡 ราคาประมาณ 2,200–2,800 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK
4. WiFi Extender ยี่ห้อ Xiaomi WiFi Extender Pro รุ่นใหม่ (รุ่น AX3000)
ตัวแรงจาก Xiaomi รองรับ WiFi 6 กระจายเร็วมาก เหมาะสำหรับบ้านที่เน็ตแรงอยู่แล้ว แต่มีจุดอับ
🟡 ราคาประมาณ 1,400–1,800 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK
5. WiFi Extender ยี่ห้อ Linksys RE7000 (Max-Stream AC1900)
อันนี้ระดับโปร แรงมาก ใช้ในบ้านหลายชั้นได้แบบไร้กังวล มีเทคโนโลยี Cross Band และ Beamforming
🟡 ราคาประมาณ 3,000–3,900 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK
วาง WiFi Extender ยังไงให้ได้ผลจริง?
- อย่าวางใกล้ Router เกินไป เพราะจะขยายสัญญาณที่แรงอยู่แล้ว ไม่ช่วยอะไร
- อย่าวางไกลจนรับสัญญาณไม่ถึง
- จุดที่ดีที่สุดคือ “กลางทาง” ระหว่าง Router กับห้องที่ต้องการใช้งาน
- ถ้าเป็นบ้าน 3 ชั้น วางที่ชั้น 2 ตรงกลางบ้าน จะครอบคลุมได้ดีสุด
ถ้าอยากเน็ตแรงทั่วบ้าน อย่ารอแค่เปลี่ยน Router
การติดตั้ง WiFi Extender ที่ดี เหมือนเรามีตัวช่วยส่งต่อสัญญาณเน็ตแบบไร้รอยต่อให้ทุกจุดในบ้าน โดยไม่ต้องเดินสายหรือเจาะผนังให้วุ่นวาย เหมาะกับบ้านแนวตั้งมาก ๆ แค่เลือกให้เหมาะกับการใช้งานจริง เช่น ถ้าเน็ตเร็วอยู่แล้วก็เลือกรุ่นที่รองรับ WiFi 6 แต่ถ้าต้องการความคุ้มค่า ก็มีตัวที่ไม่ถึงพันแต่ใช้งานได้ดีจริง
📌 สนใจรุ่นไหน ลองเช็คราคาล่าสุดจาก Shopee หรือ Lazada ก่อนตัดสินใจ และอย่าลืมดูรีวิวผู้ใช้จริงก่อนซื้อ!
Read More :





