- เขาพระวิหารอยู่ใน จังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา แต่ทางขึ้นหลักอยู่ใน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
- เขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชาอย่างเป็นทางการหลังศาลโลกตัดสินในปี 2505 โดยใช้แผนที่ที่ไทยเคยเซ็นรับรองความเชื่อท้องถิ่นยังยึดโยงเขาพระวิหารกับวัฒนธรรมของผู้คนฝั่งไทย และเชื่อว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าผู้ดูแลลุ่มน้ำโคราช
- การแบ่งเขตด้วยเส้น Border คือมรดกของระบบอาณานิคมที่สร้างความขัดแย้งในภูมิภาค
เขาพระวิหาร หรือ “ปราสาทพระวิหาร” คือหนึ่งในสถานที่โบราณที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชามาอย่างยาวนาน แม้จะเป็นเพียงโบราณสถานบนเทือกเขา แต่กลับมีมูลค่าทางสัญลักษณ์และภูมิรัฐศาสตร์มหาศาล จนทำให้คำถามอย่าง “เขาพระวิหารอยู่จังหวัดอะไร?” หรือ “เขาพระวิหารเป็นของประเทศอะไร?” ไม่ใช่เพียงคำถามเชิงภูมิศาสตร์ แต่เป็นประเด็นแห่งอัตลักษณ์ การเมือง และมรดกทางประวัติศาสตร์
เขาพระวิหารของใครกันแน่? อะไรคือจุดเริ่มต้นของข้อพิพาทเขมรรุกไทย
เขาพระวิหารอยู่จังหวัดอะไรในปัจจุบัน?
ปัจจุบันเขาพระวิหารตั้งอยู่ใน จังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา แต่ทางขึ้นหลักสู่ยอดเขาที่สะดวกและเคยใช้งานกันมาโดยตลอดนั้นอยู่ฝั่งไทย คือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และนี่เองคือหนึ่งในเหตุผลหลักของความขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
เขาพระวิหาร เป็นของประเทศอะไร?
คำตอบอย่างเป็นทางการในทางกฎหมายระหว่างประเทศคือ “กัมพูชา” ตามคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เมื่อปี พ.ศ. 2505 ที่ระบุให้ปราสาทพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา เนื่องจากแผนที่ที่ไทยเคยยอมรับโดยไม่คัดค้าน แม้จะขัดกับสภาพภูมิประเทศที่แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ปราสาทนั้นอยู่ฝั่งไทยก็ตาม
เขาพระวิหารประวัติ จากความเชื่อศักดิ์สิทธิ์สู่มรดกโลกที่เป็นข้อพิพาท
เดิมทีเขาพระวิหารเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นที่สถิตของ “ผีต้นน้ำ” หรือเทพเจ้าผู้ปกปักรักษาเส้นทางน้ำจากที่ราบสูงโคราชสู่พื้นที่ราบลุ่ม แม้จะอยู่บนเขตแบ่งธรรมชาติระหว่างไทยกับกัมพูชา (เทือกเขาพนมดงเร็ก) แต่ผู้คนในอดีตกลับไม่ได้มีแนวคิดแบ่งเขตดินแดนแบบปัจจุบัน
ในยุคก่อนอาณานิคม ชาวบ้านเรียกเขาพระวิหารว่าเป็นของ “เขมรสูง” หมายถึงกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ราบสูงฝั่งไทย ไม่ใช่ “เขมรต่ำ” หรือกัมพูชาในปัจจุบัน การสร้างปราสาทจึงไม่ได้มีนัยแห่งการปกครองทางอำนาจ แต่เป็นการแสดงความเคารพต่ออำนาจศักดิ์สิทธิ์ตามแนวความคิดแบบมณฑล (Mandala)
อย่างไรก็ตาม เมื่อระบบรัฐชาติแบบตะวันตกเข้ามาโดยอำนาจอาณานิคม การกำหนดเส้นเขตแดนแบบแข็ง (Border) ก็กลายเป็นเครื่องมือครอบงำความรู้และทัศนคติ ทำให้พื้นที่ที่เคยมีความร่วมมือกลับกลายเป็นพื้นที่พิพาท
ไทยพลาดการปกป้องสิทธิ์เป็นเจ้าของ “เขาพระวิหาร”
ในปี ค.ศ. 1904 ไทยและฝรั่งเศสตกลงให้ใช้ “สันปันน้ำ” เป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งเป็นแนวแบ่งธรรมชาติตามเทือกเขาพนมดงเร็ก หากใช้หลักการนี้ เขาพระวิหารจะอยู่ในฝั่งไทย แต่ไทยกลับไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกำหนดแผนที่ในปี 1907
ฝรั่งเศสจึงใช้แผนที่ที่ตนจัดทำเอง ซึ่งระบุว่าเขาพระวิหารอยู่ฝั่งกัมพูชา และทางไทยในขณะนั้นก็ไม่ได้คัดค้าน พร้อมเซ็นรับรองโดยไม่ทันคิดถึงผลระยะยาว ทำให้เอกสารนี้กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่กัมพูชาใช้ฟ้องร้องในศาลโลก
ศาลโลกตัดสิน 2505
เมื่อคดีเข้าสู่ศาลโลกในปี พ.ศ. 2505 ศาลตัดสินให้กัมพูชาเป็นผู้ครอบครองปราสาทพระวิหารโดยอาศัยแผนที่ที่ไทยเคยยอมรับ พร้อมภาพถ่ายที่ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ถ่ายร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสบนปราสาท โดยมีธงฝรั่งเศสปักอยู่ด้านหลัง ซึ่งศาลตีความว่าเป็นการแสดงออกถึงการยอมรับโดยพฤตินัย
เขาพระวิหารทางขึ้นจุดชนวนที่ยังคงเป็นคำถาม
แม้เขาพระวิหารจะอยู่ในกัมพูชา แต่ทางขึ้นหลักยังคงอยู่ในฝั่งไทย ผ่านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งสะดวกและปลอดภัยมากกว่าทางฝั่งกัมพูชา การควบคุมเส้นทางขึ้นจึงกลายเป็นอีกจุดหนึ่งของข้อพิพาท โดยเฉพาะพื้นที่รอบปราสาทขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งไทยและกัมพูชายังเห็นต่างกันในเรื่องกรรมสิทธิ์
เขาพระวิหารในสายตาของคนพื้นถิ่น
ผู้คนท้องถิ่นฝั่งไทยยังเชื่อว่าเขาพระวิหารเป็นของพวกตน เพราะมีความเชื่อและตำนานท้องถิ่นที่สืบต่อกันมายาวนาน ทั้งการเรียกชื่อภูเขา การบูชาเจ้าพ่อเขาพระวิหาร และการใช้งานพื้นที่จริงที่อยู่ในเขตอำเภอกันทรลักษ์มาแต่เดิม
มุมมองท้องถิ่นไม่ได้เห็นเขาพระวิหารเพียงในเชิงวัตถุ หรือการปกครอง หากแต่มองในฐานะพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ร่วม ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมความเชื่อของคนในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเรียกตนเองว่าไทยหรือเขมรก็ตาม
เขาพระวิหารของใคร? คำถามที่ต้องใช้ใจตอบมากกว่ากฎหมาย
คำตอบในเชิงกฎหมายอาจยุติที่ว่า “เขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา” แต่ในความเป็นจริง เขาพระวิหารคือสมบัติร่วมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เคยเชื่อมโยงผู้คนด้วยพิธีกรรม ความศรัทธา และความเชื่อเรื่องอำนาจศักดิ์สิทธิ์ การเปลี่ยนบริบทของเขาพระวิหารให้กลายเป็นเขตแดนที่แข็ง จึงเป็นผลจากความคิดแบบรัฐรวมศูนย์ ที่นักล่าอาณานิคมใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกแยก และยังคงส่งผลมาถึงปัจจุบัน
คำค้นหา : เขาพระวิหารของใคร,เขาพระวิหารอยู่จังหวัดอะไร,เขาพระวิหาร เป็นของประเทศอะไร,เขาพระวิหารประวัติ,เขาพระวิหารทางขึ้น
Read More :



