หนึ่งในปัญหาที่ผู้ใช้ iPhone หลายคนต้องเคยพบอย่างน้อยหนึ่งครั้ง คืออาการ “เปิดไม่ติด” หรือที่เรียกกันว่า “ค้างที่โลโก้ Apple” เครื่องเปิดขึ้นมาแล้วค้างที่รูปแอปเปิ้ล ไม่เข้าสู่หน้า Home Screen แม้จะกดปิดเปิดใหม่ หรือชาร์จแบตทิ้งไว้หลายชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้
อาการนี้อาจฟังดูน่าตกใจ แต่จริง ๆ แล้วมีสาเหตุและวิธีแก้ไขได้หลายระดับ บางกรณีกลับมาใช้งานได้ภายใน 10 นาที โดยไม่ต้องเสียเงินซ่อมเลยด้วยซ้ำ
Mycontent-thai.com จะพาคุณวิเคราะห์สาเหตุ พร้อมวิธีแก้แบบ Step by Step สำหรับผู้ใช้ทั่วไปโดยไม่ต้องมีพื้นฐานช่าง
ทำไม iPhone ค้างที่โลโก้ Apple?
1. ระบบมีปัญหาระหว่างบูตเครื่อง (Boot Loop)
เมื่อ iPhone เปิดเครื่อง ระบบจะโหลดไฟล์และส่วนควบคุมต่าง ๆ หากไฟล์ใดไฟล์หนึ่งเสียหาย หรือโหลดไม่สำเร็จ จะเกิดอาการค้างที่โลโก้ทันที
2. อัปเดต iOS ไม่สมบูรณ์
ผู้ใช้หลายคนเจอปัญหานี้หลังจากกดอัปเดต iOS แล้วไฟดับ, อินเทอร์เน็ตหลุด, หรือแบตหมดระหว่างทาง ทำให้การอัปเดตไม่เสร็จสมบูรณ์ เครื่องจึงค้างอยู่ที่หน้าจอโลโก้
3. มีการ Restore / Transfer ข้อมูลที่ผิดพลาด
กรณีที่เพิ่งย้ายข้อมูลจากเครื่องเก่า หรือ Restore จาก iTunes แล้วข้อมูลบางส่วนเสียหาย จะส่งผลต่อการเริ่มต้นระบบ
4. ความผิดปกติของฮาร์ดแวร์
หาก iPhone เคยตกพื้น โดนน้ำ หรือผ่านความร้อนจัดมาก่อน อาจทำให้เมนบอร์ดหรือ NAND Storage เสียหาย ส่งผลให้ระบบไม่สามารถบูตเข้าเครื่องได้ตามปกติ
วิธีแก้ iPhone ค้างที่โลโก้ Apple ด้วยตัวเอง
1. ลอง “Force Restart” ก่อน
เป็นวิธีเบื้องต้นที่ปลอดภัยที่สุด และมักได้ผล
- iPhone 8 ขึ้นไป / SE รุ่นใหม่
กดปุ่มเพิ่มเสียง 1 ครั้ง → ลดเสียง 1 ครั้ง → กดปุ่ม Power ค้างไว้ จนกว่าโลโก้จะหายและกลับมาใหม่ - iPhone 7 / 7 Plus
กดปุ่มลดเสียง + ปุ่ม Power พร้อมกันจนกว่าโลโก้จะหาย - iPhone 6s / SE รุ่นเก่า
กดปุ่ม Home + Power พร้อมกันจนกว่าจะรีสตาร์ท
หากสำเร็จ เครื่องจะบูตใหม่ และเข้าสู่หน้า Home ได้ตามปกติ
2. ใช้โหมด Recovery ผ่าน iTunes หรือ Finder
เหมาะกับกรณีที่ Force Restart ไม่สำเร็จ
ขั้นตอน:
- เชื่อมต่อ iPhone เข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านสายชาร์จ
- เปิดโปรแกรม iTunes (Windows / macOS เวอร์ชันเก่า) หรือ Finder (macOS Catalina ขึ้นไป)
- กด Force Restart ค้างไว้ตามรุ่น (ดูวิธีด้านบน) จนเข้า Recovery Mode
- หน้าจอจะขึ้นสัญลักษณ์รูปสาย Lightning เชื่อมกับคอม → กด Update เพื่ออัปเดตระบบใหม่โดยไม่ลบข้อมูล
หาก Update ไม่ได้ผล ค่อยเลือก Restore (ล้างเครื่องทั้งหมด)
3. ใช้โปรแกรมซ่อมระบบ iOS (ไม่ลบข้อมูล)
มีโปรแกรมจากค่ายต่าง ๆ ที่ช่วยให้เปิดเครื่องติด เช่น
- Tenorshare ReiBoot
- iMyFone Fixppo
- Dr.Fone – Repair iOS
ที่สามารถช่วยซ่อมระบบได้ โดยไม่ต้องล้างข้อมูลในเครื่อง
แนะนำให้ใช้เฉพาะกรณีที่ไม่สามารถใช้ iTunes หรือ Finder ได้ หรือหากเครื่องไม่แสดงในคอมพิวเตอร์เลย
ถ้ายังไม่ได้ผล อาจถึงเวลาต้องส่งศูนย์
หากคุณลองทั้ง 3 วิธีด้านบนแล้วแต่เครื่องยังไม่ผ่านหน้าโลโก้ Apple มีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากปัญหาภายใน เช่น
- ชิปหน่วยความจำ NAND เสีย
- เมนบอร์ดชำรุด
- สายเชื่อมต่อภายในหลวมจากแรงกระแทก
ควรนำเครื่องเข้าศูนย์บริการ Apple หรือร้านที่รับซ่อม iPhone โดยเฉพาะ เพื่อให้ใช้เครื่องมือวิเคราะห์อย่างละเอียดต่อไป
อาการ iPhone ค้างที่โลโก้ Apple อาจดูน่ากลัวในตอนแรก แต่ในหลายกรณีสามารถแก้ได้ด้วยการ Force Restart หรือเข้า Recovery Mode ผ่านคอมพิวเตอร์ หากคุณเข้าใจขั้นตอนเบื้องต้น จะสามารถกู้เครื่องกลับมาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเข้าร้าน
คำค้นหา : ไอโฟนเปิดไม่ติด ขึ้นรูปแอปเปิ้ลแล้วดับ,ไอโฟนเปิดไม่ติด ขึ้นรูปแอปเปิ้ลแล้วดับ,ไอโฟนเปิดไม่ติด ขึ้นรูปแอปเปิ้ล ซ่อมกี่บาท,ไอโฟนเปิดไม่ติด ขึ้นรูปแอปเปิ้ลกระพริบ,ไอ โฟน ดับเอง แบ ต ยังไม่หมด เปิดไม่ติด,ไอโฟนเปิดไม่ติด ขึ้นรูปแอปเปิ้ลแล้วค้าง,ไอโฟน11ขึ้นรูปแอปเปิ้ล ติดๆดับๆ,ไอโฟน16เปิดไม่ติด ขึ้นรูปแอปเปิ้ลแล้วดับ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง


