iPhone เป็นสมาร์ตโฟนที่หลายคนไว้วางใจในเรื่องของความเร็วและความเสถียรของระบบ แต่ปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะกับรุ่นที่ความจุเริ่มต้น 64GB หรือ 128GB คือ “พื้นที่เก็บข้อมูลเต็มเร็ว” ไม่ว่าจะเป็นคนที่ใช้ iPhone ถ่ายรูปเยอะ ติดตั้งแอปไว้หลายแอป หรือเปิดใช้งาน iCloud อย่างจำกัด ก็ล้วนมีโอกาสเจอข้อความเตือนว่า “พื้นที่เก็บข้อมูล iPhone เต็ม”
บทความนี้ Mycontent-thai.com จะพาไปรู้จักสาเหตุที่พื้นที่เต็มเร็ว พร้อมวิธีจัดการที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้คุณใช้ iPhone ได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องลบรูปสำคัญหรือซื้อเครื่องใหม่ก่อนเวลาอันควร
ทำไมพื้นที่ iPhone ถึงเต็มเร็ว?

1. รูปภาพและวิดีโอใช้พื้นที่จำนวนมาก
การถ่ายวิดีโอแบบ 4K หรือ Live Photos จะใช้พื้นที่มากกว่าปกติ หลายคนเก็บไว้โดยไม่เคยลบ ยิ่งเปิด iCloud Photo แบบความจุฟรี 5GB ก็ยิ่งจัดการยาก เพราะภาพบางส่วนจะซ้ำกันทั้งในเครื่องและบนคลาวด์
2. แอปต่าง ๆ สะสมข้อมูล (Cache)
แอป Social อย่าง LINE, Facebook, TikTok หรือแอปส่งข้อความ มักจะมีไฟล์ชั่วคราว เช่น วิดีโอที่เคยเปิด, รูปที่เคยส่งหรือแชตเก่า ๆ ที่ค้างอยู่ ซึ่งกินพื้นที่โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว
3. ไฟล์อื่น ๆ ที่ไม่เคยล้าง
เช่น ไฟล์ระบบเก่า, ไฟล์อัปเดตที่ยังไม่ได้ลบออก, Safari History, ไฟล์ในแอป Files ที่เก็บไว้แล้วลืมไปนาน รวมถึงไฟล์แคชจาก App Store เอง
วิธีเคลียร์พื้นที่ใน iPhone ให้กลับมาลื่น
1. ดูว่าอะไรใช้พื้นที่มากที่สุด
เข้าไปที่ Settings > General > iPhone Storage
รอสักครู่ให้ระบบโหลดข้อมูล แล้วคุณจะเห็นว่าแอปไหนหรือหมวดไหนใช้พื้นที่มากที่สุด เช่น Photos, Apps, Media, System, หรือ Other
2. จัดการรูปถ่ายอย่างเป็นระบบ
- เปิด Optimize iPhone Storage ที่
Settings > Photos > Optimize iPhone Storage
เพื่อให้ระบบเก็บรูปความละเอียดสูงไว้ใน iCloud แล้วแสดงเฉพาะเวอร์ชันขนาดเล็กในเครื่อง - ใช้แอปเช่น Gemini Photos ช่วยลบรูปซ้ำ ภาพเบลอ หรือสกรีนช็อตเก่า ๆ ที่ไม่จำเป็น
3. เคลียร์ Cache แอปยอดนิยม
- LINE → ลบข้อมูลเก่าโดยเข้า
Settings > Chats > Delete Data - Safari → ลบประวัติที่
Settings > Safari > Clear History and Website Data - TikTok/IG/Facebook → ลบและติดตั้งใหม่ จะช่วยล้าง Cache ที่มองไม่เห็นได้ดีที่สุด
4. ลบแอปที่ไม่ได้ใช้เลย
บางแอปอาจใช้พื้นที่มากแต่คุณไม่เคยแตะมันมานาน ให้พิจารณาลบออก หรือใช้ฟีเจอร์Offload Unused Apps ที่ช่วยลบแอปออกแต่ยังเก็บข้อมูลไว้ในเครื่อง หากวันใดต้องใช้ก็ค่อยดาวน์โหลดกลับมาใหม่
5. เคลียร์พื้นที่ “Other” หรือ “System Data”
แม้ Apple จะไม่เปิดเผยชัดเจนว่า Other ประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่ส่วนมากคือไฟล์แคชและไฟล์ระบบชั่วคราว วิธีลดพื้นที่ส่วนนั้นได้ดีที่สุดคือ
- Restart เครื่อง
- ติดตั้งแอปใหม่ (เฉพาะที่ใช้จริง)
- สำรองข้อมูลแล้ว Restore เครื่องใหม่หากยังไม่หาย
อัปเกรด iCloud หรือใช้ External Storage
หากคุณใช้ iCloud ฟรี 5GB แล้วรู้สึกว่าไม่พอ ลองพิจารณาอัปเกรดเป็น iCloud+ 50GB เดือนละ 35 บาท หรือ 200GB เดือนละ 99 บาท (แชร์กับครอบครัวได้)
หรือจะเลือกใช้ External Storage เช่น Flash Drive สำหรับ iPhone แบบ Lightning/USB-C SSD แบบ OTG ที่เสียบเข้ากับมือถือโดยตรง เพื่อย้ายไฟล์วิดีโอ, งาน หรือภาพถ่ายออกจากเครื่องได้ง่ายและปลอดภัย
พื้นที่เต็มไม่ใช่ปัญหาที่ต้องแก้ด้วยการ “ซื้อเครื่องใหม่” เสมอไป หากคุณเข้าใจว่าพื้นที่ไหนใช้ไปกับอะไร และเรียนรู้วิธีจัดการกับ Cache, รูปภาพ, แอปพลิเคชัน และเอกสารต่าง ๆ อย่างมีระบบ คุณจะสามารถใช้ iPhone เครื่องเดิมไปได้นานขึ้น และมีพื้นที่พร้อมสำหรับการใช้งานสำคัญในทุกสถานการณ์
Read More :
- งบ 5,000 ซื้อ iPhone รุ่นไหนได้? รุ่นที่คุ้มค่าในปี 2025
- iPhone รุ่นไหนที่ยังใช้งานได้ในปี 2025? เช็กเลยก่อนซื้อ
- สายชาร์จ Type C ไอโฟน ของแท้ราคาเท่าไหร่? แนะนำรุ่นที่ใช้ได้ตั้งแต่ iPhone 14 – iPhone 16
- สเปค IPhone16e เทียบกับมือถือแอนดรอยด์รุ่นไหนได้บ้าง
- สเปค IPhone16e เทียบกับมือถือแอนดรอยด์รุ่นไหนได้บ้าง

