พอปลูกมะม่วงในบ้านได้ผลผลิตดีแล้ว ถ้าอยากจะลองปลูกขายดูบ้าง ก็ต้องคำนวณแบบเกษตรกรก่อนว่า มะม่วง 1 ไร่ผลผลิตเท่าไหร่ ต้องใส่ปุ๋ยอะไรบ้าง? เพื่อจะได้คำนวณต้นทุน ปุ๋ย ดิน ที่ต้องใช้ในการปลูก บทความนี้ Mycontent-thai.com จะพาไปดูคำตอบทั้งหมดแบบชัดเจน พร้อมแนะแนวทางเร่งผลผลิตให้ได้ผลตอบแทนคุ้มที่สุดในปี 2025 นี้ค่ะ
ปลูกมะม่วง 1 ไร่ ได้ผลผลิตกี่กิโลกรัม?
ผลผลิตของมะม่วงต่อไร่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุของต้นมะม่วง พันธุ์ที่ปลูก วิธีดูแลรักษา การใส่ปุ๋ย และแหล่งน้ำ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว เราสามารถประเมินได้ดังนี้ค่ะ
มะม่วงปลูกใหม่ อายุ 3-5 ปี
- ต้นยังไม่ให้ผลเต็มที่
- ให้ผลประมาณ 30-50 กิโลกรัมต่อต้น/ปี
- ถ้าปลูก 35-40 ต้นต่อไร่ จะได้ผลผลิตราว 1,200 – 2,000 กิโลกรัมต่อไร่/ปี
มะม่วงต้นโตเต็มที่ อายุ 6 ปีขึ้นไป
- เข้าระยะให้ผลเต็มที่
- ให้ผลประมาณ 70-100 กิโลกรัมต่อต้น/ปี
- ถ้าปลูก 35 ต้นต่อไร่ จะได้ผลผลิตเฉลี่ย 2,500 – 3,500 กิโลกรัมต่อไร่/ปี
ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลผลิตมะม่วงต่อไร่
1. พันธุ์มะม่วงที่เลือกปลูก
ก่อนเริ่มลงปลูก เราก็ต้องเตรียมดิน เตรียมปุ๋ย มีต้นทุนอยู่มาก ก็ควรเลือกสายพันธุ์ที่คุณต้องกา ไม่ว่าจะเป็นรสชาติดี ได้ผลผลิตเยอะ หรือดูแลง่ายตรงกับสไตล์ของคุณ มะม่วงบางพันธุ์ออกผลดก เช่น น้ำดอกไม้ เขียวเสวย หรือฟ้าลั่น ขณะที่บางพันธุ์ออกผลน้อยแต่น้ำหนักดี เช่น R2E2
2. ระยะปลูกและจำนวนต้นต่อไร่
การปลูกมะม่วงเพื่อขาย คำนวณได้จากพื้นที่ก่อนปลูกเพื่อคำนวณต้นทุนได้ค่ะ เช่น โดยทั่วไป ปลูกระยะ 6 x 6 เมตร จะได้ประมาณ 35 ต้น/ไร่ ถ้าปลูกถี่มากเกินไป อาจแย่งอาหารและแสง ทำให้ผลผลิตลดลง หากเรามีพื้นที่ 2 ไร่ ก็จะปลูกต้นมะม่วงได้ 70 ต้น ต้องดูแลดิน ดูแลน้ำ ทำให้เราคำนวณผลผลิตได้ง่ายขึ้น
3. การดูแล การตัดแต่งกิ่ง และควบคุมแมลง
ต้นมะม่วงต้องการแสงแดดและอากาศถ่ายเทดี หากปล่อยรกจะไม่ติดดอกหรือดอกร่วงง่าย ควรหมั่นตัดแต่งกิ่งและฉีดพ่นสารชีวภาพเพื่อป้องกันเพลี้ยและแมลงวันทอง เราจึงไม่ควรปล่อยปละให้มะม่วงโตเอง หากอยากได้ผลผลิตที่ดีก็ต้องหมั่นดูแลเรื่องความสูง ช่อ กิ่ง และแมลงด้วยค่ะ
4. การใส่ปุ๋ยและน้ำอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้ต้นมะม่วงออกดอก ออกผลผลิตที่ดี ก็ต้องหมั่นเติมปุ๋ยให้สารอาหารและเร่งดอก เพื่อให้ดอกมีสุขภาพแข็งแรง และมีต้นที่หล่อเลี้ยงสารอาหารไปยังผลมะม่วงของเราได้รสชาติดี และอย่าลืมให้น้ำสม่ำเสมอโดยเฉพาะช่วงก่อนออกดอกและติดผล
แนะนำปุ๋ยเร่งผลผลิตมะม่วง ปี 2025
เพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นในยุคที่ราคามะม่วงแปรผันตามฤดูกาล การเลือกปุ๋ยที่เหมาะสม มีผลอย่างมาก โดยเฉพาะสูตรที่กระตุ้นการออกดอก ติดผล และเพิ่มขนาดของผลมะม่วง
1. ปุ๋ยสูตรเร่งดอก 8-24-24 หรือ 12-24-12
- ใช้ก่อนฤดูออกดอก (ประมาณเดือน พ.ย. – ม.ค.)
- ช่วยให้ต้นสะสมอาหารและกระตุ้นการออกช่อดอก
2. ปุ๋ยเร่งขนาดผล 13-13-21 หรือ 15-15-15 + แคลเซียม-โบรอน
- ใช้ช่วงผลติดแล้ว เพื่อเพิ่มขนาดและลดการหล่นของผล
- แคลเซียมและโบรอนช่วยให้ผลแน่น ผิวไม่แตกง่าย
3. ปุ๋ยอินทรีย์และฮิวมิค แอซิด
- ควรเสริมเพื่อปรับโครงสร้างดินให้ร่วนซุย รากเดินดี
- เหมาะใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีในรอบปี
อยากให้มะม่วง 1 ไร่ ให้ผลผลิตสูง ต้องทำอย่างไร?
- เลือกพันธุ์ที่ให้ผลดก เช่น เขียวเสวย น้ำดอกไม้ หรือพันธุ์ตลาดนิยม
- ปลูกระยะเหมาะสม 6 x 6 เมตร ได้ 35 ต้นต่อไร่
- ใส่ปุ๋ยสูตรเร่งดอกและเร่งผลในช่วงเวลาที่เหมาะสม
- ดูแลตัดแต่งกิ่ง ป้องกันแมลง และรดน้ำสม่ำเสมอ
อยากเร่งให้มะม่วงติดลูกดกในปีนี้? 👉 ลองใช้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 คู่กับแคลเซียม-โบรอน จากร้านค้าเกษตรชั้นนำใน SHOPEE หรือ LAZADA ได้เลย! หรือแม้กระทั่ง TikTok Shop ก็มีร้านค้าขายปุ๋ยและดินที่ส่งเร็ว ได้ราคาดีด้วยค่ะ
ปุ๋ยดี ต้นสมบูรณ์ ผลผลิตเยอะ ขายได้ราคาดีแน่นอน
ช่องทางการติดต่อกลุ่ม FACEBOOK : “โค้ดส่วนลด Shopee Lazada ฯลฯ by My Content“
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- รู้จัก “มะม่วงยายกล่ำ” สายพันธุ์ดีประจำเมืองนนท์ มีที่มาอย่างไร
- 100 เมนูอาหารตามสั่ง จบปัญหาโลกแตกวันนี้กินอะไรดี
- สินค้าโอทอป 77 จังหวัด มีอะไรบ้าง
- รู้จักข้าวเหนียวเขี้ยวงู กข 6 คืออะไร? กินกับอะไรอร่อย?
- Soft Power คืออะไร ตัวอย่างของซอฟต์พาวเวอร์ในไทยมีอะไรบ้าง
เก็บโค้ดส่วนลดวันเลขเบิ้ล 1.1 – 12.12 : คลิก SHOPEE | LAZADA
เก็บโค้ดส่วนลดกลางเดือน MIDMONTH SALE : คลิก SHOPEE | LAZADA
เก็บโค้ดส่วนลดวันเงินเดือนออก PAYDAY คลิก SHOPEE | LAZADA
จองตั๋วเครื่องบินที่พักโรงแรมกับ LAZADA by Agoda คลิกที่นี่
จองตั๋วเครื่องบินที่พักโรงแรมกับSHOPEE คลิกที่นี่
จองตั๋วกิจกรรมที่พักโรงแรมwww.Klook.com



