หากคุณเพิ่งเริ่มเลี้ยงกระบองเพชร (Cactus) สายพันธุ์ยิมโนคาไลเซียม หรือที่เรียกกันว่า “ยิมโนด่าง” อาจจะได้ยินคำว่า “ชื่อโคลน” ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่มมูลค่าให้กับแคคตัสสายพันธุ์นี้ ยิ่งเป็นโคลนหายากยิ่งมีราคาสูง บทความนี้ Mycontent-thai.com จะพาคุณมารู้จักว่า “ชื่อโคลน” หมายถึงอะไร? สำคัญแค่ไหนกับการสะสมต้นไม้? แล้วมีโคลนไหนที่นักสะสมตามหากันมากที่สุด?
ชื่อโคลน Gymnocalycium คืออะไร? มีโคลนไหนยอดนิยมบ้างในวงการสะสมแคคตัสด่าง
การตั้งชื่อโคลนถือเป็นความสำเร็จของผู้พัฒนาสายพันธุ์ ซึ่งกว่าจะได้แต่ละโคลน ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ปีเลยทีเดียว เพื่อนำต้นพ่อ ต้นไม้ มาเลี้ยงให้เข้าสู่อายุที่พร้อมจะผสมเกสร และพัฒนารุ่นลูกให้โตออกมาพอ เมื่อเด็ดหน่อไปชำแล้ว ก็ควรได้รูปลักษณ์ที่เหมือนต้นพ่อต้นไม่ ไม่แตกต่างกันมากนัก ไม่ว่าจะออกมากี่หน่อ ก็ต้องได้ต้นสวยเหมือนต้นไม่
ชื่อโคลน Gymnocalycium คืออะไร?
“โคลน (Clone)” คือ สายพันธุ์ยิมโนด่างที่ถูกขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำหรือแยกหน่อ แทนการเพาะเมล็ด ซึ่งจะรักษารูปทรง สี และลวดลายของต้นแม่ไว้ได้แทบ 100% ต่างจากการเพาะเมล็ดที่มักจะได้สีและลายไม่เหมือนต้นแม่ ชื่อโคลน จึงเป็น “รหัสประจำต้นพันธุ์” ที่ทำให้รู้ว่าต้นนี้มาจากต้นแม่สายไหน และควรค่าต่อการสะสมแค่ไหนนั่นเอง ในวงการสะสม จึงมีการตั้งชื่อโคลนให้ต้นที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว เช่น
- ลายด่างที่สวยไม่เหมือนใคร
- โทนสีเฉพาะ เช่น ชมพูโมโนโทน, แดงแถบขาว
- ทรงสวย สมบูรณ์ ฟอร์มกลมหนา
- หนามเดี่ยว หนามคู่ หรือไม่มีหนามเลย
ทำไมโคลนถึงสำคัญในวงการแคคตัส?
โคลนที่พัฒนายาก มีจำนวนน้อย ทำให้พ่อค้าแม่ค้าสายพัฒนาสายพันธุ์นำมาขายได้ราคาดี หน่อของกระบองเพชรด่างนั้นขายได้ตั้งแต่หลักสิบ ถึงหลักหมื่น มาดูกันค่าว่าทำไมชื่อโคลนถึงสำคัญ
- ใช้เป็นสายต่อยอด:
นักเพาะพันธุ์นิยมใช้โคลนยอดนิยมไปพัฒนาเป็นลูกผสมใหม่ๆ - ช่วยยืนยันลักษณะต้นพันธุ์:
เช่น ถ้าเป็นโคลน “ซาซากิ” เราจะรู้ทันทีว่ามีลายเส้นเฉพาะ สีแดงเข้มขาวสลับ - มีผลต่อราคา
โคลนชื่อดัง ฟอร์มสวย ด่างเด่น ราคามักเริ่มต้นหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น - ความนิยม
บางโคลนกลายเป็น “โคลนในตำนาน” เพราะเลิกผลิตไปแล้ว หายากมาก
ตัวอย่างชื่อโคลนที่ประสบความสำเร็จ
1. โคลนมัลติคัลเลอร์ (Multicolor)

ยิมโนโคลนมัลติคัลเลอร์ (Multicolor) เป็นยินโนคาไลเซียมที่พัฒนาจากชาวไต้หวัน มีสีที่หลากหลายใน 1 พู สีสม่ำเสมอ และมีหน่อเยอะ เป็นที่นิยมสำหรับคนเลี้ยงมือใหม่เพราะให้สีสวยงาม และเด็ดหน่อมาปลูกใหม่ได้ง่าย ส่วนใหญ่หน่อจะด่างทุกพู ในขนาด 2 เซนติเมตรขึ้นไป
2. โคลนพิ้งค์ไดมอน (Pink Diamond)
ยิมโนโคลนพิ้งค์ไดมอน (Pink Diamond) คนเลี้ยงเรียกกันย่อๆ ว่า PDM พัฒนาโดยฟาร์มกระท่อมลุงจรณ์ ซึ่งถือเป็นฟาร์มเลี้ยงกระบองเพชรแห่งแรกๆ ของประเทศไทย ลักษณะของ Pink Diamond คือมีสีชมพูด่างสวย เป็นชมพูนม และมีสีชมพูที่บั้ง รวมถึงลักษณะต้นที่แป้น ความพิเศษคือเมื่อนำไปผสมเกสรกับต้นอื่นแล้วจะให้ลูกด่างชมพูได้ดี ภาพจากร้าน Phancactus ราคา 250 บาท SHOPEE
3. โคลนเดย์ดรีม (Day Dream)

ยิมโนโคลนเดย์ดรีม (Day Dream) พัฒนาโดยฟาร์มกระท่อมลุงจรณ์อีกเช่นกัน ลักษณะของยิมโนด่างโคลนนี้จะเป็นสีม่วง มี 5 – 8 พู ไม่มีหนาม ความหมายของชื่อเดย์ดรีมในภาษาไทยคือ “ฝันกลางวัน” เสมือนกับการพัฒนาสายพันธุ์ ที่ทำค่อนข้างยาก จึงเกิดเป็นความท้าทายให้ผู้เล่นใหม่ๆ นำไปผสมกับชื่อโคลนอื่นเพื่อดูลักษณะหน้าตารุ่นลูก ว่าจะมีสีสันอย่างไร ภาพจากร้าน แคคตัส บ้าน บ้าน
4. โคลนซีเปียเอ (Sepia A)

ยิมโนโคลนซีเปียเอ (Sepia A) มีลักษณะเป็นสีลายอินเวอร์ส เหลืองสลับเขียว ยิมโนโคลนนี้ยังมีหนามอยู่ และเมื่อเลี้ยงในแสงต่างๆ จะเปลี่ยนสีได้สวยงาม ทำให้มีผู้นิยมเลี้ยงมาก ราคาของโคลนนี้ยังค่อนข้างสูง ขนาด 2 เซนติเมตรอยู่ที่ 200 บาทขึ้นไป ยิมโนโคลนซีเปียเอ นี้ก็เป็นอีกหนึ่งโคลนที่พัฒนาโดยกระท่อมลุงจรณ์ที่คุณไม่ควรพลาด ภาพจากร้าน Queen Cactus
5. โคลนซีเปียบี (Sepia B)

ยิมโนโคลนซีเปียบี (Sepia B) แบบฟอร์มสวยๆ มีจำนวนน้อยในท้องตลาด ไม่ค่อยให้หน่อเท่าไหร่ และมีสีสันที่แตกต่างไปตามแสงแดด ทั้งสีน้ำตาล สีเหลือง สีเขียว สีน้ำตาลอมแดง สีเสมอกันทุกพู ถือเป็นยิมโนโคลนคลาสสิคที่มีผู้นิยมเล่นมาก และราคาไม่ค่อยลง เป็นอีกหนึ่งโคลนที่พัฒนาโดยกระท่อมลุงจรณ์ที่มีคนตามหากันตลอด Phancactus
6. โคลนแบล็ควิโดว์ (Black Widow)

ราคา 88 บาท จากร้าน TheVilla_Garden ใน SHOPEE
ยิมโนโคลนแบล็ควิโดว์ (Black Widow) ได้ชื่อมาจากแมงมุมแม่ม่ายดำ โดยสีผิวของน้องดำสนิท มีหนามที่แหนม เป็นอีกหนึ่งโคลนที่พัฒนาโดยกระท่อมลุงจรณ์ที่มีผู้นำไปผสมเกสรเข้ากับโคลนอื่นๆ และได้ลูกออกมาสีเข้มขึ้่น ถ้าใครได้เห็นโคลนแบล็ควิโดว์จะรู้สึกว่ามันเร้นลับ และน่าคันหามาก ปัจจุบันพอจะหาซื้อได้ในราคาหลักสิบ และหาไม่ยากแล้วค่ะ ภาพจากร้าน TheVilla_Garden ใน SHOPEE
7. โคลนแบล็คเพิร์ล (Black Pearl)

ภาพจากร้าน PUMA B.Cactus ใน SHOPEE
ยิมโนโคลนแบล็คเพิร์ล (Black Pearl) เป็นแคคตัสที่ภาคภูมิใจของผู้พัฒนาสายพันธุ์ชาวไทย จากฟาร์มเพชรแต้มสี จังหวัดระยอง ที่มีชาวต่างประเทศบินมาเพื่อสั่งซื้อจากฟาร์มอยู่ตลอด สร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้กับผู้เลี้ยงกระบองเพชรยิมโนด่าง จุดเด่นของโคลนแบล็คเพิร์ล เมื่อยังเป็นหน่อเล็กๆจะมีสีแดง ดำ สลับกันสวยงาม และเมื่อโตขึ้นยอดจะเริ่มแตกเป็นคริส แล้วยิ่งเลี้ยงเป็นฟอร์มคริส จะสวยมาก ราคากระถางใหญ่ๆ สูงถึงหลักแสนก็มี (ภาพจากร้าน PUMA B.Cactus ใน SHOPEE)
8. โคลนทีเร็กซ์ (T-Rex)

ภาพจากร้าน MM Cuctus SHOPEE
ยิมโนโคลนทีเร็กซ์ (T-Rex) พัฒนาและวางจำหน่ายจากฟาร์มของพี่เดียว Deaw Cactus ถือเป็นกลุ่มคนเลี้ยงกระบองเพชรยุคแรกๆ ของประเทศไทยเช่นกัน และได้ผลิตต้นไม้ส่งออก จนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จุดเด่นของโคลนทีเร็กซ์คือผิวจะยับ และมีสีแทรกระหว่างพู สัน มองดูสวยงาม และมักให้หน่อเยอะด้วย หลายคนจัดอยู่ใน “โคลนสายยับ” เพราะมีผิวที่ยับ หรือเรียกกันเล่นๆ ว่า “ไดโนเสาร์” ตามชี่อสายพันธุ์ทีเร็กซ์ (ภาพจากร้าน MM Cuctus SHOPEE)
9. โคลนทีลัก (T-Lux)
ยิมโนโคลนทีลัก(T-Lux) จาก Deaw Cactus พัฒนาสายพันธุ์มาพร้อม ๆ กับโคลนทีเร็กซ์ แต่มีจุดเด่นที่สีของโคลนนี้จะออกสีชมพูมากกว่า และแม้ว่าจะให้หน่อเยอะเหมือนกัน แต่ก็มีสีชมพูตามต้นแม่ ด้วยความที่สีชมพูเป็นสัญลักษณ์แห่งวาเล่นไทน์ ชื่อโคลนนี้จึงออกเสียงคล้ายกับคำว่า “ที่รัก” ไม่ผิดแน่ (ภาพจากร้าน นั่งปลูกจนปวดหลัง SHOPEE)
10. โคลนบับเบิ้ลกัม (Bubble Gum)

ยิมโนโคลนบับเบิ้ลกัม (Bubble Gum) เป็นโคลนที่มาจากสวน พีบี แคคตัส จากกลุ่มผู้เลี้ยงรุ่นใหม่ที่พัฒนาโคลนนี้ขึ้นมาได้อย่างสวยงาม ลักษณะตัวต้นแม่จะออกสีเขียว มีสีชมพูแทรก แต่หน่อจะเป็นสีชมพู เมื่อหน่อมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็สามารถไปชำหน่อได้ลักษณะเหมือนต้นแม่ สั่งซื้อได้ที่นี่ SHOPEE
นอกจาก 10 ชื่อโคลนยิมโนคาไลเซียมที่แนะนำมาในบทความนี้ ในผู้พัฒนาต่างๆ ยังมีอีกหลายชื่อที่น่ารักๆ และมีประวัติที่น่าสนใจ เช่น ชื่อโคลนจ่าแซม ที่ตั้งชื่อโคลนเพื่อยกย่องจ่าแซมในวีรกรรมช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมู่ป่าที่ติดอยู่ในถ้ำเขานางนอน จังหวัดเชียงราย, ชื่อโคลนแบล็คพิงค์ ที่เป็นยิมโนด่างสีชมพูดำ ตั้งตามชื่อวง K-Pop Black Pink, ชื่อโคลนเลิฟลี่ ตุ๊ดซี่ส์ ตั้งชื่อโคลนตามผู้พัฒนาสายพันธุ์ที่เป็น LGBT เรียกได้ว่าการปลูกกระบองเพชรนั้นแทรกซึมไปทุกวงการแล้วจริงๆ
คำแนะนำสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่ที่ต้องการเลือกซื้อยิมโนโคลนต่างๆ แนะนำให้เริ่มจาก Daydream และ Pink Diamond ขนาด 3 เซนติเมตรขึ้นไป เพื่อให้ออกดอก และนำดอกมาผสมกัน ได้ความสนุกของการผสมข้ามชื่อโคลน เพื่อรอลุ้นดูหน้าตาใหม่ๆ ของรุ่นต่อไป สำหรับใครที่เพิ่งสนใจเลี้ยงต้นกระบองเพชร หรือต้นแคคตัสนี้ก็สามารถกลับมาติดตามบทความดีๆ จาก Mycontent-thai.com ได้ที่นี่
คำค้นหา : ยิมโนโคลนคืออะไร,Gymnocalycium มีกี่สายพันธุ์,ดอกยิมโนบานในช่วงเดือนอะไร,ยิมโนด่างวิธีเลี้ยง, ยิมโนด่าง ราคาแพงที่สุด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- รู้จักกระบองเพชร “ยิมโนด่าง” มีกี่สายพันธุ์ เลี้ยงยังไงให้ออกดอก
- ประกันคอนโดมีความสำคัญอย่างไร? ได้เงินชดเชยอย่างไรเมื่อเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหว
- ซ่อมแอร์บ้านราคาเท่าไหร่? รวมปัญหาแอร์ที่พบบ่อยและค่าใช้จ่าย
ช่องทางการติดต่อกลุ่ม FACEBOOK : “โค้ดส่วนลด Shopee Lazada ฯลฯ by My Content“
เก็บโค้ดส่วนลดวันเลขเบิ้ล 1.1 – 12.12 : คลิก LAZADA | SHOPEE
เก็บโค้ดส่วนลดกลางเดือน MIDMONTH SALE : คลิก LAZADA | SHOPEE
เก็บโค้ดส่วนลดวันเงินเดือนออก PAYDAY : คลิก LAZADA | SHOPEE
จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก โรงแรม กับ LAZADA by Agoda คลิกที่นี่
จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก โรงแรม กับ SHOPEE คลิกที่นี่
จองตั๋วกิจกรรมที่พักโรงแรม www.Klook.com



