ในปี 2568 มีข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้พาวเวอร์แบงก์บนเครื่องบิน ซึ่งกฎนี้ออกเป็นหลักสากลตามข้อกำหนดของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ในปี 2025 จะเริ่มห้ามชาร์จพาวเวอร์แบงก์บนเครื่องบินตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป และการนำแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ขึ้นเครื่องบินมีหลักเกณฑ์ดังนี้
- ความจุไม่เกิน 100 Wh (หรือประมาณ 20,000 mAh): สามารถนำขึ้นเครื่องได้โดยไม่จำกัดจำนวน
- ความจุระหว่าง 100-160 Wh (หรือประมาณ 20,000-32,000 mAh): สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อนต่อคน
- ความจุเกิน 160 Wh (หรือมากกว่า 32,000 mAh): ห้ามนำขึ้นเครื่องบินในทุกกรณี
นอกจากนี้ แบตเตอรี่สำรองต้องพกติดตัวขึ้นเครื่องเท่านั้น ห้ามใส่ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง เนื่องจากความเสี่ยงในการเกิดความร้อนสะสมและอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดได้
อย่างไรก็ตาม สายการบินบางแห่งได้ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย เช่น สายการบินไทย (Thai Airways) ประกาศห้ามผู้โดยสารใช้หรือชาร์จพาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบินตลอดระยะเวลาการเดินทาง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
จะทราบได้อย่างไรว่าพาวเวอร์แบงก์มีความจุเท่าไหร่?
ตามหลัก มอก. พาวเวอร์แบงก์จะต้องมีการแจ้งความจุไฟฟ้า mAh. ไว้บนเครื่อง แต่หากระหว่างใช้งาน เกิดการลบเลือนไป และเมื่อมีการตรวจสอบก็จะทำให้ไม่สามารถนำพาวเวอร์แบงก์ขึ้นเครื่องได้ สิ่งที่ทำได้ต่อไปก็คือต้องทิ้งไว้ที่สนามบิน หรือส่งเป็นพัสดุต่อไป
พัดลมห้อยคอถือเป็นพาวเวอร์แบงก์ไหม?
พัดลมห้อยคอส่วนใหญ่มี ความจุไม่เกิน 160 Wh แต่หากไม่มั่นใจว่าระหว่างเดินทาง สามารถพกขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ก็ไม่ควรนำไป หรือหาคำอธิบายที่ถูกต้อง เพราะบางประเทศก็อาจจะยังไม่รู้จักพัดลมห้อยคอ ต้องอธิบายให้ทราบว่าเป็นพัดลมแบบใส่ถ่าน AA, AAA หรือเป็นแบตในตัว
วิธีการเลือกพาวเวอร์แบงค์สำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบิน
การเลือกพาวเวอร์แบงค์ที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบิน ควรพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้
1. ความจุของแบตเตอรี่
เลือกพาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุไม่เกิน 20,000 mAh เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการนำขึ้นเครื่องบิน และเพียงพอต่อการชาร์จอุปกรณ์ของคุณ
2. ขนาดและน้ำหนัก
ควรเลือกพาวเวอร์แบงค์ที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา เพื่อความสะดวกในการพกพาและไม่เพิ่มภาระในการเดินทาง
3. รองรับการชาร์จเร็ว
พาวเวอร์แบงค์ที่รองรับการชาร์จเร็วจะช่วยให้คุณสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ควรตรวจสอบว่ารองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว เช่น Power Delivery (PD) หรือ Quick Charge (QC)
4. จำนวนพอร์ตและประเภทพอร์ต
เลือกพาวเวอร์แบงค์ที่มีจำนวนพอร์ตเพียงพอต่อความต้องการของคุณ และมีประเภทพอร์ตที่ตรงกับอุปกรณ์ที่คุณใช้ เช่น USB-A, USB-C หรือ Lightning
5. มาตรฐานความปลอดภัย
ตรวจสอบว่าพาวเวอร์แบงค์มีมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน มอก. หรือมาตรฐานสากลอื่น ๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน
ผู้โดยสารควรตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินที่ใช้บริการก่อนการเดินทาง และปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนเครื่องบิน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- 10 ที่ชาร์จถ่าน และถ่านชาร์จของอะไรดี 2025
- Power Bank ขึ้นเครื่องบินได้ ยี่ห้อไหนดี 2567
- รวม 5 สาย UGREEN USB Hub ของแท้ ซื้อที่ไหน?


