ผมสีเขียวมีเฉดอะไรบ้าง มีชื่อเรียกว่าอะไร

ผมสีเขียวมีเฉดอะไรบ้าง มีชื่อเรียกว่าอะไร

ผมสีเขียว เป็นหนึ่งในโทนสีแฟชั่นที่หลายคนอยากลอง แต่ไม่กล้าทำเพราะกลัวไม่เข้ากับสีผิว แท้จริงแล้ว ย้อมผมสีเขียว ให้ลุคที่ดูหรูหรา ดูแพง แต่ถ้าหากคุณเรียกชื่อเฉดสีเขียวสำหรับย้อมผมไม่ถูก บทความนี้ Mycontent-thai.com จะพาไปดูเฉดสีเขียวแต่ละแบบว่าสวยขนาดไหน

ผมสีเขียว เหมาะกับใคร มีเฉดสีอะไรบ้าง

หากคุณเป็นผู้ที่มีผิวขาวไปจนถึงผิวคล้ำก็สามารถย้อมผมสีเขียวได้ เพราะสีเขียวมีหลากหลายเฉด เราจึงมักเห็นฝรั่งและชาวเอเชียนั้นเลือกเฉดสีเขียวที่เข้ากับผิว ทั้งเฉดเอมเมอรัล ฟอเรส ไปจนถึงเขียวมะกอก

  • ผิวขาว เหมาะกับสีเขียวพาสเทล, มิ้นต์, เขียวมะนาว
  • ผิวขาวอมเหลือง-ผิวเอเชีย เหมาะกับสีเขียวมรกต, เขียวอมน้ำเงิน
  • ผิวสองสี-แทน เหมาะกับสีเขียวเข้ม, เขียวขี้ม้า, เขียวมรกต
  • ผิวคล้ำ เหมาะกับสีเขียวมรกต, เขียวเข้ม, เขียวขี้ม้า

1. เฉดสีเขียวเข้ม (Dark Green / Emerald Green)

ผมสีเขียวเข้ม เฉดสี emerald green
ผมสีเขียวเข้ม เฉดสี emerald green

ผมสีเขียวเข้ม ให้ลุคที่ดูแพง คลาสสิก ไม่ฉูดฉาดเกินไป ทำให้หน้าดูสว่างขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการสีแฟชั่นที่ดูไม่แรงเกินไป มีเฉดสีที่เรียกว่า

  • Emerald Green (เขียวมรกต) – ดูหรูหรา เหมาะกับผมยาวลอน
  • Forest Green (เขียวป่าสน) – โทนเข้มลึกลับ ดูเซ็กซี่

2. เฉดสีเขียวหม่น (Fugger Green หรือ Olive Green)

ผมสีเขียวหม่น เฉดสี Olive Green
ผมสีเขียวหม่น เฉดสี Olive Green

ผมสีเขียวหม่น ที่ดูแพงแบบสายแฟ เหมาะกับคนที่อยากได้โทนหม่นหรู ดูเป็นธรรมชาติ และทำให้หน้าดูซอฟต์ขึ้น เหมาะกับคนที่อยากได้ สีผมฟาเกอร์ หรือเขียวหม่นอมเทา แต่ละเฉดสีเรียกว่า

  • Fugger Green – เขียวหม่นอมเทา สไตล์สายฝอ
  • Olive Green – เขียวมะกอก ดูแพงและเข้าได้กับทุกลุค

3. เฉดสีเขียวพาสเทล (Mint Green / Pastel Green)

ผมสีเขียวเฉด Pastel Green
ผมสีเขียวเฉด Pastel Green

ผมสีเขียวพาสเทล ให้ลุคสดใส มีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร ควรฟอกผมให้สว่างก่อนเพื่อให้สีติดชัด เหมาะกับคนผิวขาวและคนที่ต้องการลุคแฟนตาซี มีชื่อเฉดสีเรียกว่า

  • Mint Green – เขียวพาสเทล สดใสแบบสายเกาหลี
  • Seafoam Green – เขียวอมน้ำเงิน ลุคสวยหวาน

ย้อมผมสีเขียวให้ดูแพง ต้องทำยังไง?

ฟอกสีผมให้ได้ระดับที่เหมาะสม ผมสีเขียวจะออกเฉดที่สวย ก็ต้องเลือกฟอกสีผมให้สว่างขึ้น มีเคล็ดลับในการฟอกสีผมดังนี้

  • โทนเขียวเข้ม (Emerald Green, Forest Green) สามารถทำได้โดยไม่ต้องฟอกมาก หากเป็นผมโทนน้ำตาลอ่อน
  • โทนเขียวหม่น (Fugger Green, Olive Green) ต้องฟอกให้ได้ระดับ 7-8 ขึ้นไป
  • โทนเขียวพาสเทล (Mint Green, Seafoam Green) ต้องฟอกให้ได้ระดับ 9-10 เพื่อให้สีออกมาสวย

เลือกผลิตภัณฑ์ย้อมผมสีเขียวที่ติดทนและไม่ทำให้ผมเสีย หลังจากฟอกสีผมแล้วก็สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมที่ให้เม็ดสีเขียวสวยชัด และอยู่ติดทนนาน ดังนี้

  • โลแลนสีเขียว (Lolane Z Cool Color Milk #Green Tea หรือ Emerald Green)
  • Manic Panic (Enchanted Forest หรือ Venus Envy)
  • Berina (A19 Green หรือ A41 Olive Green)

ดูแลเส้นผมให้สีติดทนนาน ด้วยการเลือกใช้แชมพูสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ เช่น แชมพูม่วงหรือแชมพูสำหรับสีแฟชั่น หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนสูงกับเส้นผม เช่น การหนีบหรือไดร์ผมร้อนเกินไป และหมั่นดูแล บำรุงผมที่ผ่านการทำสีเขียวด้วยทรีตเมนต์และออยล์ เพื่อให้สีดูเงางามและไม่ซีดเร็ว

สีเขียวเป็นสีที่ดูดี ดูแพง เข้ากับหลายเฉดสีผิว โทนสีเขียวเข้มและเขียวหม่นเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ลุคดูหรู ส่วนโทนพาสเทลเหมาะกับคนที่อยากได้ลุคสดใส ลองเลือกเฉดสีที่ใช่ แล้วเปลี่ยนลุคให้โดดเด่นแบบมีสไตล์!

ช่องทางการติดต่อกลุ่ม FACEBOOK : “โค้ดส่วนลด Shopee Lazada ฯลฯ by My Content

เก็บโค้ดส่วนลดวันเลขเบิ้ล 1.1 – 12.12 : คลิก LAZADA | SHOPEE 
เก็บโค้ดส่วนลดกลางเดือน MIDMONTH SALE : คลิก LAZADA | SHOPEE 
เก็บโค้ดส่วนลดวันเงินเดือนออก PAYDAY : คลิก LAZADA | SHOPEE 

จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก โรงแรม กับ LAZADA by Agoda คลิกที่นี่
จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก โรงแรม กับ SHOPEE คลิกที่นี่
จองตั๋วกิจกรรมที่พักโรงแรม www.Klook.com

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น