มอยเจอร์ไรเซอร์ คือสกินแคร์ที่มีส่วนสำคัญที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และเป็นตัวช่วยสำคัญในทุกขั้นตอนการดูแลผิว ไม่ว่าคุณจะมีผิวมัน ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวผสม การเลือก มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
บทความนี้ Mycontent-thai.com จะมาแนะนำ 15 มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดีที่สุดในปี 2025 พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้ และตอบคำถามยอดฮิต เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหนดีที่สุด? หรือ มอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยอะไร?
มอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยอะไร? ทำไมถึงจำเป็น?
มอยเจอร์ไรเซอร์มีประโยชน์มากกว่าการให้ความชุ่มชื้น เพราะยังช่วย เสริมเกราะป้องกันผิว ลดการระคายเคือง และป้องกันริ้วรอยก่อนวัย โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องเจอมลภาวะ ฝุ่นควัน และแสงแดดตลอดเวลา ช่วยเติมความชั่มชื้นให้กับผิว ลดปัญหาผิวแห้ง เป็นขุย ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และลดการสูญเสียน้ำของชั้นผิว นอกจากนี้ยังควบคุมความมันในคนที่มีผิวมัน การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมัน ลดการระคายเคือง ช่วยให้สภาพผิวแพ้ง่ายดีขึ้นด้วยการช่วยล็อคสารบำรุงอื่น ๆ จากเซรั่มหรือเอสเซนส์ให้อยู่บนผิวได้ยาวนานขึ้น
มอยเจอร์ไรเซอร์ทาตอนไหนดีที่สุด?
เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ คือ เช้าและก่อนนอน
- ตอนเช้า: ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ก่อนครีมกันแดด เพื่อช่วยกักเก็บน้ำให้ผิวชุ่มชื้นตลอดวัน
- ก่อนนอน: ใช้หลังเซรั่ม เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวขณะนอนหลับ
15 มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี 2025
1. CeraVe Moisturizing Cream – ราคา 855 บาท

CeraVe Moisturizing Cream ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแห้งถึงผิวแพ้ง่าย อุดมด้วย Ceramide และ Hyaluronic Acid ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนานตลอดวัน พร้อมเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ปราศจากน้ำหอมและสารระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง
2. Eucerin UltraSENSITIVE Repair Cream – ราคา 1,170 บาท
Eucerin UltraSENSITIVE Repair Cream สูตรอ่อนโยนพิเศษสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง ช่วยลดอาการระคายเคืองอย่างมีประสิทธิภาพ ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ผิวมันหรืออุดตัน
3. La Roche-Posay Toleriane Double Repair Moisturizer – ราคา 1,090 บาท

La Roche-Posay Toleriane Double Repair Moisturizer มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย มี Niacinamide ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดงและอาการระคายเคือง พร้อมเติมน้ำให้ผิวอย่างล้ำลึกโดยไม่ทำให้หน้ามัน
4. Physiogel Daily Moisture Therapy Cream – ราคา 995 บาท
Physiogel Daily Moisture Therapy Cream ครีมบำรุงที่เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย ปราศจากสารกันเสีย น้ำหอม และพาราเบน ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดอาการผิวแห้ง ลอก เป็นขุยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. Clinique Moisture Surge 100H Auto-Replenishing Hydrator – ราคา 2,000 บาท
Clinique Moisture Surge 100H Auto-Replenishing Hydrator เนื้อเจลบางเบาให้ความชุ่มชื้นยาวนานถึง 100 ชั่วโมง ซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง เหมาะกับทุกสภาพผิว
6. Neutrogena Hydro Boost Water Gel – ราคา 599 บาท
Neutrogena Hydro Boost Water Gel เจลบำรุงผิวที่ออกแบบมาสำหรับผิวมันและผิวผสม มี Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยไม่ทำให้หน้ามัน เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่อุดตันรูขุมขน
7. Kiehl’s Ultra Facial Cream – ราคา 1,800 บาท
Kiehl’s Ultra Facial Cream ครีมให้ความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิว เหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
8. Hada Labo Premium Whitening Lotion – ราคา 580 บาท
Hada Labo Premium Whitening Lotion โลชั่นบำรุงผิวที่มี Hyaluronic Acid 5 ชนิด ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง และกระจ่างใส เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวผสม
9. Biotherm Life Plankton Sensitive Emulsion – ราคา 2,090 บาท
Biotherm Life Plankton Sensitive Emulsion อิมัลชั่นเนื้อบางเบา มี Life Plankton ที่ช่วยปลอบประโลมผิว บรรเทาอาการแพ้และอักเสบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและต้องการการฟื้นฟู
10. Srichand Skin Moisture Burst Gel Cream – ราคา 279 บาท
Srichand Skin Moisture Burst Gel Cream เจลครีมบำรุงผิวสำหรับผิวมันและผิวผสม เนื้อบางเบา ซึมไว ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน ช่วยเติมน้ำให้ผิวโดยไม่ทำให้หน้ามัน
11. Laneige Water Bank Blue Hyaluronic Cream – ราคา 950 บาท
Laneige Water Bank Blue Hyaluronic Cream ครีมบำรุงที่อุดมด้วย Hyaluronic Acid เข้มข้น ช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนาน เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวผสมที่ต้องการการบำรุงอย่างล้ำลึก
12. Drunk Elephant Protini Polypeptide Cream – ราคา 2,370 บาท
Drunk Elephant Protini Polypeptide Cream ครีมบำรุงผิวที่มีโปรตีนและเปปไทด์ ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวที่อ่อนแอ ปราศจากซิลิโคนและสารระคายเคือง เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย
13. The Ordinary Natural Moisturizing Factors + HA – ราคา 1,250 บาท

The Ordinary Natural Moisturizing Factors + HA
The Ordinary Natural Moisturizing Factors ครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ช่วยเติมน้ำและเสริมสร้างปราการผิว ซึมไว ไม่หนักหน้า เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
14. Cetaphil Daily Hydrating Lotion – ราคา 530 บาท
Cetaphil Daily Hydrating Lotion โลชั่นบำรุงผิวที่อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย มี Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน
15. Innisfree Green Tea Seed Cream – ราคา 540 บาท
Innisfree Green Tea Seed Cream ครีมบำรุงผิวที่มีสารสกัดจากชาเขียว ช่วยเติมน้ำและเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว เหมาะสำหรับผิวผสมและผิวแห้งที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวประเภทต่างๆ มีราคาตั้งแต่ 540 – 3,000 บาท หากเพื่อนๆ ต้องการมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับ ผิวแพ้ง่าย แนะนำ CeraVe หรือ La Roche-Posay ถ้าผิวมัน แนะนำ Neutrogena หรือ Srichand ส่วนคนที่ต้องการความชุ่มชื้นแบบเข้มข้น แนะนำ Clinique หรือ Laneige โดยสามารถเลือกซื้อจากช่องทางที่ให้ไว้ได้เลยค่ะ
Read More :
- 10 คลีนซิ่งออยล์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สำหรับคนเป็นสิว
- วิธีการลงสกินแคร์ ตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนลงเครื่องสำอาง
- แนะนำ 10 วอเตอร์ไมเซล่า พร้อมวิธีใช้ก่อนหรือหลังล้างหน้า?
- ขั้นตอนการลงสกินแคร์ Plantnary สําหรับคนเป็นสิว
- 8 กันแดดสําหรับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่าย 2025 ยี่ห้อไหนดี
แท็ก : มอยเจอร์ไรเซอร์,มอยเจอร์ไรเซอร์ทาตอนไหน,มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี,มอยเจอร์ไรเซอร์ เซราวี,มอยเจอร์ไรเซอร์ ศรีจันทร์,มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน,มอยเจอร์ไรเซอร์ ช่วยอะไร,มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน,มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวแพ้ง่าย,มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวผสม













