PD Charge (Power Delivery Charge) เป็นเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ใช้กับ USB Type-C โดยสามารถส่งพลังงานได้สูงถึง 100W (20V/5A) หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่รองรับ ทำให้สามารถใช้ชาร์จ มือถือ แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

วิธีดูว่าสาย USB Type-C เป็นสาย PD Charge หรือไม่

1. ดูสเปกของสายที่ระบุบนแพ็กเกจหรือร้านค้า
   • ต้องมีคำว่า PD (Power Delivery) หรือ 100W/65W/45W/20V/5A (ขึ้นอยู่กับรุ่นที่รองรับ)
   • ถ้าไม่มีระบุไว้ อาจเป็นสายที่รองรับเฉพาะการชาร์จปกติเท่านั้น
2. ดูที่ขั้วของสาย
   • สาย PD Charge มักเป็น USB-C to USB-C (ไม่ใช่ USB-A to USB-C)
   • ขั้วของสายบางรุ่นจะมีสัญลักษณ์ “E-Marker Chip” หรือข้อความกำกับเรื่อง PD
3. เช็กจากชิป E-Marker
   • สาย PD ที่รองรับกำลังไฟสูงกว่า 60W (20V/3A ขึ้นไป) ต้องมี E-Marker Chip ในตัว ซึ่งสามารถตรวจสอบได้โดยใช้แอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์เช็กสาย
4. ทดสอบการชาร์จ
   • ใช้อะแดปเตอร์ที่รองรับ PD แล้วดูว่าอุปกรณ์ได้รับกำลังไฟเต็มที่หรือไม่ (เช่น ถ้าชาร์จ MacBook ต้องได้ 60W ขึ้นไป)
   • หากชาร์จได้ช้า อาจเป็นสายที่ไม่รองรับ PD หรือรองรับแค่ PD กำลังไฟต่ำ
5. ตรวจสอบการรับส่งข้อมูล
   • สาย PD แท้ที่มีคุณภาพดีมักรองรับการส่งข้อมูลที่ความเร็ว USB 3.1/3.2 หรือ Thunderbolt 3/4
   • สาย USB 2.0 ทั่วไปอาจรองรับแค่การชาร์จ แต่ไม่ใช่ PD ที่จ่ายไฟได้สูง

คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาย PD Charge

• ถ้าจะใช้ PD Charge กับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูง ควรเลือกสายที่รองรับ 100W (20V/5A)
• ถ้าใช้กับมือถือหรือแท็บเล็ต อาจใช้สายที่รองรับ 18W, 30W, หรือ 60W ได้
• หลีกเลี่ยงสายราคาถูกเกินไปที่ไม่มีระบุ PD ชัดเจน เพราะอาจจ่ายไฟไม่ได้เต็มที่หรือไม่มี E-Marker Chip

หากต้องการให้แน่ใจว่าสายรองรับ PD Charge ให้ดูที่ กำลังไฟ (W), ประเภทหัว USB-C, มี E-Marker Chip หรือไม่ และทดสอบการชาร์จจริง

Read More :

• ประวัติของ “ถ่าน 1.5 V” ขนาด AA, AAA ใช้กับอะไรบ้าง
• ถ่าน 9V (9 โวลต์) คืออะไร ใช้ทำอะไร
• ถ่าน AAA, AA ยี่ห้อไหนดี 2024 สำหรับไฟฉาย รีโมทคอนโทรล
• Power Bank ขึ้นเครื่องบินได้ ยี่ห้อไหนดี 2567

สายชาร์จ PD คืออะไร ต่างจาก Type C อย่างไร