วิธีการขอใบกำกับภาษี Etax ในโครงการ Easy E-Receipt 2.0

Easy E-Receipt 2.0 2568 ซื้ออะไรถึงลดหย่อนภาษีได้สูงสุด

Easy E-Receipt 2.0  เป็นโปรแกรมเอกสารจัดการใบเสร็จดิจิทัล เก็บใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ทางอีเมล ไม่หาย ปลอดภัย และช่วยให้คุณลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท ในปีภาษี 2568 นี้ แต่คำถามสำคัญคือ ซื้ออะไรถึงจะลดหย่อนภาษีได้สูงสุด? บทความนี้จะช่วยคุณเลือกซื้อสินค้าและบริการที่คุ้มค่าและลดหย่อนภาษีได้มากที่สุด พบคำตอบได้ในบทความนี้

1. สินค้าและบริการทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2568

แน่นอนว่าการเลือกซื้อสินค้าที่ร่วมโครงการ Easy E-Receipt 2.0 (บางคนยังคุ้นในชื่อ ช้อปดีมีคืน 2568) จะช่วยให้คุณลดหย่อนภาษีได้ มีรายการดังนี้

  • สินค้าอุปโภคบริโภค: ของใช้ในครัวเรือน อาหาร และเครื่องดื่ม
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เสริม
  • สินค้าเพื่อการศึกษา: หนังสือ อุปกรณ์การเรียน และสื่อการเรียนการสอน
  • บริการสุขภาพ: ค่าตรวจสุขภาพ วัคซีน หรือค่ายา

ก่อนออกจากร้านตรวจสอบใบเสร็จให้มีข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อผู้ซื้อ หมายเลขใบกำกับภาษี และรายละเอียดการซื้อ พวกยอดเงินต่างๆ ให้ถูกต้อง เพราะใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบควรออกในวันเดียวกับวันที่ซื้อสินค้า

2. ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา

หากคุณมีลูก หรือกำลังอยู่ในวัยเรียนเรียนเพิ่มเติม ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการศึกษา บางอย่าง ออกใบกำกับภาษี Easy E-Receipt 2.0 ได้ ได้แก่

  • คอร์สเรียนพิเศษ
  • อุปกรณ์การศึกษา
  • กิจกรรมเสริมทักษะต่างๆ

3. ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ

ค่าประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เป็นสิ่งที่ลดหย่อนภาษีได้อยู่แล้ว แต่สินค้าและบริการบางอย่างที่ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีก็นำมาใช้ลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt 2.0 เช่น

  • สมุนไพร สินค้า OTOP ที่จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าสุขภาพ
  • บริการสปา นวดผ่อนคลาย

ซึ่งค่าใช้จ่ายในหมวดหมู่สินค้า OTOP ใช้ลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0 ได้สูงสุด 20,000 บาท

4. ค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุ

หากคุณมีค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้พิการในครอบครัว คุณสามารถนำค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปลดหย่อนภาษีได้ Easy E-Receipt 2.0 ใช้ชื่อของคุณออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ โดยกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

  • ผ้าอ้อมผู้ใหญ่
  • อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องวัดความดัน, เทอร์โมมิเตอร์, เครื่องตรวจเบาหวาน เป็นต้น

5. ค่าใช้จ่ายของคนในครอบครัว

หากคุณไม่รู้จะใช้จ่ายอะไรในโครงการ Easy E-Receipt 2.0 หรือมียอดยังไม่ครบ 30,000 บาท ในกลุ่มสินค้าทั่วไป และ 20,000 บาท ในกลุ่มสินค้าส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ก็สามารถสอบถามความต้องการของคนในครอบครัวว่ากำลังจะซื้อสินค้าในช่วงเวลาโครงการหรือไม่ ก็สามารถดีลกันเพื่อขอให้ออกใบกำกับภาษีเป็นชื่อของคุณได้

การเลือกซื้อสินค้าและบริการที่เหมาะสมสามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้สูงสุดในปี 2568 และเมื่อใช้งาน Easy E-Receipt 2.0 คุณจะสามารถจัดการเอกสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เก็บเอกสารใบกำกับภาษีได้ไม่หายผ่านทางอีเมล ซึ่งเชื่อว่าปีหน้าก็ยังคงมีช้อปดีมีคืนหรือ Easy E-Receipt 2.0 อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากคุณต้องซื้อสินค้าชิ้นใหญ่เข้าบ้านที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ร่วมรายการลดหย่อนภาษีนี้ ก็ควรศึกษาวิธีการขอใบกำกับภาษี และแยกเก็บรักษาไว้

Read More :

ใส่ความเห็น