เอสอีโอ (SEO : Search engine optimization: SEO) เป็นการจัดทำ ปรับปรุงเว็บไซต์หรือเว็บเพจ เพื่อให้ติดอันดับต้น ๆ ในหน้าผลการค้นหาของเสิร์ชเอนจิน ด้วยวิธีการธรรมชาติ หรือที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย จัดเป็นส่วนหนึ่งของการทำการตลาดผ่านระบบค้นหา หรือ search engine marketing (SEM) ซึ่งในประเทศไทยนั้นยังเป็นเพียงกลุ่มน้อยๆ แต่ก็มีหลายแบรนด์ที่เริ่มทำมานานมากแล้ว

SEO คืออะไร และทำไมการเขียนบทความ SEO ถึงสำคัญ

SEO นั้นเป็นช่องทางหนึ่งในการทำการตลาด โดยใช้คำค้นหาหลักของสินค้า หรือ บริการของคุณ เพื่อให้การโฆษณาเป็นไปอย่างธรรมชาติ และไม่เสียค่าโฆษณา มีจุดเด่นคือดึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย เหมาะสำหรับแบรนด์ที่คาดว่าจะดำเนินกิจการต่อไปนานๆ

การเขียนบทความ SEO คืออะไร?

การเขียนบทความ SEO คือการสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์คำค้น (Keywords) ของผู้ใช้งาน โดยเนื้อหาต้องมีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และถูกต้องตามหลักการของ SEO เพื่อช่วยให้บทความมีโอกาสติดอันดับสูงในผลการค้นหา

การทำบทความ SEO มีจุดสำคัญอยู่ที่การเลือกคีย์เวิร์ด ซึ่งต้องใช้คำค้นหาที่เป็นธรรมชาติ (natural search result หรือ organic search result) ปัจจุบันนี้รองรับ Google เป็นหลัก แต่ Yahoo, Bing หรือ TikTok และแบรนด์อื่นๆ ก็กำลังให้ความสำคัญกับ SEO นี้เช่นกัน

องค์ประกอบหลักของ SEO:

1. On-Page SEO:
   การปรับแต่งเนื้อหาในเว็บไซต์ เช่น การใช้คีย์เวิร์ด การใส่ Meta Tags และการจัดโครงสร้างบทความ
2. Off-Page SEO:
   การเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์ผ่านการสร้าง Backlinks และการโปรโมตเนื้อหาผ่านช่องทางต่าง ๆ
3. Technical SEO:
   การปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ เช่น ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ และการทำ Mobile-Friendly

ทำไมการเขียนบทความ SEO ถึงสำคัญ?

1. เพิ่มโอกาสติดอันดับใน Google

บทความ SEO ที่มีคุณภาพช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในหน้าแรกของ Google ซึ่งจะเพิ่มการมองเห็น (Visibility) และดึงดูดผู้เข้าชม

2. สร้าง Traffic คุณภาพ

SEO ช่วยดึงดูดผู้เข้าชมที่มีความสนใจในหัวข้อที่คุณเขียน ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะกลายเป็นลูกค้าหรือผู้ติดตาม

3. เพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

บทความที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและตอบคำถามของผู้อ่านช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์ของคุณในสายตาผู้ใช้งานและ Google

4. ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

เมื่อเทียบกับการโฆษณาแบบเสียเงิน การทำ SEO เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าในระยะยาว และยังช่วยสร้างการเข้าชมอย่างยั่งยืน

5. สร้างความได้เปรียบในธุรกิจ

ธุรกิจที่มีบทความ SEO ที่ดีมักมีความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่ง

องค์ประกอบสำคัญในการเขียนบทความ SEO

การทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ คือการเขียนบทความให้เว็บไซต์มีองค์ประกอบของคำค้นหาที่นิยมสูงๆ เพื่อให้ลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายเข้ามาถึงเว็บไซต์ของแบรนด์ได้อย่างเป็นไปตามธรรมชาติ รวมไปถึงสร้างภาพลักษณ์ และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับแบรนด์ไปควบคู่กันอีกด้วย วิธีการทำ SEO มีองค์ประกอบที่สำคัญ​ดังนี้

1. การเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม
   • ใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs หรือ SEMrush
   • เลือกคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูงและการแข่งขันต่ำ
2. การวางคีย์เวิร์ดในจุดสำคัญ
   • หัวข้อ (H1)
   • หัวข้อย่อย (H2, H3)
   • ย่อหน้าแรก
   • Meta Description
3. เขียนเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้อ่าน
   • เนื้อหาต้องตอบคำถามของผู้อ่านและมีข้อมูลที่ถูกต้อง
   • ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และแบ่งเนื้อหาให้เป็นส่วน ๆ ด้วยหัวข้อย่อย
4. ใส่ Meta Tags ที่มีประสิทธิภาพ
   • Meta Title: ควรมีคีย์เวิร์ดและดึงดูดความสนใจ
   • Meta Description: สรุปเนื้อหาใน 150-160 ตัวอักษร
5. เพิ่มลิงก์ภายในและภายนอก
   • Internal Links: เชื่อมโยงบทความอื่นในเว็บไซต์ของคุณ
   • External Links: อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
6. ปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์
   • ใช้เครื่องมือเช่น Google PageSpeed Insights เพื่อตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์
   • ลดขนาดไฟล์รูปภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการโหลด

การทำเว็บไซต์ SEO นั้น มีระยะเวลาติดอันดับอย่างเร็วที่สุดคือ 3-6 เดือน และอย่างช้าที่สุดคือ 12 เดือน เป็นการลงทุนเรื่องเวลา แต่เน้นคุณภาพ บทความ SEO สามารถแสดงผลเจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ต้องยิง Ads โฆษณา และจะอยู่บนหน้าแรกของการค้นหาเป็นเวลานานๆ ได้

อ้างอิง
ดัดแปลงจากศัพท์บัญญัติ ราชบัณฑิตยสถาน search engine ว่า “โปรแกรมค้นหา” และ optimize ว่า “ทำให้เหมาะที่สุด”
กระโดดขึ้น ↑ สุธี จันทร์แต่งผล, SEO ปรับเว็บให้แรง แต่งให้ติดอันดับ, สำนักพิมพ์ โปรวิสชั่น, 2551, หน้า 12