คีย์บอร์ด Mechanical Brown Switch กับ Red Switch คืออะไร? ใครที่เพิ่งเริ่มหาข้อมูลเพื่อเลือกใช้ คีย์บอร์ด Mechanical ก็คงจะได้ยินคีย์บอร์ดทั้ง 2 ประเภทนี้ บทความนี้ Mycontent-thai.com นำความแตกต่างของคีย์บอร์ดทั้งสองแบบมานำเสนอ..

• Brown Switch: เป็นสวิตช์ที่อยู่ในกลุ่ม Tactile Switch ซึ่งมีแรงต้านเล็กน้อยที่จุดกดกลาง ช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกถึงการตอบสนองขณะกด แต่ไม่มีเสียงคลิกชัดเจนเหมือน Clicky Switch คุณสมบัติเด่นของ Brown Switch คือการให้สัมผัสที่สมดุล เหมาะสำหรับการพิมพ์งานและการเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำและความเงียบในระดับหนึ่ง
• Red Switch: เป็นสวิตช์ในกลุ่ม Linear Switch ให้การกดที่ราบรื่นและไม่มีแรงต้านในระหว่างการกด การใช้งาน Red Switch จึงเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความรวดเร็วในการตอบสนอง โดยไม่ต้องการสัมผัสแรงต้านหรือเสียงรบกวนจากการพิมพ์

เปรียบเทียบคีย์บอร์ด Mechanical brown switch กับ คีย์บอร์ด Mechanical Red switch

คุณสมบัติ	Brown Switch	Red Switch
สัมผัสการกด	มีแรงต้านเล็กน้อย	ราบรื่น ไม่มีแรงต้าน
เสียง	เงียบกว่า Clicky	เงียบกว่า Brown
เหมาะสำหรับ	การพิมพ์งาน, การใช้งานทั่วไป	การเล่นเกมที่ต้องการความเร็ว

คีย์บอร์ด Mechanical Brown Switch กับ Red Switch มียี่ห้อไหนบ้าง

คีย์บอร์ด Mechanical Brown Switch

คีย์บอร์ดที่ใช้ Brown Switch เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสมดุลระหว่างการพิมพ์งานและการเล่นเกม โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมีดังนี้

1. Keychron K2 V2 (Brown Switch)
   • คุณสมบัติ: คีย์บอร์ดไร้สาย, รองรับการใช้งานทั้ง Mac และ Windows
   • มีสาย หรือ ไร้สาย: รองรับทั้งสองแบบ
   • ราคา: ประมาณ 2,500-3,000 บาท ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA
2. Redragon K552 (Brown Switch)
   • คุณสมบัติ: ไฟ RGB, ดีไซน์กะทัดรัด (87 คีย์)
   • มีสาย หรือ ไร้สาย: มีสาย
   • ราคา: ประมาณ 1,200-1,500 บาท ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA
3. Logitech G512 Carbon (Brown Switch)
   • คุณสมบัติ: ใช้ GX Brown Switch, ไฟ RGB และโครงสร้างอะลูมิเนียม
   • มีสาย หรือ ไร้สาย: มีสาย
   • ราคา: ประมาณ 3,500-4,000 บาท ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA
4. Ajazz AK33 (Brown Switch)
   • คุณสมบัติ: คีย์บอร์ดกะทัดรัด, ดีไซน์เรียบง่าย, มีไฟ LED
   • มีสาย หรือ ไร้สาย: มีสาย
   • ราคา: ประมาณ 1,500 บาท ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA

คีย์บอร์ด Mechanical Red Switch

คีย์บอร์ด Red Switch เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความลื่นไหลในการกดปุ่ม ยี่ห้อแนะนำมีดังนี้

1. HyperX Alloy FPS Pro (Red Switch)
   • คุณสมบัติ: TKL (ไม่มีแป้นตัวเลข), เน้นความกะทัดรัดสำหรับการพกพา
   • มีสาย หรือ ไร้สาย: มีสาย
   • ราคา: ประมาณ 2,500-3,000 บาท ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA
2. Royal Kludge RK61 (Red Switch)
   • คุณสมบัติ: ขนาด 60%, รองรับการใช้งานทั้งแบบมีสายและไร้สาย
   • มีสาย หรือ ไร้สาย: รองรับทั้งสองแบบ
   • ราคา: ประมาณ 1,500-2,000 บาท ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE
3. Razer Huntsman Mini (Red Switch)
   • คุณสมบัติ: ขนาด 60%, ใช้ Optical Red Switch ของ Razer
   • มีสาย หรือ ไร้สาย: มีสาย
   • ราคา: ประมาณ 3,500-4,500 บาท ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA
4. Nubwo X30 (Red Switch)
   • คุณสมบัติ: ไฟ RGB, ราคาย่อมเยา
   • มีสาย หรือ ไร้สาย: มีสาย
   • ราคา: ประมาณ 990-1,200 บาท ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA

สรุปแล้ว หากเพื่อนๆ ต้องการคีย์บอร์ด Mechanical สำหรับสัมผัสการพิมพ์งานทั่วไป และการใช้งานที่หลากหลาย หยิบมาเล่นเกมได้บางครั้ง ก็สามารถเลือก Brown Switch Keyboard แต่ถ้าหากต้องการเลือกคีย์บอร์ดที่ตอบสนองไว สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ ควรเลือก Red Switch Keyboard มากกว่า หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกคีย์บอร์ดที่ถูกใจได้นะคะ

ช่องทางการติดต่อกลุ่ม FACEBOOK : “โค้ดส่วนลด Shopee Lazada ฯลฯ by My Content“

เก็บโค้ดส่วนลดวันเลขเบิ้ล 1.1 – 12.12 : คลิก LAZADA | SHOPEE 
เก็บโค้ดส่วนลดกลางเดือน MIDMONTH SALE : คลิก LAZADA | SHOPEE 
เก็บโค้ดส่วนลดวันเงินเดือนออก PAYDAY : คลิก LAZADA | SHOPEE 

จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก โรงแรม กับ LAZADA by Agoda ก็ทำได้
จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก โรงแรม กับ SHOPEE คลิกที่นี่
จองตั๋วกิจกรรมที่พักโรงแรม www.Klook.com

แท็ก : Brown Switch Keyboard, Red Switch Keyboard,คีย์บอร์ด Mechanical,คีย์บอร์ด Mechanical เสียงเงียบ,คีย์บอร์ด Mechanical ไร้สาย,คีย์บอร์ด Mechanical มีสาย,คีย์บอร์ด Mechanical

สัญลักษณ์เปิดปิด I กับ O อันไหนเปิด อันไหนปิด

5 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จดทะเบียนได้ 2025 มีหน้าร้าน และออนไลน์