นาฬิกาเด็กโทรได้ (Watch phone) ป้องกันเด็กหาย ใช้ติดตามตัวเด็กได้ด้วย GPS มียี่ห้อไหนบ้างที่ใช้ดี

นาฬิกาเด็กโทรได้ (Watch phone) ป้องกันเด็กหาย ใช้ติดตามตัวเด็กได้ด้วย GPS มียี่ห้อไหนบ้างที่ใช้ดี

สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ และผู้ปกครอง ที่ผ่านเข้ามาเห็นบทความนี้นะคะ หัวข้อที่ Mycontent-thai.com ยกมาในวันนี้เป็นเรื่อง “นาฬิกาป้องกันเด็กหาย” หรือนาฬิกาเด็กโทรได้ที่หลายคนกำลังติดสินใจซื้อ ด้วยราคาที่อาจจะมองว่าสูง และเด็กก็ยังดูแลรรักษาของตัวเองไม่ได้ ดังนั้นข้อมูล นาฬิกาอัจฉริยะ ที่เรานำเสนอในบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับบุตรหลานได้แน่นอนค่ะ

นาฬิกาป้องกันเด็กหายคืออะไร จำเป็นต้องใช้ไหม?

นาฬิกาป้องกันเด็กหาย หรือ นาฬิกาเด็กโทรได้ ควรใช้ดูตำแหน่ง GPS ของเด็กได้ เพราะหลายครั้งที่เราพาลูกไปห้างสรรพสินค้า, สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง อาจเกิดการพลัดหลงกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากๆ หากมีนาฬิกาเด็กอัจฉริยะนี้ จะช่วยให้ ผู้ปกครองดูตำแหน่ง GPS ติดตามตำแหน่ง และเด็กสามารถใช้ปุ่มฉุกเฉิน SOS แจ้งเตือนมายังผู้ปกครองได้

ในปี 2566 – ปัจจุบัน ประเทศไทยเริ่มมีจำหน่ายอย่างแพร่หลาย และมีแพ็คเกจค่าเน็ตค่าโทรจาก True, AIS ออกมาคู่กับตัวเครื่องบางยี่ห้อ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นแล้วค่ะ

นาฬิกาเด็กอัจฉริยะ มีกี่ประเภท

นาฬิกาเด็กอัจฉริยะ มีกี่ประเภท

นาฬิกาเด็กอัจฉริยะมี 2 ประเภท คือ นาฬิกาเด็กโทรได้ (ใส่ซิม) กับนาฬิกาเด็กโทรทางไกล (ใช้บลูทูธ) มีรายละเอียดดังนี้

1. นาฬิกาเด็กโทรทางไกลผ่านบลูทูธ (Bluetooth)

นาฬิกาเด็กโทรได้ประเภทนี้ จะเรียกว่า Smart Kids Watch  จะใช้วิธีการติดตามตัวด้วย GPS ใส่ซิม แต่ล็อคฟังก์ชั่นการโทรเข้าโทรออก เพราะเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีในประเทศต่างๆ จะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการครอบครองอุปกรณ์ที่ใส่ซิมโทรได้ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่เด็กๆ นาฬิกาประเภทนี้จะเป็น Smart Watch ทั่วไป โทรทางไกลด้วยสัญญาณบลูทูธ หรืออินเตอร์เน็ต 4G อาจจะมีหรือไม่มีระบบ Tracking ฟีเจอร์อื่นๆ อย่างการจับชีพจรหัวใจ การตรวจสุขภาพ ตัวอย่างยี่ห้อที่มีจำหน่ายในไทย ได้แก่ นาฬิกาเด็กโทรได้ Aolon


ข้อดี : ราคาไม่แพง 2,000 – 4,000 บาท ผู้ปกครองกำหนดฟีเจอร์หลักๆ ได้
ข้อควรพิจารณา : ควรเลือกยี่ห้อที่ผ่านการรองรับจาก กสทช. มีสลากที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการการันตีความปลอดภัยของการรับส่งสัญญาณมือถือและสัญญาณเน็ต

2. นาฬิกาเด็กติดตามตัวเด็กได้ด้วย GPS


นาฬิกาเด็กโทรได้ประเภทนี้ จะเรียกว่า Kids Watch Phone แน่นอนว่าติดตามตัวเด็กได้ด้วย GPS จากสัญญาณมือถือผ่านซิมการ์ด นาฬิกาเด็กประเภทนี้จะใช้งานได้เหมือนโทรศัพท์ แต่รูปร่างจะเป็นนาฬิกา ยี่ห้อที่มีจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ Huawei, Xiaomi, My First และ iMoo  เหมาะสำหรับเด็กวัย Pre-school จะเนอร์สเซอรี่ หรืออนุบาล ถ้าใส่แล้ววิ่งเล่นที่สวน ไปห้าง จะได้รู้ตำแหน่งลูกว่าอยู่ตรงไหน เด็กประถมก็สามารถใช้ดูเวลาได้ บางโรงเรียนก็อนุญาตให้เด็กใช้พกไปโรงเรียนได้ด้วยค่ะ ผู้ปกครองก็สามารถติดตามได้ว่าลูกอยู่ที่โรงเรียน หรือสถานที่ที่ไปส่งได้ตลอดเวลาหรือไม่

ข้อดี : ใช้งานได้เหมือนโทรศัพท์มือถือในรูปแบบนาฬิกา
ข้อควรพิจารณา : ควรเลือกซิมการ์ดที่เหมาะกับการใช้งาน บางโรงเรียนไม่ให้พกไป

นาฬิกาเด็กโทรได้ ยี่ห้อไหนดี

นาฬิกาเด็กโทรได้ทั้ง 5 แบรนด์ที่ Mycontent-thai.com หยิบยกมานี้ ทุกรุ่นมีหน้าตาที่สวยงาม สายนาฬิกาเป็นซิลิโคนนิ่ม ใส่ใจในการปกป้องผิวเด็กจากเหงื่อ ที่ทำให้คันและระคายเคือง เห็นแบบนี้แล้วอยากกลับไปเป็นเด็กทีเดียวค่ะ

ช่องทางสั่งซื้อนาฬิกาเด็กโทรได้ imoo official SHOPEE | LAZADA

1. นาฬิกาเด็กโทรได้ iMoo Watch Phone 

นาฬิกาเด็ก iMoo Watch Phone เป็นนาฬิกาเด็กที่ได้รับความสนใจสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์นาฬิกาเด็ก โดยทำได้ทุกอย่างทุกฟังก์ชั่นที่กล่าวมา มีให้เลือก 7 รุ่น ได้แก่ iMoo Z1 – Z7 การใช้งานต้องใส่ Sim Card และมีแอปพลิเคชันให้คุณพ่อ คุณแม่ดาวน์โหลดมาใช้งานกับลูก การใช้งานแอปฯ ง่ายมาก เหมือนแชทไลน์ คุณปู่คุณย่าก็ใช้ได้ เหมาะสำหรับเด็กวัยเรียนชั้นอนุบาล และประถม ซิงค์กับมือถือของคุณพ่อคุณแม่ได้ด้วย imoo smart watch application ทั้ง Android และ iOS

ตัวอย่างรุ่น นาฬิกาเด็ก iMoo Z1 และ Z7

นาฬิกาเด็ก iMoo Z1 

นาฬิกาเด็กโทรได้ : imoo Z1
นาฬิกาเด็กโทรได้ : imoo Z1
ราคา : 3,290 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE  | LAZADA

ระบบการค้นหาตำแหน่ง: รองรับการระบุตำแหน่ง 7 รูปแบบ ได้แก่ GPS, GLONASS, LBS, Wi-Fi, A-GPS, Accelerator และ AI
ขนาดหน้าจอ: หน้าจอ TFT ขนาด 1.3 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 พิกเซล
กันน้ำ: มาตรฐาน IPX8 สามารถสวมใส่ล้างมือหรือโดนละอองฝนได้ แต่ไม่รองรับการสวมใส่ว่ายน้ำ  

ความละเอียดกล้อง: กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ความจุแบตเตอรี่: 740 mAh สามารถสแตนด์บายได้นานสูงสุด 7 วัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
ราคา : 3,290 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE  | LAZADA

นาฬิกาเด็ก iMoo Z7

นาฬิกาเด็กโทรได้ : imoo Z7
นาฬิกาเด็กโทรได้ : imoo Z7
ราคา : 6,290 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

ระบบการค้นหาตำแหน่ง: รองรับการระบุตำแหน่ง 10 รูปแบบ รวมถึง GPS, GLONASS, Beidou, Galileo, QZSS, Wi-Fi, LBS, A-GPS, Accelerator และ AI เพื่อความแม่นยำสูงสุด  AD GADGET 

ขนาดหน้าจอ: หน้าจอสัมผัส TFT ขนาด 1.3 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 พิกเซล
กันน้ำ: มาตรฐาน IPX8 สามารถสวมใส่ทำกิจกรรมน้ำตื้น เช่น ว่ายน้ำในสระ หรือการออกกำลังกายต่าง ๆ ได้
ความละเอียดกล้อง: กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 88 องศา และกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 76.2 องศา
ความจุแบตเตอรี่: ไม่ได้ระบุความจุแบตเตอรี่ที่แน่ชัด แต่มีการปรับปรุงตำแหน่งที่ชาร์จจากด้านหลังในรุ่น Z6 เป็นด้านข้าง เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น
ราคา : 6,290 บาท  คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

ข้อดีของ นาฬิกาเด็ก iMoo : 

  • ตัวเครื่องเป็น Watch Phone มากกว่า Smart Phone อย่างรุ่น Z7 ใช้งานได้แบบโทรศัพท์มือถือมากกว่า จึงเหมาะสำหรับหัดให้เด็กรู้จักความรับผิดชอบก่อนมีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง
  • มีแอปพลิเคชั่นที่ผู้ใหญ่ควบคุม และจำกัดฟีเจอร์ต่างๆ ได้
  • การใช้งาน Interface ของแอปฯ ง่ายมากๆ คุณตาคุณยายก็สอนใช้ได้
  • นอกจากตรวจจับตำแหน่งแล้วยังมีฟีเจอร์ แจ้งเตือนที่เด้งมาในมือถือพ่อแม่บ่อยๆ ให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับลูก
  • ขายในศูนย์ AIS และ Truemove H พร้อมแพ็คเกจ ไม่ต้องตามหาซิม

2. นาฬิกาเด็กใส่ซิม โทรได้ myFirst Fone R1s

นาฬิกาเด็กโทรได้ : Myfirst Phone
นาฬิกาเด็กโทรได้ : Myfirst Phone
ราคา 6,990 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

ในช็อป AIS วาง myFirst Fone R1s ไว้เคียงข้างกับกลุ่มนาฬิกาสำหรับเด็ก ตัวนี้ราคาพอๆ กับ HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro และออกมา 2 สี คือสีคัลเลอร์ฟูล กับสีดำ เหมาะสำหรับเด็กที่ชอบนาฬิกาสไตล์เรียบๆ ใส่ว่ายน้ำได้ไม่ต้องถอด รวมไปถึงมาพร้อมกับแพ็คเกจซิมการ์ด AIS โทรทุกเครือข่าย 100 นาที เล่นเน็ตได้ 1GB คุย VDO Call กับคุณพ่อคุณแม่ได้ในระดับคมชัดสูง

ระบบการค้นหาตำแหน่ง: รองรับ Wi-Fi, GPS และ A-GPS เพื่อการติดตามตำแหน่งที่แม่นยำ

ขนาดหน้าจอ: หน้าจอ TFT ทรงกลมขนาด 1.3 นิ้ว พร้อมระบบสัมผัสแบบ Capacitive 
กันน้ำ: มาตรฐาน IPX8 ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ความลึก 1 เมตร เป็นเวลา 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ใช้งานขณะอาบน้ำหรือว่ายน้ำ เพื่อรักษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์ 
ความละเอียดกล้อง: กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ความจุแบตเตอรี่: 580 mAh ให้เวลาสนทนาสูงสุด 6 ชั่วโมง
ราคา: ราคาโดยประมาณอยู่ที่ 6,990 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

ข้อดีของ myFirst Fone R1s

  • หน้าตาดูเหมือนนาฬิกาคลาสสิคทั่วไป ดีไซน์กะทัดรัด ไม่เทอะทะ 
  • สายยาว ใส่ได้นานๆ ทนๆ เป็นซิลิโคนเกรดเดียวกับจุกนมเด็ก 
  • ใช้งานง่าย  
  • ใส่ว่ายน้ำได้
  • แบตเตอรี่อยู่ได้นานเต็มวัน
  • มีขายในศูนย์ AIS  พร้อมแพ็คเกจ ไม่ต้องตามหาซิม

3. นาฬิกาเด็กใส่ซิม โทรได้ HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro

นาฬิกาเด็กโทรได้ : HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro
นาฬิกาเด็กโทรได้ : HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro
ราคา 6,490 บาท  คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

นาฬิกาอัจฉริยะ HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro เป็นนาฬิกาโทรได้รุ่นเรือธงของหัวเหว่ย ด้วยราคาที่พอๆ จะออก iMoo ได้ ต่างกันตรงที่จอกดให้ตั้งไม่ได้ มีระบบตรวจจับ GPS ได้ดี โทรเข้าโทรออกได้ทั้งรูปแบบเสียงและวิดีโอ ใส่ว่ายน้ำได้ มีระบบส่งสัญญาณแจ้งเตือนฉุกเฉินๆ SOS มายังเครื่องของผู้ปกครอง และถ้าคุณพ่อคุณแม่ใช้มือถือ Huawei อยู่แล้วล่ะก็ มี gadget ให้ลูกได้ฝึกใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro ก็ติดตามตัว ป้องกันเด็กหายได้ในระดับหนึ่ง

ระบบการค้นหาตำแหน่ง : รองรับการระบุตำแหน่ง 9 ระบบ ได้แก่ GPS, Beidou, GLONASS, A-GPS, WLAN Positioning, Base Station Positioning, Roaming Position, Accelerometer-assisted positioning และ SOS Camera Assisted Positioning เพื่อความแม่นยำสูงสุด
ขนาดหน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.41 นิ้ว ความละเอียด 320 x 360 พิกเซล 
กันน้ำ: มาตรฐาน 5 ATM สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร เหมาะสำหรับกิจกรรมว่ายน้ำ 
ความละเอียดกล้อง: กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 85 องศา
ความจุแบตเตอรี่: 800 mAh ชาร์จเต็ม 50% ในเวลา 20 นาที ใช้งานได้ประมาณ 2 วัน   ราคา: ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6,490 บาท  คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

ข้อดีของ HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro : 

  • มีความเสถียรสูง เมื่อเชื่อมต่อกับแอป ผ่านมือถือ Huawei และมือถือแอนดรอยด์อื่นๆ
  • ดีไซน์คลาสสิค เข้ากับข้อมือทั้งเด็กชายและเด็กหญิง
  • กันน้ำได้ดี ใส่ว่ายน้ำได้
  • กล้องคมชัด จอใหญ่
  • มีระบบ SOS Camera Assisted Positioning ให้ความแม่นยำสูงสุดด้านตำแหน่ง

4. นาฬิกาสมาร์ทวอชเด็ก Xiaomi Smart Kids Watch 

นาฬิกาเด็กโทรได้ : Xiaomi Smart Kids Watch
นาฬิกาเด็กโทรได้ : Xiaomi Smart Kids Watch
ราคา: ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 3,490 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

นาฬิกาโทรได้ Xiaomi ของเด็ก ราคาอยู่ที่ 2,000 ต้นๆ ใช้งานกับแอปของ Xiaomi ซิงค์กับเครื่องของคุณพ่อคุณแม่ที่ใช้ Xiaomi ด้วยกัน หรือ Android อื่นๆ ได้ เหมาะกับการใช้งานทั่วไป แต่ไม่เหมาะสำหรับใส่ว่ายน้ำ ชาร์จครั้งหนึ่งอยู่ได้นานๆ ด้วยแบตเตอรี่ความจุ 900 mAh

ระบบการค้นหาตำแหน่ง: รองรับการระบุตำแหน่งด้วย GPS, GLONASS, Wi-Fi, LBS, G-Sensor และการระบุตำแหน่งด้วย AI เพื่อความแม่นยำสูงสุด
ขนาดหน้าจอ: หน้าจอสัมผัสขนาด 1.4 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 279 นิต 
กันน้ำ: มาตรฐาน 2 ATM สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 20 เมตร เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ไม่แนะนำสำหรับการว่ายน้ำ
ความละเอียดกล้อง: กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 84.8 องศา
ความจุแบตเตอรี่: 900 mAh ใช้งานทั่วไปได้มากกว่า 5.5 วัน ชาร์จเต็มในประมาณ 2.5 ชั่วโมง 
ราคา: ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 3,490 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

ข้อดีของ Xiaomi Smart Kids Watch  : 

  • เชื่อมต่อแอปใช้งานกับมือถือ Xiaomi  และแอนดรอยด์อื่นๆ ได้สะดวก
  • ราคาไม่แพง ใช้งานได้หลายอย่าง

5. นาฬิกาเด็กโทรได้ Aolon  

นาฬิกาเด็กโทรได้ : Aolon Smart Kids Watch
นาฬิกาเด็กโทรได้ : Aolon Smart Kids Watch
ราคา : 1,554 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

แบรนด์ Aolon มีนาฬิกาเด็กราคาเริ่มต้น 400 กว่าบาท ก็ทำได้หลายอย่าง ตัวรุ่นที่ใส่ซิมโทรได้ วิดีโอคอลได้ แนะนำรุ่น DF81 และ DF93 ชาร์จครั้งหนึ่งใช้งานได้หลายวัน ด้วยตัวแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 800mAh และนาฬิกาโทรได้ Aolon มีราคาไม่แพง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ Smart Watch ที่กลัวซื้อไปแล้วลูกจะไม่ใส่ เหมาะสำหรับบ้านที่มีลูกหลายคน แล้วต้องการซื้อหลายๆ เรือนให้ลูกใส่เล่นด้วยกัน

ระบบการค้นหาตำแหน่ง : GPS + LBS + WIFI + AGPS ตำแหน่งที่แม่นยำที่ครอบคลุม
ขนาดหน้าจอ :  1.69 นิ้ว การโทรด้วยเสียง VoLTE, การสนทนาทางวิดีโอ
กันน้ำ :IP67
ความละเอียดกล้อง : 240*280 พิกเซล
ความจุแบตเตอรี่ : 800mAh สามารถใช้งานได้ 7-8 วัน
ราคา : 1,554 บาท คลิกสั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA

 ข้อดีของ Aolon : 

  • ใช้งานวิดีโอคอล และโทรเข้า โทรออกได้
  • ชาร์จครั้งหนึ่งใช้งานได้หลายวัน ไม่ต้องถอดออกมาชาร์จบ่อยๆ
  • ราคาเบาๆ

การเลือกนาฬิกาเด็กป้องกันเด็กหาย

นาฬิกาป้องกันเด็กหายแต่ละรุ่นที่แนะนำมานี้ มีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันไม่มาก สิ่งเดียวที่เป็นจุดเลือกซื้อคือ เอามาแล้วลูกจะใส่ไหม เด็กๆ นี่ก็เดาอารมณ์ยากนะคะ ถ้าซื้อมาแล้วขนาดใหญ่เกินไป สีไม่สวย ลายไม่โอเคก็ไม่เอาแล้ว แต่ถ้าเป็นรุ่นยอดนิยม ก็ยังพอหลอกล่อด้วยเคสเปลี่ยนสีเปลี่ยนลาย เปลี่ยนสายได้ บางรุ่นก็มีเคสเป็นสร้อยคล้องคอ เผื่อวันไหนน้องไม่อยากใส่แบบรัดข้อมือก็ห้อยเป็นพวงกุญแจติดกระเป๋านักเรียนได้ค่ะ แต่ก็ยังมี 3 สิ่งหลักๆ ที่เป็นจุดตัดสินใจของทุกรุ่นได้ ดังนี้ 

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่นาฬิกาอัจฉริยะเด็ก ต้องถอดออกมาชาร์จทุกวัน เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเวลาไปโรงเรียน น้องจะใช้งานหนักแค่ไหน และส่วนใหญ่ก็ทำออกมาประมาณ 400 – 700 mAh วางสแตนบายได้มากสุด 2 วันก็หมดแล้ว การเลือกแบตที่เยอะกว่าก็ช่วยให้มั่นใจได้ว่าน้องๆ จะใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

แพ็คเกจซิม

อัปเดท ธันวาคม 2567 เท่าที่ไปดูในห้างตามช็อปมือถือ แพ็คเกจค่าโทร ค่าเน็ตของซิมสำหรับนาฬิกาเด็ก ทั้ง Truemove H และ AIS ราคาแพ็คเกจ 99 บาท ให้เน็ต 1GB ซึ่งเพียงพอกับนาฬิกาเด็กอัจฉริยะในปัจจุบัน แต่แพ็คเกจค่าโทรต่างกันตรงที่ Truemove H โทรฟรีในเครือข่าย 30 นาที และ AIS กำหนดโทร 100 นาที ผูกสัญญา 1 ปี 

แต่ถ้าใครอยากใช้เป็นซิมเทพ ก็ใส่เพื่อใช้ยาวๆ ได้ 1 ปี เช่นกัน แต่แพ็คเกจเน็ตก็จะเหลือนะคะ เท่ากับว่า ควรใช้ซิมจากศูนย์มาเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งจำยอดเน็ตคงเหลือ

กฎระเบียบของโรงเรียน

นาฬิกาเด็กอัจฉริยะรุ่น Top ๆ มีโหมดปิดแจ้งเตือนให้กลายเป็นนาฬิกาธรรมดาเวลาอยู่ที่โรงเรียนก็จริง แต่โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้เด็กๆ นำเข้าไปใช้ที่โรงเรียน เพราะว่าหากเกิดปัญหาว่าเด็กๆ แย่งเล่นกันจนเกิดความเสียหาย หรือเด็กๆ นำมาใช้ทุจริตในการสอบ ก็จะทำให้ครูควบคุมยาก อย่างโรงเรียนของลูกแอดมินก็จะมีอยู่ในกฎที่ผู้ปกครองต้องเซ็นรับทราบไว้แต่แรกเลยว่า ไม่อนุญาตให้ใช้นาฬิกาอัจฉริยะ เพราะฉะนั้นถ้าผู้ปกครองจะให้ลูกใส่นาฬิกาอัจริยะเพื่อไปใช้ที่โรงเรียน ก็ต้องตรวจสอบกฎโรงเรียนก่อนนะคะว่าให้ใช้ได้ไหม

Check List ก่อนพิจารณาซื้อนาฬิกาอัจฉริยะให้เด็ก

ผู้ปกครองและคุณพ่อคุณแม่อาจใช้เช็กลิสต์นี้เพื่อดูว่า นาฬิกาเด็กอัจริยะรุ่นไหนที่เหมาะสำหรับลูกๆ ของคุณ 

  • ใช้ Bluetooth หรือใส่ซิมการ์ด
  • ใช้ติดตามตำแหน่ง GPS ได้ไหม
  • มีกล้องหน้าไหม
  • มีกล้องหลังไหม
  • ขนาดข้อมือใหญ่ไหม
  • มีฟิล์มกันรอย และเคสขายแยกไหม
  • กันน้ำ กันฝุ่นไหม
  • รองรับ Andriod หรือ iOS
  • พูดโต้ตอบได้ไหม
  • แชทได้ไหม
  • Video Call ได้ไหม
  • ขนาดหน้าจอเท่าไหร่
  • ความจุตัวเครื่องเท่าไหร่
  • ความจุแบตเตอรี่เท่าไหร่

ถ้าปีนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องการมอบนาฬิกาเด็กโทรได้นี้เป็นของขวัญคริสต์มาส ของขวัญวันเด็ก และของขวัญวันเกิด อย่าลืมกดซื้อในช่วงเทศกาลส่วนลด 12.12 ส่งตรงทันไปรษณีย์และขนส่งเอกชนปิดช่วงปีใหม่ ถ้าคุณสนใจทั้ง 6 ยี่ห้อที่เลือกมานี้ ก็อย่าลืมกดใช้โค้ด เพื่อประหยัดเงินไปจ่ายค่าซิมกันต่อได้เลยนะคะ.

Read More :

ย้อนกลับ

ข้อความของคุณถูกส่งแล้ว

คำเตือน
คำเตือน
คำเตือน
คำเตือน

คำเตือน

ใส่ความเห็น