จองตั๋วรถไฟออนไลน์ ผ่านการรถไฟแห่งประเทศไทย ทำอย่างไร

จองตั๋วรถไฟออนไลน์ เที่ยวปีใหม่ 2568/2025 ทุกเส้นทางทั่วประเทศ

การจองตั๋วรถไฟออนไลน์นั้นเปิดให้บริการมาหลายปีแล้ว ผ่านเว็บ Official Site ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้คุณ จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า วางแผนการเดินทางและได้ ตั๋วรถไฟราคาถูก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด หรือเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ วันนี้คุณก็สามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ด้วยวิธีการชำระผ่านบัตรเดบิต และบัตรเครดิตได้ง่ายๆ ดังนี้

จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า 2567/2024 ทำอย่างไรบ้าง

1. จองตั๋วรถไฟออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ dticket.railway.co.th

อยากสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวด้วยรถไฟไทยสักครั้ง สามารถเลือกจองตั๋วออนไลน์ได้ทั้งตู้ธรรมดา ตู้นอน รถไฟด่วนพิเศษ ด้วยการเข้าไปเช็กเส้นทางตารางรถไฟได้ที่เว็บการรถไฟแห่งประเทศไทย dticket.railway.co.th และมีขั้นตอนการจองดังนี้

  • ขั้นตอนที่ 1 : สมัครสมาชิก เพื่อทำการเข้าสู่ระบบ
  • ขั้นตอนที่ 2 : ค้นหาเที่ยวรถตารางรถไฟ
  • ขั้นตอนที่ 3 : เลือกสายของรถไฟที่ท่านต้องการเดินทาง เช่น หากต้องการเดินทางไป เชียงใหม่ ให้เลือก สายเหนือ
  • ขั้นตอนที่ 4 : เลือก “ไป-กลับ” หรือ “เที่ยวเดียว” ไม่ต้องติ๊กเลือก
  • ขั้นตอนที่ 5 : เลือกสถานีต้นทางที่ท่านสะดวกในการเดินทาง
  • ขั้นตอนที่ 6 : เลือกสถานีปลายทางที่ท่านต้องการ
  • ขั้นตอนที่ 7 : เลือกวันที่ที่ต้องการเดินทาง
  • ขั้นตอนที่ 8 : ระบุจำนวนผู้โดยสาร
  • ขั้นตอนที่ 9 : กดปุ่ม ค้นหาขบวนรถ และเลือก เวลา และขบวนรถที่ต้องการ
  • ขั้นตอนที่ 10 : เลือกเวลาที่ต้องการเดินทาง
  • ขั้นตอนที่ 11 : เลือกขบวนรถที่ต้องการเดินทาง
  • ขั้นตอนที่ 12 : เลือกตู้โดยสาร โดยตู้โดยสารจะมีให้เลือก ได้แก่ ตู้แบบปรับอากาศ หรือ พัดลม หรือ ตู้นอน
  • ขั้นตอนที่ 13 : ระบุข้อมูลผู้โดยสาร โดยต้องกรอกให้ครบทุกคน
  • ขั้นตอนที่ 14 : ระบุรหัสสมาชิก เพื่อสะสมคะแนน
  • ขั้นตอนที่ 15 : เลือกที่นั่งอย่างละเอียด และตรวจสอบราคาการจอง
  • ขั้นตอนที่ 16 : ระบุที่นั่ง จากผังที่นั่ง และคลิกต่อไปเพื่อทำการจอง
  • ขั้นตอนที่ 17 : ตรวจสอบข้อมูลหน้าสรุปการจอง และชำระเงิน
  • ขั้นตอนที่ 18 : เลือกวิธีชำระเงิน
    • การเลือกชำระเงินจองตั๋วรถไฟออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต เดบิต ระบบจะออกตั๋วโดยสารส่งให้ท่านผ่านทางอีเมล
    • การเลือกชำระเงินจองตั๋วรถไฟออนไลน์ที่สถานี จะได้หมายเลขการจองตั๋ว เพื่อไปชำระเงิน และได้รับตั๋วส่งผ่านทางอีเมลอีกครั้ง
เส้นทางรถไฟลอยน้ำ รถไฟขบวนท่องเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

2. จองตั๋วรถไฟออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน (D-Ticket)

  1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน:
  2. เข้าสู่ระบบ/สมัครสมาชิก:
    • ทำขั้นตอนเหมือนในเว็บไซต์
  3. ค้นหาเส้นทางและจองตั๋ว:
    • เลือกต้นทาง ปลายทาง วันที่เดินทาง และจำนวนผู้โดยสาร
    • เลือกขบวนรถและที่นั่ง
  4. ชำระเงินและรับ E-Ticket:
    • ชำระเงินผ่านระบบในแอป
    • เก็บ E-Ticket ในโทรศัพท์มือถือ

แนะนำเส้นทางการเดินทางด้วยรถไฟยอดนิยมปี 2024-2025

คนกรุงเทพที่อยากเดินทางตั้งต้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเป็น Hub เดินทางต่อด้วยตู้นอนสบายๆ ใช้เวลายาวๆ ช่วงฤดูหนาว และฤดูท่องเที่ยวต่างๆ Mycontent-thai.com ก็มีเส้นทางยอดนิยมมาแนะนำ ดังนี้

รถโบกี้นั่งและนอนชั่นที่ 1 ปรับอากาศ
รถโบกี้นั่งและนอนชั่นที่ 1 ปรับอากาศ แบ่งเป็นห้อง ห้องละ 2 ที่ ( เตียงบน , เตียงล่าง ) รวม 12 ห้อง , 24 ที่
รถโบกี้นั่งและนอนชั่นที่ 1 ปรับอากาศ แบ่งเป็นห้อง ห้องละ 2 ที่ ( เตียงบน , เตียงล่าง ) รวม 12 ห้อง , 24 ที่

1. เส้นทางสายเหนือ กรุงเทพ ฯ เชียงใหม่

การเดินทางด้วยรถไฟไทยไปยังเส้นทางสายเหนือ กรุงเทพ ฯ เชียงใหม่ มีขบวนรถตู้นอนชื่อว่า “ขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถี” เป็นรถไฟตู้นอนที่ขึ้นชื่อว่าสะดวกสบายที่สุด และมีช่วงเวลาการเดินทางที่ยาวนาน สามารถเดินทางจากกรุงเทพช่วงค่ำ เพื่อไปถึงเชียงใหม่ในช่วงเช้า และเหมาตู้โดยสารได้เมื่อเดินทางคนเดียวต้องการความสงบ บนขบวนมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีจุดแวะพักดังนี้

  • เชียงใหม่: เที่ยวดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ หรือสัมผัสวิถีชีวิตชาวเหนือที่ตลาดวโรรส
  • นครสวรรค์: ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานเดชาติวงศ์ หรือเดินเล่นที่ปากน้ำโพ
  • พิษณุโลก: แวะสักการะพระพุทธชินราชที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
  • ลำปาง: ชมเมืองเก่าลำปาง นั่งรถม้าชมวิถีชีวิต หรือแวะวัดพระธาตุลำปางหลวง

2. เส้นทางสายอีสานเหนือ: กรุงเทพฯ – หนองคาย

การเดินทางด้วยรถไฟไทยไปยัง เส้นทางสายอีสานเหนือ กรุงเทพฯ – หนองคาย” มีชื่อขบวนรถว่า “ขบวนรถด่วนพิเศษอีสานมรรคา” ให้บริการตู้นอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 เส้นทางนี้ผ่านจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และสิ้นสุดที่หนองคาย

  • นครราชสีมา: แวะวัดศาลาลอย หรือชมอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม)
  • ขอนแก่น: เที่ยวเขื่อนอุบลรัตน์ ชมวิวสวยงาม หรือเดินตลาดต้นตาล
  • อุดรธานี: แวะวัดป่าภูก้อน หรือเที่ยวบ้านเชียง (มรดกโลก)
  • หนองคาย: ชมวิวแม่น้ำโขง เดินสะพานมิตรภาพไทย-ลาว

3. ส้นทางสายอีสานใต้: กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี

การเดินทางด้วยรถไฟไทยไปยัง เส้นทางสายอีสานเหนือ กรุงเทพฯ – หนองคาย” มีชื่อขบวนรถว่า “ขบวนรถด่วนพิเศษอีสานวัตนา” ให้บริการตู้นอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 เส้นทางนี้ผ่านจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ

  • นครราชสีมา: ชมปราสาทหินพิมาย หรือเที่ยวฟาร์มโชคชัย
  • บุรีรัมย์: เยี่ยมชมปราสาทหินพนมรุ้งหรือสนามฟุตบอลช้างอารีนา
  • สุรินทร์: สัมผัสวัฒนธรรมเขมรที่ปราสาทศีขรภูมิ
  • อุบลราชธานี: เที่ยวสามพันโบก ผาแต้ม หรือชมอาทิตย์ขึ้นที่แม่น้ำโขง

4. เส้นทางสายใต้: กรุงเทพฯ – ชุมทางหาดใหญ่

การเดินทางด้วยรถไฟไทยไปยัง เส้นทางสายสายใต้ “กรุงเทพฯ – ชุมทางหาดใหญ่” มีชื่อขบวนรถว่า “ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์” ให้บริการตู้นอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 เส้นทางนี้ผ่านหัวหิน ชุมพร สุราษฎร์ธานี และชุมทางหาดใหญ่

  • หัวหิน: แวะชายหาดหัวหินหรือเดินตลาดโต้รุ่งหัวหิน
  • ชุมพร: ชมทะเลหมอกที่เขามัทรี หรือแวะดำน้ำที่เกาะเต่า
  • สุราษฎร์ธานี: แวะเที่ยวเขื่อนรัชชประภา หรือเยือนเกาะสมุย
  • ชุมทางหาดใหญ่: ช้อปปิ้งตลาดกิมหยง หรือเที่ยวทะเลสาบสงขลา

5. เส้นทางสายใต้: กรุงเทพฯ – ตรัง

การเดินทางด้วยรถไฟไทยไปยัง เส้นทางสายสายใต้ “กรุงเทพฯ – ตรัง” มีชื่อขบวนรถว่า “ขบวนรถด่วนพิเศษ (ที่ 83/84)” ให้บริการตู้นอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 เส้นทางนี้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น หัวหิน ชุมพร สุราษฎร์ธานี และตรัง

  • หัวหิน : ชายหาดหัวหิน ตลาดโต้รุ่ง
  • สุราษฎร์ธานี: แวะเขื่อนเชี่ยวหลาน
  • ตรัง : ชมถ้ำมรกต เที่ยวทะเลตรัง และสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าตรัง

6. เส้นทางสายใต้: กรุงเทพฯ – นครศรีธรรมราช

การเดินทางด้วยรถไฟไทยไปยัง เส้นทางสายสายใต้ “กรุงเทพฯ – นครศรีธรรมราช” มีชื่อขบวนรถว่า “ขบวนรถด่วนพิเศษ (ที่ 85/86)” ให้บริการตู้นอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 เส้นทางนี้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น หัวหิน ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

  • หัวหิน: เที่ยวสถานีรถไฟหัวหิน
  • ชุมพร: ดำน้ำ กินอาหารทะเล
  • นครศรีธรรมราช: แวะวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือเที่ยวหาดขนอม

นอกจากเส้นทางที่แนะนำมาในบทความนี้ หากคุณมีข้อสงสัย และอยากอัปเดทเส้นทางใหม่ๆ กับการรถไฟไทย ก็สามารถติดตามได้ที่เพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย และกลุ่ม รถไฟไทย TrainThailand ซึ่งจะมีเพื่อนๆ มาพูดคุยและแบ่งปันประสบการณ์เรื่องราวการท่องเที่ยวด้วยรถไฟกันเยอะมากทีเดียว ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัย และอย่าลืมกลับมาพบกับบทความข่าวสารโปรโมชั่นดีๆ จาก http://www.mycontent-thai.com กันอีกนะคะ

Q & A เกี่ยวกับการจองตั๋วรถไฟออนไลน์ล่วงหน้าที่ควรรู้

Q : จองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้กี่วัน

A : หากคุณต้องการเดินทางด้วยรถไฟและทราบวันเดินทางที่แน่นอนแล้ว ระบบของการจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้สูงสุด 30 วันก่อนวันเดินทาง

Q : รับตั๋วรถไฟได้ที่ไหน

A : หลังจากชำระเงินแล้วจะได้รับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์เป็น E-ticket ออกเป็น QR Code โดยคุณสามารถยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ได้ในวันเดินทาง

Q : ติดต่อแจ้งปัญหาจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ที่ไหน

A : หากมีปัญหาในการใช้งาน สามารถติดต่อ Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690 ให้บริการ 24 ชั่วโมง

tag : จองตั๋วรถไฟ,ตั๋วรถไฟออนไลน์,การรถไฟแห่งประเทศไทย,ตารางรถไฟ,ตั๋วรถไฟ,จองตั๋วรถไฟออนไลน์, ตารางเวลารถไฟ,ตั๋วรถไฟไทย,จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า,ตั๋วรถไฟราคาถูก,จองตั๋วรถไฟ 2568,ตั๋วรถไฟออนไลน์ 2568,การรถไฟแห่งประเทศไทย 2568,ตารางรถไฟ 2568,ตั๋วรถไฟ 2568,จองตั๋วรถไฟออนไลน์ 2568, ตารางเวลารถไฟ 2568,ตั๋วรถไฟไทย 2568,จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า 2568,ตั๋วรถไฟราคาถูก 2568,จองตั๋วรถไฟ 2025,ตั๋วรถไฟออนไลน์ 2025,การรถไฟแห่งประเทศไทย 2025,ตารางรถไฟ 2025,ตั๋วรถไฟ 2025,จองตั๋วรถไฟออนไลน์ 2025, ตารางเวลารถไฟ 2025,ตั๋วรถไฟไทย 2025,จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า 2025,ตั๋วรถไฟราคาถูก 2025

เก็บโค้ดส่วนลดวันเลขเบิ้ล 1.1 – 12.12 : คลิก LAZADA | SHOPEE 
เก็บโค้ดส่วนลดกลางเดือน MIDMONTH SALE : คลิก LAZADA | SHOPEE 
เก็บโค้ดส่วนลดวันเงินเดือนออก PAYDAY : คลิก LAZADA | SHOPEE 



ใส่ความเห็น