- ถวัลย์ ดัชนี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดเชียงราย เข้ากรุงเทพตอนอายุ 16 ปี เพื่อเข้าโรงเรียนเพาะช่าง และอาศัยอยู่ตามซอกตึก โดยไม่เช่าหอพัก แม้ว่าเขาจะมีเงินเก็บเพียงพอก็ตาม
- ถวัลย์ ดัชนี เป็นศิษย์รุ่นท้ายๆ ของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี บิดาแห่งศิลปะร่วมสมัยของไทย ศิลปินชาวอิตาลีผู้สร้างอนุสาวรีย์สำคัญๆ ในประเทศ และเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร
- ถวัลย์ ดัชนี สอบชิงทุนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จนสำเร็จการศึกษาปริญญาเอกสาขาอภิปรัชญา ที่ราชวิทยาลัยศิลปะอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ถวัลย์ ดัชนี เกิดที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2482 (ปีที่ 5 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร หรือรัชกาลที่ 8 ตรงกับสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม) และได้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ในปี พ.ศ. 2544
ประวัติ อ.ถวัลย์ ดัชนี โดยสังเขป
- อายุ 16 ปี เข้าศึกษาโรงเรียนเพาะช่าง (พ.ศ. 2485 – 2491)
- อายุ 18 ปี เข้าปริญญาตรี คณะจิตกรรมประติมากรรม ม.ศิลปากร (พ.ศ. 2498 – 2500)
- อายุ 24 ปี ศึกษาต่อปริญญาโท สาขาจิตรกรรมฝาผนัง อนุสาวรีย์ ผังเมือง ราชวิทยาลัยศิลปแห่งชาติ อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ (พ.ศ. 2500 – 2505)
- อายุ 32 ปี ได้ไปวาดรูปที่ปราสาทคอร์ททอร์ฟ ประเทศเยอรมนี (พ.ศ. 2520)
- อายุ 62 ปี ได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ในปี พ.ศ. 2544
เมื่อย้อนเวลาไปเมื่อ 80 กว่าปีที่แล้ว ครอบครัวที่พอมีฐานะ เมื่อมีลูกชาย ก็นิยมส่งเสียลูกให้เรียนในคณะที่นิยม อาทิ แพทย์ วิศวกร นิติศาสตร์ เพื่อที่จะได้กลับมารับราชการ มีฐานะที่มั่นคง แต่ ถวัลย์ ดัชนี เลือกที่จะเรียนด้านศิลปะ เมื่อจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถสอบชิงทุนเพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนเพาะช่างในกรุงเทพมหานครได้ นั่นเป็นครั้งแรกที่ อ.ถวัลย์ ได้เข้ากรุงเทพ แต่การเดินทางด้วยรถไฟที่ผ่านชุมชนแออัด ทำให้เขากลับมีความรู้สึกบางอย่าง ทำให้ตลอดระยะเวลาที่เรียนโรงเรียนเพาะช่าง เขาเลือกที่จะหลบๆ ซ่อนๆ นอนหลับอยู่ตามมุมตึก แทนที่จะไปเช่าห้องพักอยู่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ที่มาพำนักในกรุงเทพ
แอดมินเคยได้ทราบเรื่องราวของอาจารย์ถวัลย์จากผู้ที่รู้จักท่านอยู่คนหนึ่ง แกเล่าว่าอาจารย์ถวัลย์หายไปอยู่ต่างประเทศอยู่หลายปี ไปวาดภาพอยู่ในปราสาท เจ้าชายเจ้าของปราสาทให้เช็กเปล่า ให้กรอกตัวเลขค่าจ้างเอาเอง ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ก็ไม่มีใครทราบว่าสุดท้ายแล้ว อ.ถวัลย์ได้ใส่ตัวเลขไปเท่าไหร่ ผู้เขียนเคยรับฟังเรื่องราวนี้ตอน อ.ถวัลย์ ยังมีชีวิตอยู่ และไม่เคยได้มีโอกาสถามว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ จนหลายสำนักข่าวได้นำเรื่องราวของ อ.ถวัลย์ มาเขียน สรุปแล้วเป็นเรื่องจริง
เรื่องราวประวัติ อ.ถวัลย์ ดัชนี ที่ไม่ธรรมดาไปเกี่ยวข้องกับเจ้าชายเจ้าของปราสาทคอร์ททอร์ฟ (Gottorf Castle) ได้อย่างไร
แม้ว่า อ.ถวัลย์ จะมีเงินเพียงพอที่จะเช่าหอพักในกรุงเทพ เพื่อความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย แต่เลือกที่จะอยู่อาศัยตามซอกตึก และหลบซ่อนตัวจากอาจารย์ของโรงเรียนราวนายพรานล่าสัตว์ ในบทสัมภาษณ์ เล่าว่าสมัยเด็กๆ อ.ถวัลย์ ชอบเข้าป่า ล่าสัตว์ และเรียนรู้วิธีการหลบหลีกสัตว์ป่านักล่า รู้จักวิธีพรางตัว ลบรอยเท้า และเดินเหยียบรอยเท้าของคนอื่น เพื่อที่จะไม่ให้ถูกจับได้ เวลากลางคืนก็เอามุ้งที่ผูกไว้ที่เอวมากางป้องกันยุง เวลาเช้าก็ใช้น้ำในสระมาชำระล้างร่างกาย เวลาขับถ่ายก็ใส่กระดาษหนังสือพิมพ์แล้วห่อไปทิ้ง เงินเก็บเงินสะสมที่มี มักหมดไปกับการซื้อหนังสือศิลปะของต่างประเทศมาอ่านศึกษาด้วยตัวเอง แล้วก็ฝากภารโรงเก็บไว้ตามซอกตึก แกใช้ชีวิตแบบนี้อยู่หลายปี จนกระทั่งเรียนต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยศิลปากร และสอบชิงทุนได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
สำหรับผู้เขียน ภาพจำของ อ.ถวัลย์ ดัชนี คือชายไว้หนวด ไว้เครา สวมชุดสีดำ แขวนสร้อยห้อยกระดูกสัตว์ เคยพบเห็นท่านในงานแสดงศิลปะ แต่ไม่มีโอกาสได้พูดคุยด้วย และผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่บ้านดำ จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นผลงานเด่นของ อ.ถวัลย์ ที่ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาผลงาน โดยที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ ชีวิตของอาจารย์ถวัลย์ เหมือนเรื่องเหลือเชื่อ
หนังสือ “มนุษย์ต่างดาว อ.ถวัลย์ ดัชนี” โดย ไมตรี ลิมปิชาติ ได้เล่าถึงการพบกันของ อ.ถวัลย์ กับเจ้าชายเฮอร์มัน กราฟฟัน ฮารด์เฟลด์ แห่งเยอรมัน เจ้าของปราสาทคอร์ททอร์ฟ ไว้ว่า

…ผมรู้จักเจ้าชายเยอรมันคนหนึ่ง ตอนเช่าห้องแถวอยู่ที่ตึก บี.อาร์. ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ วันหนึ่งกำลังเขียนตู้พระธรรมอยู่ เขาก็มาเคาะประตู พอเปิดออกไปเห็นเป็นฝรั่งก็ถาม เป็นใคร มาทำไม เขาก็ถาม เอ็งถวัลย์ใช่ไหม ข้ามาจากเยอรมัน เห็นรูปเอ็งที่บ้านอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นตู้พระธรรมของผมที่นั่น อาจารย์คึกฤทธิ์ก็บอกเป็นไอ้คนหนึ่งมันเขียน …
“วันดีคืนดี เขาไปพัทยา ซื้อสับปะรดกิน บังเอิญถุงสับปะรดเป็นกระดาษหนังสือลิฟวิ่ง มีรูปผมกับ อ.คึกฤทธิ์กำลังดูตู้พระธรรมด้วยกัน ก็ให้คนขับรถจากพัทยามาหาผม เขาไปที่ “ หอศิลป์พีระศรี ” ทางนั้นบอก อ๋อ มันอยู่ที่นี่ เลยตามมาจนเจอ “
…เขาบอกชอบรูปที่ผมเขียนให้ อ.คึกฤทธิ์ ผมก็ว่า ถ้าว่างจะไปหาแล้วกัน พรุ่งนี้จะไปสวิสอยู่แล้ว แล้วผมก็ไปสวิส ไปอยู่ 3 เดือน พอว่างก็โทรศัพท์ไปหาผู้ชายคนนี้ โดยตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะได้มาแต่ชื่อ พอโทรศัพท์ไป คนรับสายบอกที่นี่เขตพระราชฐานชั้นใน โอ้โฮ ผมคิด…
…คนรับสายบอก ต้องโทรไปเบอร์นี้ ก็ไทรไป ถูกถามว่าคุณเป็นใคร บอกเป็นไอ้คนที่มาจากเมืองไทย ตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะ บอกเขาอยู่สวิส ให้ไปรอที่สนามบินนะ เดี๋ยวจะไปรับ ผมก็ไปรอที่สนามบิน สักกะเดี๋ยว เขาส่งหงส์ยนต์ ( เครื่องบิน ) มารับ คนขับเห็นผมเงอะงะ เพราะคงเห็นผมใส่ชุดดำ แต่เขาคงบอกไว้แล้วว่า ไอ้คนนั้นคือผม แต่งชุดดำเสมอ…
….จากสนามบิน พอลงจากเครื่อง ก็ลงกลางป่าเลย ผมถามเขาถึงแล้วรึ คนขับบอกถึงแล้ว ทั้งหมดที่นี่คือบ้านของนายเขา ผมก็เดินเงอะงะไป แล้วทันใดนั้น เหมือนโลกนี้หลับไปสัก 400 ปี ปราสาทตระหง่าน ผมตกตะลึง อยู่กลางป่าที่มีปราสาท อย่างนี้ เขาออกมาต้อนรับ บอกเป็นเจ้าของสถานที่ พาผมไปดูห้องต่างๆในปราสาท แต่ดูได้แค่ 8 ห้อง อีกเป็น 100 ดูไม่ไหว…
… ในที่สุด เขาก็เข้าประเด็นว่า อยากให้เขียนรูป วิธีเดียวกับที่เห็นบ้านอาจารย์คึกฤทธิ์ได้ไหม พอกลับเมืองไทย มาคิด ใช้เวลาสเก็ตช์ 4 เดือน แล้วบอกเขา เขาก็ส่งเงินผ่านแบงก์เป็นค่าเดินทาง ค่าซื้อสมบัติบ้าๆ ต่างๆ มาให้ พอไปถึงปราสาท ผมก็สั่ง ผมไม่ต้องการให้มนุษย์ สัตว์ สิ่งของ ผ่านเข้ามาในห้องที่ผมทำงานอยู่ ผมไม่ต้องการพบใครเลย หมายความว่าไม่ต้องมายุ่ง ทำเสร็จแล้วจะไปบอก…
… เขาก็กลับไปอยู่ปราสาทของเขาอีกหลังหนึ่ง ห่างไปจากที่นั่น 25 กิโลเมตร ผมก็อยู่ที่ปราสาทเดิมคนเดียว ไม่เห็นมนุษย์มนาเลย ไม่ติดต่อกับใคร จะมีเห็นบ้างก็เห็นแต่กวาง หมูป่าลงมาที่ทุ่งหญ้า อยู่อย่างนั้น 3 เดือนแรก ก็รู้สึกอยากเห็นคนเหมือนกัน แต่พอ 3 เดือนผ่านไป รู้สึกวิเวก ทำให้ใจเราสงบ ผมใช้เวลาทำงานอยู่ 6 เดือน เขียน 1 ห้อง แล้วนอนอยู่ในห้องนั้นเลย…
….เมื่อเสร็จทุกอย่างแล้ว ผมก็บอกจะกลับแล้วนะ เขาบอกเขาชื่นชมมาก แต่เขาไม่รู้หรอกว่า ผมควรจะได้ค่าตัวเท่าไหร่ เพราะไม่ได้พูดกัน เขาว่า “ เอาอย่างนี้แล้วกัน เขียนเอาเองตามที่เห็นสมควร ผมก็กรอกตัวเลขลงไปในเช็คที่เขาเซ็นให้ไว้ เท่าที่พอคิดว่าตามสมควร เพราะทำมา 6 เดือนแล้วก็กลับเมืองไทย…
…อีก 2 ปีต่อมา เขามีจดหมายมาว่า เขียนอีกห้องได้ไหม แต่ครั้งนี้ให้เขาเป็นคนกำหนดเงินเถิด เพราะว่าที่ผมเอาไปนั้น มันแทบไม่ได้เอาอะไรเลย ครั้งนี้ขอให้เขากรอกจำนวนเงินให้ ตั้งแต่นั้น เราก็เป็นเพื่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นแม่ยกให้ผม ไม่ว่าผมอยากจะได้อะไร ถ้าเป็นสิ่งที่จับต้องได้ด้วยมือ ทั้งเงินทอง เขาก็ให้หมด…”
จากเรื่องเล่าในหนังสือ “มนุษย์ต่างดาว” ซึ่งเป็นชีวประวัติของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ที่กล่าวมานี้ ก็สรุปได้ว่า อ.ถวัลย์ ได้เจอกับ เจ้าชายเฮอร์มัน กราฟฟัน ฮารด์เฟลด์ แห่งเยอรมัน เจ้าของปราสาทคอร์ททอร์ฟ (แอดมินไปหาข้อมูลเพิ่มเติม เป็นช่วงเวลาราวปี พ.ศ. 2520) จากที่แกชื่นชอบผลงาน ผ่านการเห็นจากหนังสือพิมพ์ที่ใส่สับปะรดระหว่างมาเที่ยวเมืองไทย และได้เดินทางมาพบ อ.ถวัลย์ด้วยตัวเอง เพื่อจ้างให้มาวาดภาพให้ที่ปราสาทเก่าแก่โบราณ อันเป็นมรดกของตระกูล ซึ่งคาดว่าปราสาทดังกล่าว มีจำนวนห้องทั้งหมดกว่า 500-700 ห้องเลยทีเดียว
ปราสาทคอร์ททอร์ฟ (Gottorf Castle)

เจ้าชายเฮอร์มัน กราฟฟัน ฮารด์เฟลด์ แห่งเยอรมัน ผู้เป็นเจ้าของ ปราสาทคอร์ททอร์ฟ (Gottorf Castle) เป็นผู้สนับสนุนผลงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี โดยให้ค่าจ้างวาดภาพในปราสาทจำนวน 500 ห้อง ตามประวัติไม่ได้บอกว่า อ.ถวัลย์ ใช้เวลาเท่าไหร่ในการวาดภาพทั้งหมด แค่ 1 ห้องก็ใช้เวลา 3 – 6 เดือน ซึ่งเอาไปคูณตัวเลขเอา อย่างน้อยก็ 30 ปี เลยทีเดียว
ปัจจุบันปราสาทคอร์ททอร์ฟ ไม่ได้เปิดให้เข้าชมแล้ว เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นจัด ทำให้มีผลต่อการดูแลรักษาปราสาทโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปีนี้ ใครว่าผลงานเด่นชิ้นเอกของ อ.ถวัลย์ ดัชนี อยู่ที่บ้านดำนั้นก็คงจะไม่ใช่
ผลงานเด่นของ อ.ถวัลย์ ดัชนี

เมื่อพูดถึงผลงานเด่นของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ใครก็ตามจะกล่าวถึงบ้านดำ หรือไม่ก็เป็นเหรียญสุริยะภูมิจักรวาล 73 ปี ที่ผลิตออกมาในปี พ.ศ. 2555 แต่เมื่อทราบว่าใครคือแฟนตัวยงผู้อุปถัมภ์ผลงานศิลปะของ อ.ถวัลย์แล้ว ผลงานเด่นน่าจะเป็นภาพวาดและงานศิลปะต่างๆ ในปราสาทคอร์ททอร์ฟ ที่เจ้าชายเฮอร์มัน กราฟฟัน ฮารด์เฟลด์ ได้ครอบครองอยู่นั่นเอง
อีกหนึ่งผลงานที่เพิ่งถูกนำออกมาประมูลในงานศิลปะ ‘Museum Mania’ ริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก เมื่อปี พ.ศ. 2564 คือภาพที่มีชื่อว่า ‘วิทรูเวียนแมน’ (Vitruvian Man) ถูกประมูลไปด้วยราคา 25.5 ล้านบาท

หากจะตามหาผลงานเด่นของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ก็คงซ่อนอยู่ในปราสาทคอร์ททอร์ฟเป็นแน่ ก็คาดหวังว่าในอนาคตจะเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจได้เข้าชมกันอีกครั้ง ส่วนใครที่เป็นแฟนผลงานของ อ.ถวัลย์ หรือเพิ่งได้รู้จัก สามารถไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำ จังหวัดเชียงราย ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย และเป็นสถานที่รวมผลงานสุดท้ายของ อ.ถวัลย์ ไว้มากที่สุด
ซื้อทัวร์ที่พักและแหล่งท่องเที่ยว จ. เชียงราย ล่วงหน้า ในราคาพิเศษ ได้ที่นี่
ที่มา
1. จากภาพเขียนประดับปราสาทคอร์ททอร์ฟ สู่เหรียญสุริยะภูมิจักรวาล 73 ปี ถวัลย์ ดัชนีเผยแพร่: 6 ธ.ค. 2555., https://mgronline.com/celebonline/detail/9550000147706
2. HOW TO HAVE AN AMAZING VISIT TO SCHLESWIG June 20, 2021 ., Christine https://www.chriscrossinggermany.com/visit-schleswig/
3.“100 ปี จะมีคนแบบนี้ซักคนหนึ่ง” นี่คือคำพูดที่ฟังดูอาจจะเกินเลยและดูเหลือเชื่อ สำหรับคนที่ไม่รู้จัก อ.ถวัลย์ ดัชนี., https://www.theartsclubbangkok.com/ARTISTS31/628caa67ebc3b5001b88395a/langTH
4.ทุบสถิติประมูล ‘Vitruvian Man’ ผลงาน อ.ถวัลย์ ดัชนี สร้างปวศ.สูงสุดในไทย 25.5 ล้านบาท., https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_4260921





