ถ้าพูดถึงผ้าที่มีความหรูหรา เรียบเนียน และให้สัมผัสนุ่มสบาย ผ้าไหมอิตาลีเป็นตัวเลือกที่หลายคนสนใจ แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่าผ้าไหมอิตาลีคืออะไร ต่างจากผ้าชนิดอื่นอย่างไร และมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับผ้าไหมอิตาลีให้ลึกขึ้น รวมถึงเปรียบเทียบกับผ้าชนิดอื่นๆ เพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้ผ้าได้อย่างเหมาะสม
ผ้าไหมอิตาลีคืออะไร?
ผ้าไหมอิตาลีเป็นผ้าประเภทโพลีเอสเตอร์ที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบพิเศษ ทำให้เนื้อผ้ามีสัมผัสที่เนียนนุ่มและเงางามคล้ายผ้าไหมแท้ แต่มีความทนทานมากกว่า เนื้อผ้ามีความพลิ้วไหว ทิ้งตัวสวย และไม่ยับง่าย นอกจากนี้ยังเป็นผ้าที่นิยมนำไปใช้ตัดชุดเดรส เสื้อสูท ชุดราตรี หรือแม้แต่ชุดทำงานที่ต้องการความหรูหรา
ผ้าไหมอิตาลี ภาษาอังกฤษคือ Italian Silk แต่ด้วยคำว่า “ไหม” ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นเส้นใยธรรมชาติ ทั้งที่ความจริงแล้ววัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นผ้าไหมอิตาลีนั้น เป็นโพลีเอสเตอร์ และคอตตอน โดยส่วนใหญ่เป็น Polyester 98% และเป็น Spendex 2% เส้นใยทอด้วยเครื่องจักรทำให้ผลิตออกสู่อุตสาหกรรมเสื้อผ้าได้มาก
เนื้อผ้าของผ้าไหมอิตาลีเป็นยังไง?
เนื้อผ้าของผ้าไหมอิตาลีมีความบางเบาแต่ไม่โปร่งจนเกินไป มีความนุ่มลื่นให้สัมผัสที่ดี ใส่แล้วไม่ระคายเคืองผิว และมีความเงางามแบบพอดี ไม่ดูมันจนเกินไป ผ้าไหมอิตาลีเกรดเอจะมีความนุ่มและทิ้งตัวดีกว่ารุ่นทั่วไป ทำให้ชุดที่ตัดออกมามีความพรีเมียมมากขึ้น
ผ้าไหมอิตาลีใส่ดีไหม?
สำหรับสาวๆ ที่ชอบความสบาย ผ้าไหมอิตาลีถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เนื้อผ้านุ่ม ลื่น ใส่สบาย ไม่ระคายเคืองผิว และไม่ยับง่าย นอกจากนี้ยังช่วยให้ลุคของคุณดูหรูหราขึ้นอีกระดับ
ผ้าไหมอิตาลีใส่แล้วร้อนไหม?
แม้ผ้าไหมอิตาลีจะมีความบางเบาและทิ้งตัวสวย แต่ก็ยังเป็นผ้าที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกร้อนกว่าผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมแท้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ผ้าไหมอิตาลีรุ่นใหม่ๆ มักมีการพัฒนาให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น ทำให้สามารถใส่ได้แม้ในอากาศร้อน
ผ้าไหมอิตาลีสีตกไหม?
ผ้าไหมอิตาลีโดยทั่วไปสีไม่ตกง่าย เนื่องจากผ่านกระบวนการย้อมสีที่คงทน แต่ก็ยังแนะนำให้ซักด้วยน้ำเย็นและหลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกที่แรงเกินไป เพื่อคงสีของผ้าให้อยู่ได้นาน
เปรียบเทียบผ้าไหมอิตาลีกับผ้าชนิดอื่น
ผ้าไหมอิตาลีกับผ้าซาติน
ผ้าซาตินเป็นผ้าที่มีลักษณะมันเงาและลื่นมากกว่าผ้าไหมอิตาลี แต่ผ้าไหมอิตาลีจะมีความทิ้งตัวดีกว่าและดูหรูหรากว่าเล็กน้อย หากต้องการความเงางามแบบจัดเต็ม ผ้าซาตินอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าต้องการผ้าที่ดูแพงและใส่สบายกว่า ผ้าไหมอิตาลีเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า
ผ้าไหมอิตาลีกับผ้าสปัน
ผ้าสปันเป็นผ้าทอจากเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความนุ่มและระบายอากาศได้ดีกว่าผ้าไหมอิตาลี แต่ผ้าไหมอิตาลีจะมีความเงางามและให้ลุคที่หรูหรามากกว่า เหมาะกับการตัดชุดที่ต้องการความพรีเมียม
ผ้าไหมอิตาลีกับผ้าไหมญี่ปุ่น
ผ้าไหมญี่ปุ่นมักเป็นผ้าไหมแท้ที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เบา และระบายอากาศได้ดีมาก ในขณะที่ผ้าไหมอิตาลีเป็นผ้าสังเคราะห์ที่มีความทนทานและดูแลรักษาง่ายกว่า หากต้องการผ้าที่มีความหรูหราและคงทน ผ้าไหมอิตาลีเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากต้องการความสบายและคุณสมบัติของผ้าไหมแท้ ผ้าไหมญี่ปุ่นอาจตอบโจทย์มากกว่า
ผ้าไหมอิตาลีเป็นผ้าที่มีลักษณะคล้ายไหมแท้ ให้สัมผัสที่นุ่มลื่น ทิ้งตัวสวย ดูหรูหรา และไม่ยับง่าย เหมาะกับการตัดชุดเดรส ชุดทำงาน และชุดราตรี ข้อดีของผ้าไหมอิตาลีคือใส่สบาย ดูแลรักษาง่าย และสีไม่ตกง่าย แต่ข้อเสียคืออาจระบายอากาศได้น้อยกว่าผ้าธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ผ้าไหมอิตาลีเกรดเอในปัจจุบันมีคุณภาพที่ดีขึ้น ทำให้สามารถใส่ได้อย่างสบายและดูสวยหรูได้ในทุกโอกาส
หากกำลังมองหาผ้าที่ดูพรีเมียมและราคาไม่สูงเกินไป ผ้าไหมอิตาลีเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ลองเลือกใช้และสัมผัสความหรูหราของผ้านี้ดู แล้วจะรู้ว่าผ้าไหมอิตาลีสามารถเพิ่มความมั่นใจและเสริมเสน่ห์ให้กับการแต่งตัวของคุณได้จริง ลองเลือกจากสินค้าแนะนำต่อไปนี้
สินค้าผ้าไหมอิตาลีแนะนำ

1. ผ้าไหมอิตาลี นุ่ม ลื่น ทิ้งตัว
ผ้าไหมอิตาลีมีคุณสมบัติ นุ่ม ลื่น ทิ้งตัว เมื่อสวมใส่แล้วให้สัมผัสเหมือนกับใส่ผ้าไหมไทยบางชนิด แต่การระบายความร้อนนั้นสู้ผ้าไหมธรรมชาติไม่ได้ แต่ด้วยความนุ่มลื่น หรูหรา ก็นำมาตัดเย็บเสื้อผ้าได้อย่างสวยงาม
2. ผ้าไหมอิตาลี เนื้อหนาปานกลาง พิมพ์ลายได้ง่าย
ผ้าไหมอิตาลีพัฒนามาให้ใช้งานได้ในระดับอุตสาหกรรม ให้เนื้อสัมผัสเหมือนผ้าไหม มีความหนาปานกลาง พิมพ์ลวดลายต่างๆ ได้ จึงนำมาทำเป็นผ้าพันคอ ผ้าม่าน ชุดเสื้อผ้าพรีเมี่ยมแบรนด์เนมหลายแบรนด์ ก็เลือกใช้ผ้าไหมอิตาลี
3. ผ้าไหมอิตาลี ระบายอากาศได้ดี
ผ้าไหมอิตาลีใส่แล้วไม่ร้อน แม้ว่าจะไม่ระบายอากาศได้ดีเท่าผ้าฝ้าย หรือผ้าไหมแท้ แต่ก็ไม่กักเก็บความร้อน ระบายเหงื่อได้ดี จึงมักเห็นผ้าไหมอิตาลีในชุดเชิ้ตฮาวาย ชุดเสื้อผ้าใส่ไปทะเล
4. ผ้าไหมอิตาลี ยับยาก
เมื่อเทียบกับผ้าฝ้าย และผ้าคอตตอนแล้ว ผ้าไหมอิตาลียับยากกว่า เมื่อตัดเย็บเป็นชุดทำงาน ก็ใส่ได้หลายโอกาส ไม่ต้องรีดบ่อยๆ
5. ผ้าไหมอิตาลี มีความยืดหยุ่น
ผ้าไหมอิตาลี มีความยืดหยุ่น แข็งแรงกว่าผ้าไหมธรรมชาติ จึงซักกับเครื่องซักผ้าได้ด้วย
ข้อดี – ข้อเสียของผ้าไหมอิตาลี
การเลือกใช้ผ้าไหมอิตาลีสำหรับตัดชุดสวยๆ เช่น ชุดไทยจิตรลดา ชุดทำงาน เชิ้ต หรือใช้พิมพ์ทำผ้าพันคอลายสวยๆ ทำให้ได้ผ้าที่รูปลักษณ์พรีเมี่ยม ทันสมัย แต่ความคงทนนั้น ก็ไม่สามารถเก็บได้ถึง 10 – 20 ปี เหมือนผ้าสมัยก่อน เนื่องจาก 98% ของเนื้อผ้านั้นเป็นโพลีเอสเตอร์ เมื่อกาลเวลาผ่านไป จะทำให้เนื้อผ้าแข็งกระด้าง เปลี่ยนรูปทรงไปบ้าง
อีกเรื่องหนึ่งที่ผ้าไหมอิตาลีไม่ถูกใจบางคน คือ บางคนรู้สึกว่าใส่แล้วร้อน ถ้าเป็นชุดที่ต้องผ่านการทับผ้ากาว และเสริมบ่าหนาๆ เมื่อต้องใส่ทั้งวันแล้วอาจจะรู้สึกไม่สบายตัวเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นการตัดชุดทรงสวยๆ เพื่อใส่ในบางโอกาส ก็ถือว่าเหมาะสมมากทีเดียว
ผ้าไหมอิตาลี ราคาเท่าไหร่
ผ้าไหมอิตาลี มีทั้งเกรดตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่น และตัดผ้าพรีเมียม 1 พับ มีความยาวถึง 140 หลา ร้านที่นำเข้าผ้าไหมอิตาลีสีพื้นก็ตัดแบ่งจำหน่าย และมีช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลาย อาทิ
1. ผ้าไหมอิตาลี สีพื้น เมตรละ 75 บาท (คลิกสั่งซื้อที่นี่)
ผ้าไหมอิตาลีสีพื้น เกรดพรีเมี่ยม ร้าน Juliet Rose สำหรับตัดชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอื่นๆ แบ่งจำหน่ายในราคาเมตรละ 75 บาท หน้ากว้าง 60 นิ้ว จะนำไปตัดสูท ชุดกระโปรง เดรส ก็สามารถเลือกความยาวตามที่ต้องใช้ได้ (คลิกดูผ้าไหมอิตาลีร้าน Juliet Rose ได้ที่นี่)
2. ผ้าไหมอิตาลีเกรดแฟชั่น เมตรละ 45 บาท (คลิกที่นี่)
ตัวอย่างผ้าไหมอิตาลีสีพื้น ราคาต่อเมตร ต่อหลาไม่แพง สำหรับตัดชุดแฟชั่น ชุดทำงาน เสื้อเชิ้ต จากร้าน Sirichai Fabric นอกจากตัดชุดแล้ว ยังใช้ทำซับในกระเป๋า ทำชุดนอน ทำงานประดิษฐ์อื่นๆ เลือกแบ่งซื้อได้เป็นเมตร หน้ากว้าง 58 นิ้ว (คลิกดูผ้าไหมอิตาลีร้าน Sirichai Fabric ได้ที่นี่)
Q & A เกี่ยวกับคุณสมบัติของ “ผ้าไหมอิตาลี”
ผ้าไหมอิตาลีนำมาใช้กับอุตสาหกรรมเสื้อผ้าในเมืองไทยหลายปีแล้ว หากพลิกป้าย tag เสื้อแล้วพบว่าเป็น Italian Silk จะต้องดูแลรักษาอย่างไร มีวิธีการดูแลอย่างไร Mycontent-thai.com รวมข้อสงสัยเกี่ยวกับผ้าไหมอิตาลีไว้ที่นี่
Q : ผ้าไหมอิตาลี ยับไหม
A : ถ้าไปเจอร้านที่โฆษณาว่า ผ้าไหมอิตาลี ใส่แล้วไม่ต้องรีด ใส่แล้วไม่ยับ ก็ต้องฟังหูไว้หู เพราะไม่ว่าจะเป็นผ้าอะไร ใส่แล้วก็ยับได้ทั้งนั้น แต่ผ้าไหมอิตาลีนี้เมื่อเทียบกับผ้าฝ้ายธรรมชาติ ผ้าไหมธรรมชาติ ก็ถือว่ายับยากกว่าหน่อย และมีวิธีการรีดที่ไม่ยาก ใช้เตารีดไอน้ำถูๆ นิดหน่อย ก็เรียบพร้อมสวมใส่แล้ว
Q : ผ้าไหมอิตาลี ยืดหยุ่นไหม
A : ผ้าไหมอิตาลีมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย เพราะฉะนั้นหากต้องการซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูป ถ้าวัดรอบเอว สะโพก แบบพอดีตัว ก็สามารถยืดได้อีกนิดหน่อย ถ้าเป็นคนที่รูปร่างเปลี่ยนไซส์เร็ว ก็ควรซื้อแบบเผื่อไซส์บวกหนึ่งไซส์
Q : ผ้าไหมอิตาลี ใช่ผ้าไหมแท้ไหม
A : ผ้าไหมอิตาลี เป็นชื่อเรียกผ้าที่ผลิตจากกระบวนการอุตสาหกรรม เนื้อผ้าเป็นผ้าใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์ (Polyester) ถึง 98% ดังนั้นเรื่องคุณสมบัติการระบายอากาศ การใช้งานต่างๆ ไม่เหมือนผ้าไหมที่เป็นผ้าธรรมชาติ ข้อดีของผ้าไหมอิตาลีแม้ว่าจะแพ้เรื่องผ้าไหมธรรมชาติเรื่องการระบายความร้อน แต่ก็โดดเด่นกว่าเรื่องการพิมพ์ลาย ได้สีสัน ลวดลาย ทำได้มากกว่า
Q : ผ้าไหมอิตาลี ร้อนไหม ใส่แบบไหนไม่ร้อน
A : แม้ว่าทุกร้านจะโฆษณาว่าเสื้อผ้าที่ขาย ทำมาจากผ้าไหมอิตาลี แต่ก็มีตั้งแต่เกรดทั่วไป ไปจนถึงเกรดพรีเมี่ยม หากต้องการผ้าไหมอิตาลีที่ใส่แล้วไม่ร้อน ควรได้สัมผัสเนื้อผ้า เลือกผ้าที่เนื้อหนา ตัดเย็บได้รูปทรง ไม่ต้องอัดผ้ากาว ใส่แล้วจะไม่ร้อน แต่ถ้าสวมใส่ในห้องแอร์ หรืออยู่ในอาคารติดเครื่องปรับอากาศทั้งวัน ก็ไม่ต้องเป็นห่วง
Q : ผ้าไหมอิตาลี ระบายอากาศไหม
A : แม้ว่าจะมีใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์ (Polyester) ถึง 98% เป็นส่วนประกอบ แต่การระบายความร้อนของผ้าไหมอิตาลีก็ชนะผ้าใยสังเคราะห์ชนิดอื่นๆ สวมใส่สบาย ไม่กักเก็บเหงื่อ เมื่อเปียกน้ำแล้วก็แห้งง่ายอีกด้วย
Q : ผ้าไหมอิตาลี ขาดง่ายไหม
A : เมื่อเทียบกับผ้าไหมธรรมชาติแล้ว ผ้าไหมอิตาลีถือว่าขาดยากกว่า แต่ถ้าคุณต้องไปทำกิจกรรม Outdoor ทั้งวัน ก็ไม่ควรเลือกกางเกงที่เป็นผ้าไหมอิตาลี มีโอกาสขาดอยู่แล้ว แต่ถ้าใส่ในชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ได้ไปทำกิจกรรมหนักๆ ก็ถือว่าทนทานมากทีเดียว
Q : ผ้าไหมอิตาลีซักอย่างไร
A : ผ้าไหมอิตาลีซักได้กับเครื่องซักผ้า และซักมือ แต่สำหรับผ้าไหมอิตาลีพิมพ์ลาย พรีเมี่ยม ราคาสูง ก็ควรซักมือ หรือส่งซักแห้ง ดูแลเป็นอย่างดีเพื่อรักษาผ้าไว้ใช้ แต่หากเป็นชุดทำงาน เสื้อเชิ้ต กางเกงผ้าไหมอิตาลีทั่วไป ก็ใส่ถุงซักผ้า ลงเครื่องซักผ้าได้ทั้งฝาหน้าและฝาบน เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ไม่ทำลายเนื้อผ้า และใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มได้ตามปกติ
Q : ผ้าไหมอิตาลี 1 ม้วน มีกี่หลา
A : เมื่อต้องใช้ผ้าไหมอิตาลีตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปขาย แต่ละร้านก็มีขนาดหน้ากว้างของผ้าให้เลือกแตกต่างกันตั้งแต่ 58 – 60 นิ้ว และมีความยาวประมาณ 140 หลา สามารถสอบถามกับทางร้านที่สั่งซื้อ หรือไปเลือกถามกับร้านขายส่งผ้าม้วนใกลบ้าน
สำหรับใครที่เพิ่งรู้จักผ้าไหมอิตาลีเป็นครั้งแรกจากบทความนี้ ก็หวังว่าจะเป็นความรู้เบื้องต้นให้เลือกและดูแลผ้าสำหรับสวมใส่ นอกจากนี้ Mycontent-thai.com ยังรวมบทความเกี่ยวกับผ้าไหมชนิดอื่นๆ ไว้ในเว็บไซต์ด้วย สามารถติดตามได้จากด้านล่างนี้ได้เลยครับ
Read More :


