บริษัทสิงห์เอสเตทจำกัด (มหาชน) หรือ S บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในไทยและหลายประเทศทั่วโลก เร่งขับเคลื่อนแนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ภายใต้ปรัชญา “Go Beyond Dreams” เพื่อเป็นรากฐานในการดำเนินงาน มุ่งสู่องค์กรที่บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี พ.ศ.2573 ผ่านโครงการ “ปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว” ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หลังจากคิกออฟไปเมื่อปี พ.ศ.2565 ตั้งเป้าปลูกป่า 1 ล้านตารางเมตรภายในปีพ.ศ.2568
โครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว ดำเนินภายใต้ปรัชญา “Go Beyond Dreams” ในกลยุทธ์ Go Exceed, Go Exist สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านความสมดุลในทุกมิติ ทั้งชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โครงการฯมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว อันเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอน แบบ 1 ต่อ 1 หรือ 1 ตารางเมตร ที่สิงห์ เอสเตทพัฒนาโครงการ จะดูแลผืนป่า 1 ตารางเมตรด้วยเช่นกัน โดยโครงการนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่ทั้งหมด 634 ไร่ สำหรับ 2 ปีที่ผ่านมา ได้ทำการปลูกต้นไม้ไปแล้วทั้งหมด 6,200 ต้น ซึ่งมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 20% และในปีนี้ สิงห์ เอสเตทได้จัดเตรียมพรรณไม้พื้นถิ่นอย่างต้นรวงผึ้ง นำมาปลูกเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สาเหตุของภาวะเรือนกระจก

คุณฐิติมารุ่งขวัญศิริโรจน์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทสิงห์เอสเตทจำกัด (มหาชน) หรือ S กล่าวว่า “ในปีนี้โครงการ ‘ปลูกป่าด้วยปลายนิ้วได้เข้าสู่ปีที่ 3 แล้วโดยตั้งเป้าปลูกป่าให้ได้ 1 ล้านตารางเมตรให้เสร็จสมบูรณ์ในปีพ.ศ.2568 และตั้งเป้าโครงการระยะยาว 10 ปีจากความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินงานเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของบริษัทฯในการเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการทำงานเชิงรุกปรับกระบวนการผลิตและกลยุทธ์ก่อให้เกิดผลด้านการดำเนินงานและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติซึ่งที่ผ่านมาเราได้เริ่มต้นจากสร้างการรับรู้ให้ผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและโครงการปลูกป่านี้เราตั้งใจที่จะทำให้ครอบคลุม 3 พื้นที่เหนือกลางและใต้ได้แก่1)ป่าต้นน้ำปักหมุดสิงห์ปาร์คเชียงรายเป็นสถานที่ในการปลูกป่าเพราะด้วยลักษณะภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติและซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพลิกฟื้นผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์กว่าที่เคย2)ป่าในเมืองที่กรุงเทพมหานครสร้างพื้นที่สีเขียวตามโครงการต่างๆของสิงห์เอสเตทเช่นสร้างสวนหย่อมนั่งพักผ่อนเปิดเป็นพื้นที่สาธารณะหน้าอาคารสำนักงาน S-OASIS และ Singha Complex การรักษาต้นไม้ใหญ่ของพื้นที่เดิมในทุกโครงการ3)ป่าปลายน้ำปลูกต้นโกงกางที่ปลายชายเลนเกาะพีพีจ.กระบี่ รวมไปถึงโครงการที่ต่างประเทศCROSSROADS Maldivesเราได้ตั้งเป้าอนุรักษ์พื้นที่ทางทะเลที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 3 ล้านตารางเมตรทั้งหมดนี้เพื่อเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนและเข้าสู่การเป็นองค์กร Carbon Neutrality ภายในปีพ.ศ.2573ตามที่ตั้งเป้าไว้และเราเชื่อว่าการริเริ่มโครงการเหล่านี้จะสะท้อนถึงพันธกิจ‘Go Beyond Dreams’ที่สิงห์เอสเตทตั้งไว้ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน”

โดยโครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว เป็นส่วนหนึ่งในแนวทางการดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability Development) เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และแหล่งกักเก็บคาร์บอน จำนวน 1 ล้าน ตารางเมตร ผ่านกลยุทธ์ Go Exceed, Go Exist 3 แกนหลัก

- Climate Resilience Model การตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมในการจำกัดคาร์บอนของประเทศไทย หรือ NDC (Nationally Determined Contribution) ที่ 40% เพื่อเป็นองค์กรที่มีบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality
- Nature-Based Solutions การสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งสิ่งมีชีวิตทางบกและทางทะเล อนุรักษ์สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในกลุ่มใกล้สูญพันธุ์ตาม IUCN Green List Standard ในการป้องกัน หลีกเลี่ยง บรรเทา ฟื้นฟู และชดเชยผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่อความหลากหลายทางชีวภาพตลอดห่วงโซ่คุณค่า
- Enriching Society มุ่งเป็นศูนย์กลางในการสร้างสังคมคุณภาพ ผ่านโครงการต่าง ๆ ถึงกว่า 30 โครงการ นับเป็นจำนวนมากกว่า 1000,000 คน ครอบคลุมพื้นที่การดำเนินงาน 5 ประเทศในทุกกลุ่มธุรกิจ
ด้านคุณชวาลคงทรัพย์ผู้จัดการทั่วไปบริษัทสิงห์ปาร์คเชียงรายจำกัดกล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนของสิงห์ปาร์คเชียงรายรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับสิงห์เอสเตทในโครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้วการร่วมกันปลูกป่าและดูแลพื้นที่สีเขียวในพื้นที่แห่งนี้ตั้งแต่ต้นไม้ต้นแรกที่เริ่มปลูกจนเข้าสู่ปีที่ 3 ของโครงการเราได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมในการเพิ่มพื้นที่ป่าต้นน้ำในเขตจังหวัดภาคเหนือเนื่องจากสิงห์ปาร์คเชียงรายมีความเหมาะสมสำหรับเป็นพื้นที่ปลูกป่าต้นน้ำทั้งด้านลักษณะภูมิประเทศที่อยู่ติดกับแนวป่าต้นน้ำธรรมชาติซึ่งมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่จะก่อให้เกิดการเอื้ออาศัยกันทางระบบนิเวศนับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในการสร้างสิ่งแวดล้อมดีๆที่ไม่ใช่แค่ในจังหวัดเชียงรายแต่เป็นการคืนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับทุกคน”
จุดมุ่งหมายของโครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว มีเป้าหมายในการช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ สิงห์ เอสเตทเล็งเห็นว่า การปลูกป่าเปรียบเสมือนต้นน้ำ ที่สำคัญที่สุดในการดำรงอยู่ของระบบนิเวศ เพราะหากต้นน้ำอุดมสมบูรณ์แล้ว จะส่งผลให้ความหลากหลายทางชีวภาพเจริญเติบโตได้อย่างดี รวมถึงระบบนิเวศมีความอุดมสมบูรณ์เช่นกัน โดยโครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว มีการทำต่อเนื่องทั้งปี เพื่อให้คนในพื้นที่และชุมชนได้มาช่วยกันปลูกผืนป่า พร้อมทั้งดูแลป่าที่สร้างขึ้นมาเอง ซึ่งจะช่วยสร้างทุนทางสังคมและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน ต่อยอดไปสู่การแบ่งปันให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มอากาศสะอาด และช่วยลดภาวะโลกร้อน จะเห็นได้ว่าการดำเนินงานดังกล่าวล้วนสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Entrusted and Value Enricher ที่มุ่งมั่นสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืน
Read More :

