iPad 2018 ใช่ตัวเดียวกันกับ iPad pro 9.7 ไหม

รู้ไว้ก่อนซื้ออุปกรณ์บางอย่างที่ใส่แทนกันไม่ได้

สวัสดีค่ะ วันนี้มาพบกับเรื่องราวของ Gadget IT ซึ่งวันนี้มาในฐานะ Content Writer ที่ขอเปลี่ยนสายจาก Window มาเป็น iOS หลังจากมีประสบการณ์ตามหา Notebook ตัวเล็ก ๆ มาเป็นเครื่องมือทำมาหากอน ปรากฎว่าหน้าจอ 10 นิ้วทั้งหลาย ไม่ตอบโจทย์เลย เนื่องจากหน้าจอมันเล็กเกินไป ทำให้ตัวอักษรมองยาก สู้ใช้งานผ่านจอ 13 นิ้วขึ้นไปไม่ได้ แม้ว่าจะปรับ Text Size ให้ใหญ่สุดแล้วก็ตาม

iPad 2018 ไม่ใช่ iPad Pro 9.7

ก่อนอื่นต้องบอกว่า 2 ตัวนี้ ไม่ใช่ตัวเดียวกัน โดย iPad 2018 นี้มีชื่อเล่นว่า The New iPad ที่มีคุณสมบัติเป็น iPad Air ที่รองรับการใช้ปากกา Stylus และ ใช้ฟังก์ชั่นสแกนนิ้วได้ และใช้สถาปัตยกรรมโครงสร้างภายในแบบ iPhone 7 อัพเดท iOS 12 ตัวล่าสุดได้ แถมยังใช้คีย์บอร์ดได้ด้วย แต่หลายคนก็สงสัยว่าใช้ KeyBoard ของ iPad Pro 9.7 ได้ไหม

iPad Pro 9.7 กับ iPad 2017 ก็ไม่เหมือนกัน (ตัวที่มีคำว่า Pro ราคาสูงกว่าเสมอ)

ตัวหน้าตา Size iPad 9.7 นิ้ว เริ่มมีมาให้เห็นในช่วงต้นปี 2017 ซึ่งเป็นตัวที่เรียกว่า iPad Pro 9.7 กับ iPad 2017 ทั้ง 2 ตัวนี้ ก็มีชื่อเรียกเล่นแตกต่างกันอีก แล้วก็ไม่เหมือนกัน อีก ตัวที่มีคำว่า Pro ย่อมราคาสูงกว่าเสมอ

 

(ภาพ iPad Pro 2017)

ในตามรีวิวบอกว่า ตัวที่ใช้คำว่า Pro นี้จะมีลำโพง และอุปกรณ์ภายในที่เพิ่มคุณสมบัติเล่น Multimedia ได้ดีกว่า  และตัวที่เป็น iPad 2017 ต่างจาก iPad 2018 ตรงที่ไม่รองรับปากกานะจ้ะ

ตอนเปิดตัว iPad Pro 9.7 เป็นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2016 ผู้เขียนเองไม่มีความสนใจที่จะซื้อเลย เพราะตอนนั้นมี iPad Mini 2 Wifi 32 GB อยู่แล้ว คือการใช้งานของเราเอาไว้เปิดเครื่องดูนู่นนี่ Update ข่าวสาร ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เรื่องอื่น ๆ แถมรู้สึกว่ามันยังพิมพ์ยากด้วย และหากต้องซื้อ Keyboard มาไว้สำหรับเขียนบล็อก พิมพ์เพิ่ม ราคาตัวเครื่องกับ Keyboard รวมแล้วเกือบ 22,000 บาท ณ ตอนนั้นก็ไม่ไหว

(ภาพ iPad 2017)

แล้วพอมาเป็น iPad 2017 อีกก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ต่างกับ iPad Mini 2 ที่มีอยู่สักเท่าไหร่ นอกจากเรื่องหน้าจอเรติน่า และการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งจุดนี้ก็ยังแตกต่างกันเพียงนิดเดียว ไม่คุ้มค่าที่เราจะซื้อใหม่ หรือ Turn อ่ะนะ

ทีนี้ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อ iPhone 7 มาแล้ว iPhone Xs/XR ก็เปิดตัวแล้ว ทำให้เราต้องอัพเดทตัวเองเพิ่มขึ้น เนื่องจากเครื่อง iPad Mini เริ่มช้า ไม่ตอบโจทย์แล้ว นับไปนับมาใช้งานมา 3 ปี ยังคงสภาพดี ขายได้ครึ่งราคา และเพิ่มเงินอีกประมาณ 5,000 บาท เราจะได้ใช้เทคโนโลยีที่เป็น Octa Core และ Ram 2GB รวมถึง Update iOS 12 ได้ การถ่ายภาพต่าง ๆ ได้คุณสมบัติเดียวกับ iPhone 7 ก็ถือว่าไม่ช้า ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น จาก 7 กว่า ๆ เป็น 9.7 นิ้ว ถือว่าคุ้มนะ

iPad 9.7 นิ้ว ใช้กับคีย์บอร์ดแบบไหน

และบวกกับอยากได้ Note Book ใหม่ ไว้แค่พิมพ์งานอย่างเดียว ไม่ได้ใช้ทำภาพกราฟฟิกอะไรเพิ่มเติม (เม้าส์ ก็คงไม่ค่อยได้ใช้) ไปดู Surface Go มา คุณสมบัติตอบโจทย์เรามาก แต่ว่าจอมันเล็กเกินไป มองไม่เห็นจริง ๆ ราคาก็พอ ๆ กันกับ iPad 2018 + Keyboard

ซึงปัจจุบัน iPad ขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว เหลือขายรุ่นเดียวใน Apple Store ก็คือ The New Ipad 2018 แต่ ที่ available อยู่มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่

  • iPad Pro 9.7 (Model 2016)
  • iPad 2017 (Model 2017)
  • iPad 2018 (Model 2018)

จะ Cellular หรือ Wifi ก็ว่ากันไป ซึ่งทุกรุ่น สามารถใส่กับ Case Keyboard Silicone ของ iPad Pro 9.7 ได้ แต่ในราคา 5,700 บาท สำหรับบางคนก็อาจจะดูเกินเอื้อมถึงเกินไป ถ้าหันมาใช้ Magic Keyboard ในราคาประมาณ 3,400 บาท ก็จะดูใหญ่เกินพกพา เพราะเจ้า Keyboard ตัวนี้เอาไว้สำหรับใช้คู่กับ iMac มากกว่า .. ทีนี้ก็เกิดอาการลังเลว่าควรจะใช้ Key Board แบบไหน กับ iPad 2018 ดี

(ภาพ Magic Smart Keyboard)

Click ดูอุปกรณ์เสริมไอแพด Lazada ที่นี่

ในระหว่าง 3 ตัว ที่พูดมาข้างต้น ก็เคยมีคนสงสัยเหมือนกันว่าซื้อตัวไหนดี ซึ่งเป็นคำถามที่มีผู้โพสต์ถามไว้ใน Pantip ตั้งแต่ปี 2018 ระหว่างต้องเลือก iPad Pro 9.7 2016 / iPad 2018 ส่วน iPad 2017 ถูกตัดทิ้งไปเพราะไม่รองรับปากกาแล้ว

Comment คำตอบที่น่าสนใจ มาจากความคิดเห็นที่ 1 ที่บอกว่าหากคุณต้องการการดูหนังฟังเพลง และลำโพงกับจอที่ดีกว่า ก็เลือก  iPad Pro 9.7 2016 ไป แต่หากต้องการใช้งานทั่วไป ก็ต้องเป็น iPad 2018 แต่จากความคิดเห็นของผู้เขียนเองคาดว่าหากคุณรอ iPad 2019 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในกุมภาพันธ์ 2019 นี้ คุณสมบัติที่จะได้รับคงไม่แตกต่างกันมากกับ iPad 2018 ที่อาจจะมีมาให้เห็นใหม่เลยจริง ๆ น่าจะเป็นเรื่องการเอาเจ้าขีดขาว ๆ ที่ทำให้ iPad 2018 ดูไม่แพงนั้นออกไป และได้เห็นจอแบบ LED แทน Ratina กันนะ

 

(ภาพ Keyboard iPad Pro 9.7)

 

สุดท้ายนี้ การจับคู่ระหว่าง Keyboard ของ Apple แท้ กับ iPad นั้น มันจะ Smooth ดึกว่าเสมอ เล่นได้ลื่นไหล ทุกอย่าง Perfect แม้ว่าทางบางประเทศ ยอมรับ Logitech ให้มาขายใน Apple Store กับเขาด้วย แต่ก็ต้องยกให้ Keyboard Silicone ของ Apple ว่าเป็นการจับคู่ Bluetooth ที่ดีที่สุด แต่ในราคา 5,700 บาท ถือว่าเป็นครึ่งหนึ่งของตัวเครื่อง หากบวกกับปากกา Stylus อีก 3,400 บาท ก็เกือบอีกเท่าตัวของเครื่องเลยทีเดียว ทำให้เกิดการซื้อสินค้าจีนมาแทนที่ เอาแบบพอใช้งานได้มากกว่า .. ตัวผู้เขียนเองตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกคีย์บอร์ดจากไหน และรอลุ้นปีหน้าว่าจะมีเงินเก็บซื้อคีย์บอร์ดใหม่ หากบังเอิญว่าของจีนสั่งมาแล้วใช้งานพอได้ ก็คงจะไม่ได้ซื้อเคสคีย์บอร์ดแท้ ..ส่วนคุณเองก็คงมีคำตอบในใจแล้วใช่ไหมล่ะ!

ติดตาม Facebook / Twitter ของผู้เขียนได้ที่ปุ่มด้านล่างเลยจ้า

 

 

Advertisement

2 Comments

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s